“ลอยกระทงหลายเวอร์ชั่น: ไทย x ญี่ปุ่น”
เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่มีวันลอยกระทง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะไม่ใช่มีแค่ไทยชาติเดียวเท่านั้นที่มีประเพณีนี้ ประเทศอื่นก็มีเหมือนกัน เช่น ญี่ปุ่น, จีน, อินเดีย,พม่า แม้จะเป็น “กระทง” เหมือนกัน (นิยามคือภาชนะที่บรรจุไฟไว้นำไปลอยในน้ำ) แต่จุดประสงค์ของการลอยแตกต่างกันไป เดือนที่ผ่านมาหมอมีงานกระหน่ำจนไม่ได้เขียนบทความ T^T วันนี้เลยขอมาเล่าเรื่องวันลอยกระทงแบบย้อนหลังละกันค่ะ
>> ว่าด้วยการลอยกระทงเวอร์ชั่นไทย
จุดประสงค์การลอยกระทงในไทยมีหลายทฤษฎีมาก แต่ที่จดจำกันมากที่สุดเพราะอยู่ในหนังสือวิชาสังคม (ออกข้อสอบ)ได้กล่าวไว้ว่า
“ประเพณีลอยกระทงมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ลอยโดยนางนพมาศ เพื่อเป็นการขอขมาต่อแม่น้ำที่มีพระแม่คงคาอาศัยอยู่ มนุษย์ทำให้ท่านแปดเปื้อน และเป็นการขอบคุณที่ท่านทำเรามีน้ำใช้ดื่มกิน”
ส่วนทางพระพุทธศาสนา เช่น เป็นการบูชาพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์, ต้อนรับพระพุทธเจ้าในวันเสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งไปโปรดพระพุทธมารดา
แต่เริ่มเดิมทีงานลอยกระทงจัดกันแบบง่าย ๆ ใช้วัสดุจากธรรมชาติปักเทียนลอยไป หลายพื้นที่มีวัฒนธรรมในการจัดต่างกัน เช่น ภาคเหนือมีการลอยโคมไฟ คนที่กำลังจีบกันหรือคู่รักใช้วันลอยกระทงเป็นโอกาสโชว์ความหวานซึ้งด้วยการลอยกระทงอธิษฐานร่วมกัน ต่อมามีการพัฒนาเป็นเวอร์ชั่นงานเทศกาลที่อลังการขึ้นเรื่อยๆ เช่น มีร้านรวงต่าง ๆ มาขายของ/เล่นเกม, เวทีคอนเสิร์ต หลายโรงแรมหรูจัดอีเว้นต์ให้คู่รักดินเนอร์ร่วมกับการลอยกระทงและดูพลุ ส่วนกระทงมีทั้งที่ทำจากพลาสติก, ขนมปังและอีกหลากหลาย
เผิน ๆ เหมือนจะเป็นงานที่มีความพิเศษน่าจดจำ แต่สิ่งที่หมอไม่เห็นด้วยกับบางเรื่องในงานลอยกระทงยุคปัจจุบัน
. ตัวกระทงที่เหมือนจะใช้เพื่อขอบคุณพระแม่คงคา แต่กลับกลายมาเป็นทำร้ายมากกว่าเพราะมีขยะที่เกิดจากวัสดุที่ย่อยสลายไม่ได้ หรือขนมปังที่ทำน้ำเน่า (ปลากินไม่ไหว)
. จากเดิมที่การลอยโคมไฟเป็นหนึ่งในประเพณีการลอยกระทงทางภาคเหนือ ต่อมาคนภาคอื่นเอามาทำตาม โคมไฟที่ลอยไปสร้างความพินาศเดือดร้อนให้กับคนอื่น เช่น ทำหลังคาบ้านไฟไหม้
. กลายเป็นงานสังสรรค์เมาเหล้าและใช้สารเสพติดเพื่อความสนุก หรือทำสิ่งอื่นที่จะทำให้ตัวเอง/คนอื่นเดือดร้อน เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน, เล่นวัสดุติดไฟไปโดนคน/สิ่งของ
ส่วนตัวคิดว่างานลอยกระทงยังเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน (หากเราเชื่อตามแบบเรียนสังคมของกระทรวงศึกษาธิการ) ควรรักษาไว้ แต่ลดทอนบางสิ่งที่ไม่จำเป็นและทำให้สิ่งแวดล้อมย่ำแย่ หรือคนอื่นเดือดร้อน เมื่อกาลเวลาผ่านไปเราต้องปรับตัวให้เหมาะ เช่น ไปที่จัดงานริมแหล่งน้ำ งดลอยกระทงด้วยวัสดุจริงมาเป็นลอยทางอินเตอร์เน็ต/ metaverse แทน, ใช้วัสดุทำกระทงที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม, งดการใช้วัสดุติดไฟ
>> ว่าด้วยการลอยกระทงประเทศญี่ปุ่น
ชาวญี่ปุ่นมีประเพณีลอยกระทง ‘โทโรนากาชิ’ (灯籠流し) เพื่อส่งความรำลึกถึงผู้ล่วงลับ ซึ่งมีที่มาจากตำนาน แม่น้ำซันสุคาวะที่มีความเชื่อจากตำนานพระไตรปิฎกเกี่ยวกับโลกทั้งสาม
แม่น้ำซันสุคาวะเป็นพรมแดนระหว่างโลกแห่งความเป็นและความตาย คนที่ตายแล้วเท่านั้นถึงจะข้ามแม่น้ำนี้ไปสู่ปรโลกได้ และเมื่อข้ามไปแล้วจะไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีกจนกว่าจะได้เกิดใหม่ ความเชื่อนี้สอดแทรกในชีวิตประจำวันรวมไปถึงมังงะ/อะนิเมะ เช่น ฉากฮาของพระเอกที่ถูกนางเอกจอมซึนดาเระต่อยจนสลบ พระเอกมองเห็นทวดที่ตายไปแล้วกวักมือเรียก เป็นการใช้ภาพแทนคำว่า “แทบปางตาย” นั่นเอง
ตำนานแม่น้ำซันสุคาวะในยุคแรกเริ่มที่มีการจดบันทึกไว้ เชื่อกันว่าเป็นแม่น้ำที่มีหมอกหนาทึบจนมองไม่เห็นอีกฝั่ง คนตายที่ทำดี/ทำเลวจะข้ามแม่น้ำด้วยวิธีต่างกัน
. ผู้ที่ทำความดีจะได้ข้ามสะพานเงินสะพานทองไปสู่ภพภูมิที่ดี
. ผู้ที่ทำบาปไม่มากจะข้ามทางที่มีน้ำท่วมสูงถึงเข่าที่เดินลำบากพอประมาณ
. ผู้ที่มีบาปหนาจะต้องข้ามทางน้ำลึก มีอุปสรรคมากมาย ทั้งกระแสน้ำเชี่ยวแรงเป็นลูกธนูทิ่มแทงตามตัว คลื่นสูงเท่าภูเขา สายน้ำพัดก้อนหินใหญ่มา ถ้าถูกทับตายก็ต้องฟื้นขึ้นมาใหม่ ถ้าจมน้ำจะมีงูยักษ์รออยู่ด้านล่าง ถ้าขึ้นเหนือน้ำจะมีจอมมารคอยแผลงศรอยู่ด้านบน
ยุคต่อมาแนวคิดเกี่ยวกับการเดินทางของผู้ตายไปยังโลกหน้าเปลี่ยนเป็นรูปแบบเรือข้ามฟาก โลงศพเป็นเรือที่ผู้ตายจะนั่งไปโดยมีปิศาจชายแก่พายให้
. หากเป็นคนดีในช่วงที่มีชีวิตอยู่ จะมีญาติมิตรนำเงินใส่ปากผีเป็นค่าจ้างปิศาจพายไปถึงฝั่งที่ดี
. หากเป็นคนไม่ดี พอตายไปไม่มีใครสนใจนำเงินใส่ไว้ให้ ปิศาจจะพายไปนรก
การลอยกระทงในแบบญี่ปุ่นเป็นการลอยโคมประทีปลงในแม่น้ำ เพราะเชื่อกันว่าแม่น้ำเป็นทางเชื่อมระหว่างโลกคนเป็นและโลกหลังความตาย การลอยโคมเป็นเรือส่งความระลึกถึงคนที่อยู่อีกภพนั่นเอง มีหลายเมืองจัดประเพณีนี้ในช่วงเวลาที่ต่างกัน บางที่จัดเป็นงานเฉลิมฉลองสนุกสนาน แต่บางที่เลือกจัดในวันที่มีความหมาย เช่น “พิธีลอยโคมแห่งแม่น้ำคากิ” จัดทุกวันที่ 1 สิงหาคมของทุกปีที่เมืองนะกะโอกะ จังหวัดนิอิกะตะ เพื่อรำลึกถึงความสูญเสียจากเหตุการณ์การโจมตีทางอากาศโดยกองทัพสหรัฐระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง โดยทิ้งระเบิดอย่างกระหน่ำลงในเมืองในวันที่ 1 สิงหาคม 1945 ซึ่งสร้างความเสียหายมากถึง 80% ของพื้นที่เมืองทั้งหมด และมีชาวเมืองเสียชีวิตเกือบ 1,500 คน ในงานมีนิทรรศการเกี่ยวกับการถูกโจมตีในช่วงสงคราม การอบรมแก่เยาวชน พิธีทางศาสนา และกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์
เล่าเรื่องเกี่ยวกับการลอยกระทงของประเทศญี่ปุ่นแล้ว อยากไปเที่ยวเพื่อสัมผัสบรรยากาศ อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะมีวิธีจัดการกับกระทงที่ลอยลงน้ำอย่างไรเพื่อไม่ให้ทำลายสิ่งแวดล้อม
ทักทายพูดคุยกับหมอแมวน้ำเล่าเรื่องได้ที่ www.facebook.com/sealpsychiatrist
เรื่องแนะนำ :
– “ป๊อกกี้ช่วยชีวิตในยามจิตตก”
– “เห็ดมัตสึตาเกะไม่ใช่ทรัฟเฟิล แต่เรามีดี”
– “มันเผา เกาลัด ความสุขเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่”
– “ใบไม้ที่ร่วงโรยกับความรักที่จากไป”
– “ผิดมั้ยที่ฉันแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ในสังคมญี่ปุ่น”
คลินิก JOY OF MINDS
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะ
https://www.facebook.com/Joyofminds/
Tel: 090-959-9304
#ลอยกระทงหลายเวอร์ชั่น: ไทย x ญี่ปุ่น