ช่วงนี้ดิฉันเห็นข่าวภาพหลุดดาราท่านหนึ่งบนเรือยอชท์ไฮโซ จะว่าไปดิฉันคิดว่าคนไทยสามารถเข้าถึงชีวิตส่วนตัวดารา รวมถึงไฮโซวงการต่างๆ ได้ง่ายมาก แต่…เซเล็บญี่ปุ่นสิคะ พวกเขาเป็นใคร ใช้ชีวิตอย่างไร กินข้าวที่ไหน แทบไม่มีใครบอกได้เลย
ช่วงนี้ดิฉันเห็นข่าวภาพหลุดดาราท่านหนึ่งบนเรือยอชท์ไฮโซ จะว่าไปดิฉันคิดว่าคนไทยสามารถเข้าถึงชีวิตส่วนตัวดารา รวมถึงไฮโซวงการต่างๆ ได้ง่ายมาก ดูข่าวอ่านนิตยสารตาม IG ก็เห็นชีวิตดี๊ดีของเหล่าเซเล็บได้แล้ว
แต่…เซเล็บญี่ปุ่นสิคะ พวกเขาเป็นใคร ใช้ชีวิตอย่างไร กินข้าวที่ไหน แทบไม่มีใครบอกได้เลย เขาจะอยู่สมาคมปาร์ตี้กันในสังคมปิดของเขา สื่อเข้าไปทำข่าวอะไรไม่ได้ วันนี้ ดิฉันจะพยายามเปิดแง้มโลกปิดของเหล่าเซเล็บญี่ปุ่นให้ชาวไทยได้รับทราบกันสักนิดนะคะ
เซเล็บญี่ปุ่น…ผู้ที่สื่อไม่กล่าวถึง และไม่กล้าแตะต้อง
1. เราจะไม่เคยเห็นเซเล็บในหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารต่างๆ
หนังสือพิมพ์บ้านเรามักลงข่าวไฮโซหรือดาราดังซื้อกระเป๋าแบรนด์ดังยี่ห้อนี้ไปเที่ยวที่ประเทศนั้น ลูกหลานไฮโซท่านไหนแต่งงานก็มีชื่อและภาพถ่ายอยู่ในคอลัมน์ข่าวสังคมของหนังสือพิมพ์ ในนิตยสาร หน้าแรกๆ ก็จะเป็นปาร์ตี้หรูหราอะไรสักอย่าง แล้วก็มีรูปไฮโซคนนั้นคนนี้ถ่ายคู่กัน ดูแล้วก็เพลินตาดี
ทว่า … หนังสือพิมพ์หรือนิตยสารญี่ปุ่นฉบับปกติ (ที่ไม่ใช่พวก Tabloid) แทบไม่มีข่าวที่สะท้อนชีวิตเซเล็บเลยค่ะ คอลัมน์สังคมในหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นไม่มีข่าวเซเล็บแต่งงานหรือปาร์ตี้ เขาลงแต่ข่าวเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมแท้ๆ ล้วนๆ (ข่าวงู 3 หัว หมู 8 ขา ก็ไม่มีนะ)
ส่วนนิตยสารญี่ปุ่นก็ไม่มีพาร์ทปาร์ตี้เซเล็บเช่นเดียวกัน เขาจะมีโฆษณาแทรกๆๆ แล้วก็เป็นคอลัมน์ต่างๆ ไปเลย แทบไม่มีคอลัมน์ส่องชีวิตเซเล็บ หรือดูซิว่าเซเล็บคนนั้นคนนี้แต่งตัวอะไร ใช้กระเป๋าอะไร นางแบบจะเป็นคนที่ดูธรรมดาๆ เหมือนเข้าถึงได้ เนื่องจากผู้หญิงญี่ปุ่นชอบศึกษาข้อมูลในนิตยสารเพื่อเลียนแบบการแต่งตัวแต่งหน้าแบบจริงจัง นางแบบจึงควรแต่งแบบที่สาวๆ เลียนแบบได้ ไม่ใช่ใช้ของไฮโซอาจเอื้อม
ดิฉันคิดว่าส่วนหนึ่งที่นิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ไม่ค่อยลงรูปหน้าหรือเรื่องราวเกี่ยวกับเซเล็บญี่ปุ่น เนื่องจากคนญี่ปุ่นห่วงหวงเรื่องสิทธิส่วนบุคคลมาก พวกเขากังวลด้านความปลอดภัยค่ะ ประเทศนี้โรคจิตเยอะ อย่าให้เขารู้จักเรา รู้ที่อยู่เรา ไม่งั้นโรคจิตคอยสะกดรอยตามหรือจะทำอะไรก็ไม่รู้ อันตรายค่ะ
2. ไม่เคยเห็นในละคร
ในละครไทย เรามักจะเห็นภาพฉากบ้านอลังการปูพื้นหินอ่อนกับคุณหญิงผมตีโป่งเสมอ ดิฉันเกิดมาก็เจอบ้านทรายทองกับคุณหญิงแม่แล้ว เรียกได้ว่าไม่ว่าพระเอกนางเอกจะประกอบอาชีพอะไรก็ตามละครไทยเกือบทุกเรื่องต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่างต่อไปนี้ 1. บ้านไฮโซ ที่มีทางเลี้ยวมาจอดรถได้ถึงหน้าบ้าน 2. คนใช้ซึ่งเป็นบทที่แซ่บชูรสละครเลยทีเดียว 3. รถหรูๆ
ในทางกลับกัน ดิฉันจินตนาการไม่ออกเลยค่ะว่าเซเล็บญี่ปุ่นอาศัยอยู่ในบ้านแบบไหน ไม่เคยเห็นละครญี่ปุ่นพูดถึงชีวิตคนรวยสักเท่าไรเลย เนื้อเรื่องส่วนมากจะเป็นชีวิตคนธรรมดาๆ แต่หลากอาชีพมากกว่า เช่น เจ้าของร้านดอกไม้ ครู ข้าราชการ หากเป็นละครเกี่ยวกับอาชีพที่รายได้สูง เช่น แพทย์ ทนาย นักธุรกิจ ก็จะเป็นเรื่องราวการสู้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ของอาชีพนั้นๆ มากกว่า ไม่ค่อยได้แตะถึงชีวิตส่วนตัวหรือบ้านหรูไฮโซสักเท่าไร
ส่วนพวกรายการเยี่ยมบ้านดาราก็แทบไม่มี ดิฉันคิดว่าคนญี่ปุ่นเป็นชาติที่ไม่ค่อยอวดของดีที่ตัวเองมีอยู่แล้ว รู้ไว้ใช้เองเงียบๆ ไม่ต้องบอกใคร ยิ่งกรณีของบ้านซึ่งคนญี่ปุ่นเองหากไม่สนิทจริง เขาจะไม่เชิญแขกมาที่บ้านค่ะ มันอึดอัดและเหมือนการรุกล้ำอาณาเขตของตน เพราะฉะนั้นการที่จะให้ตากล้องหรือโปรดิวเซอร์ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนมาที่บ้านนั้น จึงเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย (ยกเว้นเซเล็บเก๊ที่อยากดัง)
แต่มนุษย์เราไม่ว่าชาติไหนๆ ก็อยากรู้ใช่ไหมคะว่าบ้านดาราคนโปรด หรือไฮโซหน้าตาเป็นแบบไหน คนญี่ปุ่นก็เหมือนกันแหละค่ะ วิธีแก้ของรายการโทรทัศน์ญี่ปุ่น คือ ขอให้เจ้าของบ้านถ่ายภาพหรือถ่ายวีดีโอมา แล้วนำมาออกในรายการแทน เพราะฉะนั้นเซเล็บเจ้าของบ้านก็จะวางใจว่าไม่มีคนแปลกหน้าเข้ามาบ้าน ฝ่ายรายการโทรทัศน์ก็จะแฮ้ปปี้ที่อย่างน้อยมีภาพอะไรไปแง้มๆ ให้คุณผู้ชมได้ดูบ้าง
3. ไม่เคยเห็นใน Social Network
เซเล็บไทยมักมี Facebook หรือ IG และอัพภาพชีวิตดี๊ดีให้พวกเราอิจฉาเสมอ ในทางกลับกันชีวิตเซเล็บญี่ปุ่นมักเป็นปริศนาค่ะ แค่ดิฉันถามตัวเองว่าใครบ้างเป็นเซเล็บดังในญี่ปุ่น ดิฉันยังตอบแทบไม่ได้เลย ไม่รู้จะไปตามฟอลตามไลค์ใครที่ไหนยังไงค่ะ หรือถ้ามีจริงบุคคลเหล่านี้คงใช้ Social Network เพื่อความบันเทิงส่วนตัวเท่านั้น เขาคงไม่อัพภาพชีวิตดี๊ดีเท่าไร เพราะกลัวคนอื่นหาว่าอวดนั่นเอง คนญี่ปุ่นคิดมากค่ะ

เซเล็บที่ดังๆ เท่าที่ดิฉันทราบ คือ สองพี่น้องตระกูลคาโนะ ซึ่งดังเพราะเคยเป็นดารามาก่อนและออกแนวเซ็กซี่ ชอบใช้ของหรูแพง แล้วออกมาบอกว่าเสื้อตัวนั้นตัวนี้เท่าไรให้คนฮือฮา ชอบใส่แหวนเครื่องประดับเม็ดโตๆ ใช้ของแบรนด์ดังๆ แต่เธอพวกนี้ไม่ใช่เซเล็บจริงๆ ไม่ใช่คนที่เกิดมาในตระกูลผู้ดีเก่าแก่หรือทำธุรกิจอะไร คนญี่ปุ่นก็ยังงงๆ อยู่ว่าทำไมพวกเธอมีปัญญาซื้อของแพงๆ เหล่านี้ รายการโทรทัศน์เรียกไปเป็นสีสันในรายการมากกว่าค่ะ
เซเล็บญี่ปุ่นเป็นใครบ้าง?
เซเล็บญี่ปุ่นมีหลายแบบค่ะ อาจเป็นตระกูลผู้ดีเก่าแก่ หรือนักธุรกิจที่รายได้สูงมากๆ ตลอดจนลูกหลานตระกูลไซบัทสึ (กลุ่มบริษัทขนาดยักษ์ของญี่ปุ่นที่เคยผูกขาดธุรกิจ) แต่ถามว่ามีตระกูลไหนที่เก่าแก่หรือนามสกุลดังในญี่ปุ่นบ้าง อันนี้ก็บอกยากอีก เพราะคนญี่ปุ่นนามสกุลซ้ำกันเยอะค่ะ คนนามสกุล “ยาสุดะ” เหมือนกัน แต่ไม่ได้เกี่ยวดองกันเป็นญาติเลยก็มี คล้ายๆ กับเกาหลี ที่มักมีแต่แซ่คิม แซ่ปาร์ค ไม่เหมือนของไทยที่ตระกูลหนึ่งนามสกุลหนึ่งไปเลย

เซเล็บญี่ปุ่นไม่นิยมแต่งตัวเว่อร์เกินความเป็นจริง เนื่องจากสังคมประเทศนี้ไม่ค่อยมีใครอยากเด่นเกินหน้าใคร กลัวโดนเกลียด เมื่อไม่มีคนกล้าเด่น ก็ไม่มีคนกล้าอวด เซเล็บจึงเลือกใช้เครื่องประดับอัญมณีที่ไม่ได้ขนาดใหญ่เว่อร์มาก แต่งตัวหรู แต่ดูดีและดูแพงต้องรสนิยมดีด้วย
มาดามเอซากิ ภรรยาของท่านประธานเอซากิ เจ้าของป๊อกกี้ กล่าวว่าการแต่งตัวโดยใช้ของแบรนด์เนมนั้นยากมาก เพราะแต่ละแบรนด์มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเกินไป จับมา Mix and Match ยาก ไม่ค่อยเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในวันธรรมดาๆ ของตนเท่าไร เธอจึงชอบเสื้อผ้าแบรนด์ทั่วไปตามห้างที่คุณภาพดีๆ มากกว่าเสียอีก

ในเมื่อเซเล็บญี่ปุ่นปิดตัวเงียบขนาดนั้น แต่งตัวก็ไม่เด่น เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่เราคุยอยู่ด้วยเป็นเซเล็บหรือเปล่า (จริงๆ ก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะเจอง่ายๆ ดิฉันอยู่ญี่ปุ่นมา 8 ปี ยังไม่เคยเจอสักคน ความฝันที่พระเอกญี่ปุ่นไฮโซจะมาตกหลุมรักสาวนักเรียนทุนจากไทย ก็เป็นอันตกกระป๋องไป)
วิธีสังเกตเซเล็บที่ง่ายที่สุด ได้แก่ ถามที่อยู่เขาค่ะ ถ้าอยู่โตเกียวเขตเซตากายะ หรือเขตมินาโตะก็น่าลุ้น ถ้าอยู่แถบคันไซแล้วเขามีบ้านอยู่ Ashiya (เมืองโกเบ) อันนี้แทบจะฟันธงเลยค่ะว่ารวยจริง (เมือง Ashiya บ้านแพงมากกกก อยู่บนเขา ไม่รวยจริง อยู่ไม่ได้จ้ะ)
ถ้าเขาอยู่ในข่าย ลองถามขนาดบ้านดู ถ้าเกิน 300 ตารางเมตรขึ้นไป ก็ไฮโซแล้วค่ะ (คุณผู้อ่านบางท่านอาจรู้สึกว่าเท่าขนาดบ้านตรูที่ต่างจังหวัดเลยนี่หว่า….ญี่ปุ่น ค่าที่เค้าแพงค่ะ)
และหากว่าเขาหลุดปากว่ามีคนรับใช้ที่บ้าน! อันนี้แทบจะฟันธงได้เลยค่ะว่ารวยชัวร์ ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ค่าแรงแพงม้ากกกก การจ้างคนรับใช้มาทำความสะอาด ซักผ้า ทำอาหาร เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย ขนาดภรรยาของผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นก็ยังต้องลงมือทำด้วยตัวเอง ถ้าบ้านไหนมีคนรับใช้ประจำบ้านเมื่อไร แปลว่า บ้านนั้น “ของจริง” ค่ะ
เพราะฉะนั้นเวลาคนญี่ปุ่นรู้ว่าบ้านเราขนาด 100 ตร.ม. หรือที่บ้านมีพี่เลี้ยง พวกเขาจะตกใจมาก! และคิดว่าเราเป็นเซเล็บ ตอนดิฉันไปญี่ปุ่นใหม่ๆ ดิฉันเล่าให้เพื่อนคนญี่ปุ่นฟังว่า “ตอนเด็กๆ ที่บ้านเราเปลี่ยนพี่เลี้ยงบ๊อยบ่อย ไม่มีใครเอาเราอยู่สักคน” เราเล่าแบบธรรมดาขำๆ แต่เพื่อนคนญี่ปุ่นฮือฮากันทั้งวง คือ เพื่อนๆ นึกว่าดิฉันเป็นเซเล็บน้อยแห่งราชอาณาจักรไทย ตระกูลส่งให้มาศึกษาในต่างประเทศ (ปัจจุบัน พวกนางตาสว่างแล้ว)
….และนี่ คือเรื่องราวของเซเล็บญี่ปุ่นซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้ แม้แต่คนเขียนเอง ก็ยังไม่ค่อยรู้เท่าไรค่ะ :p
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> เกตุวดี Marumura