เพื่ออัพ level ความงามทั้งภายนอกภายในของพวกเรา ลองมาดูวิถีแห่งกุลสตรีญี่ปุ่นกัน ลองดูว่าคนญี่ปุ่นเขาอบรมและสอนคนญี่ปุ่นด้วยกันยังไงนะคะ
วันก่อนดิฉันขึ้นรถไฟใต้ดินเห็นผู้หญิงญี่ปุ่นคนหนึ่งยืนเด่นเป็นสง่า เธอยืนหลังตรงขาตรงหน้านิ่ง ๆ ปากยิ้มเล็ก ๆ เหมือนเธอมีออร่าเปล่งออกมา ตอนเธอจะเดินออกเธอขอทางคนโดยโค้งศีรษะนิด ๆ พร้อมบอกเป็นภาษาญี่ปุ่นเบา ๆ ว่า “ซุมิมาเซ็น ๆ” แล้วก้าวออกไปอย่างสง่างาม….
หันมามองเงาสะท้อนตัวเองในกระจกรถไฟ ชะนีนางหนึ่งกำลังยืนหย่อนขาสบายอุรา มือหนึ่งจับมือถือ อีกมือจับผมบ้าง เกาหูบ้าง ภาพที่ออกมาช่างต่างกับสาวญี่ปุ่นคนนั้นโดยลิบลับ
สาวญี่ปุ่นในรถไฟคนนั้นทำให้ดิฉันนึกถึงหนังสือยอดฮิตเมื่อ 4-5 ปีก่อนเล่มหนึ่ง ชื่อ “女性の品格 (Josei no Hinkaku)” หรือแปลเป็นไทยว่า “ความเป็นกุลสตรีญี่ปุ่น” นั่นเอง ผู้เขียนเป็นอาจารย์มหาลัย ชื่ออาจารย์ Bando Mariko ค่ะ หนังสือเล่มนี้ขายได้กว่า 2 ล้านเล่มทั่วประเทศ กลายเป็นประวัติกาลของหนังสือ how-to สำหรับผู้หญิงเลยค่ะ แหม…ดังขนาดนี้ ดิฉันก็ไปซื้อด้วยค่ะ
พอกลับบ้านไป ดิฉันหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านอีกครั้งและพบว่ากุลสตรีญี่ปุ่น …มิใช่งามจากกิริยามารยาทเท่านั้น ต้องงามจากความคิดงามจากภายในด้วย
เพื่ออัพ level ความงามทั้งภายนอกภายในของพวกเรา ลองมาดูวิถีแห่งกุลสตรีญี่ปุ่นกัน ลองดูว่าคนญี่ปุ่นเขาอบรมและสอนคนญี่ปุ่นด้วยกันยังไงนะคะ

1. จงเป็นลูกค้าที่ดี
อย่าคิดว่าจ่ายเงินแล้วฉันจะทำอะไรก็ได้ เราต้องเคารพและคำนึงถึงจิตใจของเจ้าของร้านและพนักงานด้วย หากไปร้านอาหารแล้วจองโต๊ะไว้ก็ไปให้ตรงเวลาไม่ไปสาย
“หากทางร้านมี Dress code แต่งตัวให้เหมาะสมกับร้าน”
อันนี้ดิฉันเชื่อว่าสาวไทยคงคำนึงถึงตรงนี้กันอยู่แล้วแหละ แต่ที่ดิฉันอึ้งคือ อาจารย์ Bando บอกว่าเหตุผลที่เราควรเคารพ Dress code ก็เพราะว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของ “บรรยากาศในร้าน” เป็นส่วนที่ทำให้ร้านนั้นดูดีมีระดับ คือ … ไม่ได้คิดถึงแค่ เราจะแต่งสวยไปเพื่อตัวเองหรือเพื่อคนที่ไปด้วย แต่คิดเผื่อไปถึงแขกโต๊ะอื่น ๆ ที่ไม่รู้จักมักจี่ด้วย
“หากรสชาติอร่อยก็กล่าวชมหรือบอกขอบคุณ ทางร้านจะได้ดีใจ”

คนไทยเราพูดเก่ง แต่เรื่องชมคนแปลกหน้าเราอาจจะเขิน ๆ นิดหนึ่งใช่ไหมคะ ในทางกลับกันคนญี่ปุ่นอาจจะไม่ค่อยชมคนใกล้ตัวอย่างภรรยาหรือลูกน้อง แต่จะชมกับร้านต่าง ๆ ที่ตนไปใช้บริการนี่แหละค่ะ
2. จงมีร้านประจำ
“จงมีร้านที่ตัวเองไปซื้อของเป็นประจำ”
ร้านที่ว่านี้คือ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายผักขายปลา ร้านทำผม ร้านเสื้อผ้า จนถึงคลินิกทำฟัน หากเป็นร้านอาหารที่เราคุ้น ๆ หน้า ถ้าบอกว่า “ครั้งก่อนมาทานแล้ว อร่อยจังเลยค่ะ” เจ้าของก็จะยิ่งดีใจ (ไม่ได้ชมเพื่อหวังส่วนลดหรือของแถมนะจ๊ะ)
สาเหตุที่เราควรมีร้านประจำ คือ …!!!
หนึ่ง … เราจะได้ประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาเดินหาของว่าอยู่ที่ไหน หรือซื้อกันด้วยความคุ้นชิน ก็จะรวดเร็วดี
แต่สิ่งสำคัญกว่าน่าจะเป็นข้อสอง คือจะได้มีความรู้สึกดี ๆ ให้กันหรือมีบทสนทนาดี ๆ กันนั่นเอง หากเราเป็นลูกค้าประจำเจ้าของร้านก็จะบริการเรา คนขายปลาอาจสอนวิธีการใช้ปลาทำอาหารแบบต่างๆ เจ้าของร้านขายผักอาจคุยเรื่องฤดูกาลให้ฟัง ทำให้เราเป็นผู้หญิงที่มีความรู้มากขึ้น
สังเกตว่าอาจารย์ Bando ไม่ได้เน้นให้เรามุ่งการหาสินค้าราคาถูกเท่าไรเลย แต่เน้นการหาร้านหรือแบรนด์ที่ถูกใจเรา แล้วใช้บริการเดิม ๆ เป็นการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กันมากกว่า
3. จงรู้ชื่อดอกไม้ ต้นไม้
อย่าเพิ่งด่าในใจว่าอีนังโลกสวยนะคะ (คุณสมบัติอีกประการของกุลสตรีคือ ไม่บ่น ไม่แสดงออกอาการโกรธ ไม่ใช้คำพูดหยาบ…)
หากเรียนรู้ชื่อดอกไม้ ต้นไม้ไว้เราจะเป็นผู้หญิงที่ลึกซึ้งมีเสน่ห์ การที่เรารู้จักชื่อดอกไม้ใบหญ้า แปลว่าเราใส่ใจกับธรรมชาติมีความอ่อนโยนและช่างสังเกต เป็นการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ
วิธีการศึกษาอาจเรียนรู้จากวรรณกรรมต่าง ๆ ศึกษาจากหนังสือหรือถามผู้รู้ก็ได้
อาจารย์ Bando เขียนแซวไว้อย่างน่ารักว่า
“วัยรุ่นปัจจุบันจำชื่อดาราได้เก่งใช่ไหม แล้วมาหาว่าคนแก่ ๆ ทำไมจำชื่อดารานักร้องไม่ได้ ศิลปินนักร้องส่วนใหญ่โด่งดังอยู่ไม่กี่ปีแล้วก็หายไป แต่ดอกไม้ใบหญ้า ฝังรากอยู่กับแผ่นดินมานานนับพันปี เพราะฉะนั้นเราควรจะจำให้ได้”
4. อย่ารับของฟรี
อย่ารีบปรี่ไปรับพวก Sample สบู่ แชมพู หากเราไม่คิดอยากจะลองใช้จริง ๆ หากเอามาแล้วไม่ได้ใช้ก็กลายเป็นขยะอีก บ้านก็จะไม่รกและไม่เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมอีกด้วย (คือ…คนที่อยากได้จริง ๆ ถึงค่อยรับไปใช้)
หรือเวลาซูเปอร์มาร์เก็ตมีให้ชิมฟรี หากเราคิดจะซื้อถึงค่อยไปชิมได้ แต่อย่าเอาอย่างพวกชิมฟรีที่เดินไปหยิบของฟรีตามที่ต่าง ๆ กินไปเรื่อย ๆ หากใครมาเห็นเข้าจะไม่งาม
เวลาไปทานบุฟเฟ่ต์หรืองานปาร์ตี้สังสรรค์ อย่าตักทีเยอะ ๆ แล้วเอาแต่ก้มหน้าก้มตาทาน จงทานแต่พอดี จริง ๆ จุดประสงค์ของปาร์ตี้คือการได้สนทนาแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้อื่นต่างหาก (ข้อนี้แทงใจดำมาก…)

หากอ่านคุณสมบัติที่กุลสตรีญี่ปุ่นพึงมีทั้ง 4 ข้อ ดิฉันคิดว่าเราสามารถสรุปได้เป็น 2 เรื่องหลัก นั่นคือ “ความเอื้ออาทรต่อผู้อื่น และทำให้คนอื่นมีความสุข” เช่น ชมคนอื่น แต่งตัวให้เหมาะสม และ “การมีความรู้ สติปัญญา” ค่ะ
กุลสตรีญี่ปุ่นพึงหาความรู้ใส่ตัวเสมอทั้งจากการพูดคุยกับผู้อื่นและจากการอ่านบทความ กลอน วรรณคดี ซึ่งจะทำให้เธอแตกฉานในเรื่องชื่อดอกไม้ใบไม้ วิธีการทำอาหาร ฯลฯ ค่ะ
กุลสตรีญี่ปุ่น งามจากภายนอกอย่างเดียวไม่พอ ต้องงามทั้งจิตใจและสติปัญญาด้วยค่ะ สุโก้ย!
หมายเหตุ: ท่านใดอ่านภาษาญี่ปุ่นออกและสนใจศึกษา ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ฉบับเต็มนะคะ ☺

http://www.amazon.co.jp/%E5%A5%B3%E6%80%A7%E3%81%AE%E5%93%81%E6%A0%BC-PHP%E6%96%B0%E6%9B%B8-%E5%9D%82%E6%9D%B1-%E7%9C%9E%E7%90%86%E5%AD%90/dp/4569657052a
ขอบพระคุณภาพประกอบสวย ๆ จาก http://www.ac-illust.com ค่ะ
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> เกตุวดี Marumura