การทำงานพิเศษ (Arubaito) สำหรับคนญี่ปุ่นถือว่าเป็นเรื่องปรกติมาก เด็กญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่ทำงานพิเศษกันตั้งแต่อยู่ม.ปลาย เพื่อเก็บเงินซื้อของที่ตนเองอยากได้ โดยไม่แบมือขอจากคุณพ่อคุณแม่ และเมื่อเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย นักศึกษาญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่ทำงานพิเศษเพื่อหาเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของตัวเอง
การทำงานพิเศษที่ญี่ปุ่น เรียกว่า アルバイト อะรุไบโตะ (Arubaito) เป็นคำศัพท์ที่มาจากภาษาเยอรมัน คำว่า Arbeit แปลว่างาน ถ้าออกเสียงแบบญี่ปุ่นจะเรียกสั้นๆ ว่า バイト ไบ้โตะ ส่วนเด็กนักเรียนไทยจะใช้คำว่า ไบ้ท์ ถ้าพูดว่าไปทำไบ้ท์ ก็คือไปทำงานพิเศษนั่นเองค่ะ
การทำงานพิเศษ (Arubaito) สำหรับคนญี่ปุ่นถือว่าเป็นเรื่องปรกติมาก เด็กญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่ทำงานพิเศษกันตั้งแต่อยู่ม.ปลาย เพื่อเก็บเงินซื้อของที่ตนเองอยากได้ โดยไม่แบมือขอจากคุณพ่อคุณแม่ และเมื่อเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย นักศึกษาญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่ทำงานพิเศษเพื่อหาเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของตัวเอง
นักเรียนต่างชาติในญี่ปุ่นทำงานพิเศษได้ไหม
นักเรียนต่างชาติซึ่งไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นด้วยวีซ่านักเรียน( 留学) สามารถทำงานพิเศษได้ค่ะ แต่การทำงานพิเศษ ถือเป็นกิจกรรมที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของสถานภาพนักเรียน ดังนั้น นักเรียนต่างชาติที่อยากทำงานพิเศษ จะต้องยื่นใบคำร้องขออนุญาตทำงานพิเศษ ต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก่อนค่ะ ซึ่งปัจจุบัน การขออนุญาตทำงานพิเศษง่ายมาก สามารถยื่นแบบฟอร์มขออนุญาตทำงานพิเศษที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน ( นาริตะ ฮาเนดะ คันไซ จูบุ ฮิโรชิมะ ชิโตเสะ (ฮอกไกโด) ฟุกุโอกะ ) ในวันแรกที่เหยียบเข้าประเทศญี่ปุ่นได้เลย
ทำงานพิเศษอะไรได้บ้าง
โดยทั่วไปสามารถสมัครทำงานพิเศษได้ทุกประเภทค่ะ แล้วแต่ใครจะหางานประเภทไหนได้ แต่จะมีข้อห้ามสำหรับงานบางประเภทที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงหรือการพนัน เช่น คลับ บาร์ ร้านปาจิงโกะ ฯลฯ งานในสถานที่เหล่านี้ นักเรียนไม่สามารถทำได้ค่ะ ถ้าทำจะถือว่าผิดกฎหมาย
คราวนี้มาดูตัวอย่างของนักเรียนไทยกันค่ะ ว่าเค้าทำงานพิเศษอะไรกันบ้าง
งานร้านอาหารไทย
วีระวุฒิ รุจิขจร หรือวี นักเรียนโรงเรียนสอนภาษา Toyo Language School ทำงานในร้านอาหารไทย โดยในช่วงแรก เริ่มจากงานรับออเดอร์ เสิร์ฟอาหาร ทำความสะอาด แต่พอเริ่มสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้มากขึ้น ก็มีโอกาสได้ทำหลายอย่างเพิ่มขึ้น เช่น รับจองโต๊ะ ต้อนรับลูกค้า เปิด-ปิด Cashier เก็บเงิน สั่งของ
ทำงานร้านอาหารไทยฟังดูเหมือนน่าจะง่าย แต่ที่ญี่ปุ่นมี pattern ในการทำงานที่ต้องปฏิบัติอย่างละเอียดทุกขั้นตอนค่ะ วีเล่าขั้นตอนการทำงานให้ฟังว่า “ ตั้งแต่การรับจอง ต้องสอบถามจำนวนคนและหาที่นั่งให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้า ต้องเช็คกับลูกค้าก่อนว่าทานอะไรได้และไม่ได้บ้าง แนะนำอาหารสำหรับกินคนเดียว หรือกินเป็นกลุ่ม เวลาเสิร์ฟอาหาร ต้องเสิร์ฟเครื่องดื่มก่อนให้เร็วที่สุด เพราะคนญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียมชนแก้วเพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยเหลือกันมา ต้องมีจานแบ่งสำหรับทุกคน เพราะคนญี่ปุ่นไม่กินอาหารร่วมจานกัน ก่อนเก็บจานควรถามลูกค้าก่อนว่ากินเสร็จแล้วหรือเปล่า หลังจากเก็บเงิน ก็ปิดด้วยคำขอบคุณและรอยยิ้ม ที่ลูกค้าให้โอกาสร้านเราบริการ หลังจากปิดร้านทุกครั้ง ต้องเช็คของว่าขาดเท่าไร ต้องสั่งเผื่อกี่วัน จะได้กะจำนวนอาหารถูก เนื่องจากร้านที่เราสั่งของหยุดทำการไม่เหมือนกัน จึงสำคัญมากครับ
ในส่วนของรายได้จะอยู่ที่ 900 เยนต่อชั่วโมง แต่หากทำกะดึก หลังจากสี่ทุ่มขึ้นไป จะปรับเรทขึ้นอีกประมาณ 20% ต่อชั่วโมง นอกจากนี้มีค่ารถไปกลับ 90% ของค่าใช้จ่ายจริง อาหาร 1 มื้อ ต่อ 1 กะ และส่วนลด 30% สำหรับค่าอาหารครับ “
พนักงานร้าน Mc Donalds
พิพัฒน์โลห์รุจินันท์ หรือพัฒน์ นักเรียนโรงเรียน ECC Kokusai College of Languages ทำงานที่ร้านแมคโดนัลด์ “ งานที่ทำจะอยู่ในครัวครับ ย่าง ทอด ทำเบอร์เกอร์ แล้วกะกลางคืนจะล้างของเก็บร้านเตรียมของสำหรับรอบเช้าครับ ในส่วนของค่าจ้างเวลาปกติ 8 โมงเช้า – 4 ทุ่ม ได้ 850 เยนต่อชั่วโมงครับ ถ้าทำกะกลางคืนได้ประมาณ 1,040 เยนต่อชั่วโมง นอกจากนั้นหากซื้ออาหารที่ร้านสาขาที่ทำอยู่จะได้ส่วนลด 30% เวลาที่เราทำงานดีเค้าจะมีเป็น Thankyou card ให้ด้วยครับ กินเซ็ทไหนก็ได้ ฟรี!! หรืออาจจะมาเป็นคำชมจากเพื่อนร่วมงานหรือผู้จัดการร้าน ด้วยครับ “
พนักงานขาย
ในช่วงหลังๆ ที่การท่องเที่ยวญี่ปุ่นบูมในหมู่คนต่างชาติ ความต้องการพนักงานต่างชาติเพื่อทำงานด้านการขายหรือบริการลูกค้าก็เพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ พิชญ์สินี วุฒิพิทยามงคล หรือเพ็ก นักเรียนโรงเรียน College of Business and Communication ได้งานพนักงานขายพาส ( Nikko- Kinugawa Free Pass) จากการแนะนำของเพื่อน “ งานหลักๆ นอกจากขายพาสให้กับคนไทยเเล้ว ยังต้องใช้ภาษาอังกฤษกับคนต่างชาติ เช่น ไต้หวัน อินเดีย อเมริกา ฯลฯ รวมถึงต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นด้วย อีกทั้งต้องเป็น Information Center ไปในตัว งานมันละเอียดมากค่ะ เช่น การออกตั๋วผ่านคอมพิวเตอร์ void ตั๋ว คีย์ข้อมูล เติมตั๋วถ้าตั๋วจะหมด ทำความสะอาดก่อนเปิดร้าน เช็ดกระจก พับโบรชัวร์ ซึ่งเค้าจะสอนให้ ฯลฯ อย่างเพ็กทำกะเช้า ทำวันเสาร์เวลา 7:30-15:30 น. เท่ากับต้องตื่น ตี 5 ถึงตี 5:30 น. เพื่อเข้าให้ทัน 7:30 น. เเต่ถ้าปิดเทอมก็เข้าทั้งวัน สเต็ปเดิม ยืนทั้งวัน ใส่ส้นสูง เค้าไม่ให้นั่งเก้าอี้ค่ะ ทำงานได้ชั่วโมง ละ 1,000 เยน มีค่ารถให้ ”
งานบริษัทรับจ้างขนส่ง
โอ ณัฐวัฒน์ กิจเลิศสกุลชัย นักเรียนโรงเรียน Yokohama International Education Academy ได้งานพิเศษจากการแนะนำของทางโรงเรียน เป็นงานที่บริษัท Yamato บริษัทรับจ้างขนส่งยี่ห้อแมวดำชื่อดังของญี่ปุ่นค่ะ โอเล่าถึงงานว่า “ งานนี้เขาจะมีรายละเอียดของ เวลาทำงาน วันที่ทำงานและค่าแรงให้เราตัดสินใจ ผมเลือกทำชั่วโมงกลางคืน ตั้งแต่ 22:30 – 6:00 น. ได้รับค่าแรงชั่วโมงละ 1,200 เยน แต่เค้ามีกฎอยู่ว่า ใน 1 สัปดาห์ เราห้ามทำงานพิเศษเกิน 28 ชั่วโมง ส่วนเนื้อหาของงานนี้ก็ไม่มีอะไรมากครับ แค่ยกอย่างเดียวเท่านั้น แทบไม่ต้องพูดเลย อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฝึกภาษามากๆเท่าไหร่ครับ “
นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของการทำงานพิเศษที่ญี่ปุ่นค่ะ ยังมีอีกมากมายหลายงาน ที่นักเรียนแต่ละคนได้เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันมีค่า นอกเหนือจากเงินค่าจ้างที่ได้รับจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองแล้ว สิ่งที่ได้รับจากการทำงานพิเศษที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันคือ การได้เรียนรู้การทำงานในแบบฉบับของคนญี่ปุ่น ที่ทำงานกันอย่างจริงจังโดยไม่แบ่งแยกว่าจะเป็นงานประจำหรืองานพิเศษ ได้ซึมซัมการทำงานบริการด้วยความใส่ใจในรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ น้อยๆ รู้จักการปรับตัว ตรงเวลา อดทน มีความรับผิดชอบและละเอียดรอบคอบมากขึ้น ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้หาไม่ได้จากการเรียนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว
การหางานพิเศษในญี่ปุ่น ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่มีความกล้าที่จะสมัครงาน หรือไม่มีความพยายามที่จะหางานในทุกๆ หนทาง ซึ่งในปัจจุบันนี้ การหางานพิเศษสามารถหาได้จากป้ายประกาศตามหน้าร้านที่กำลังเปิดรับสมัครพนักงาน หรือทางอินเตอร์เน็ต แต่ที่สำคัญที่สุดคือทักษะภาษาญี่ปุ่น เพราะอย่างไรก็ตาม งานส่วนใหญ่ยังจำเป็นที่จะต้องใช้ทักษะความรู้ภาษาญี่ปุ่น
มาถึงตอนนี้ หลายคนอาจจะเกิดความคิดที่จะเรียนไปทำงานไปที่ญี่ปุ่น ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ เพราะการทำงานพิเศษไม่ได้ทำให้ได้เงินมากมายพอที่จะส่งเสียตัวเองหรือส่งเงินกลับบ้านที่เมืองไทย และหากทำงานพิเศษเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ( ไม่เกิน 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) ขาดเรียนเกินกว่าที่ทางโรงเรียนกำหนดจะไม่สามารถขอต่อวีซ่าได้ กลายเป็นการไปเรียนต่อญี่ปุ่นที่กลับมามือเปล่าไม่ได้อะไรเลย แม้กระทั่งความรู้
พบปะ “เจ๊เอ๊ด” และ #ทีมเจ๊เอ๊ด ได้ที่ >>> www.facebook.com/jeducationfan
ข้อมูลเรียนต่อญี่ปุ่น-เรียนภาษาญี่ปุ่น >>> www.jeducation.com
เรื่องแนะนำ :
– ข้าวญี่ปุ่นหลากหลายพันธุ์ อร่อยต่างกันยังไง!?
– ชมซากุระที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะกลางป่า..Miho Museum
– แทนที่การ “ตัด” ด้วยการ “เติม”
– ตะลุย 29 สถานีรถไฟสายยามาโนเตะในวันเดียว กับ Tokyo Yamathon
– เปิดโลกอิสระที่แดนอาทิตย์อุทัย กับการเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น