คำว่ายะมะบุชิ แปลว่าผู้ที่เก็บตัวอยู่ในภูเขา ความหมายและการปฏิบัติใกล้เคียงกับฤาษีมาก จึงขอเรียกพวกเขาว่า ฤาษีญี่ปุ่น เขาเป็นใคร มีความเชื่ออะไร เรามาทำความรู้จักกับพวกเขากันหน่อย
Yamabushi (山伏)อาจจะเรียกได้ว่าคือ ฤาษีแห่งยุคโลกาภิวัฒน์ ที่เรายังเห็นได้ในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะบริเวณภูเขาที่เชื่อว่ามีเทพสิงสถิตย์อยู่ พวกเขานุ่งขาวห่มขาว ถือไม้เท้าและหอยสังข์เดินตามป่าเขาคนเดียวบ้าง เป็นกลุ่มบ้าง

คำว่า “ยะมะบุชิ” 山伏 เขียนด้วยตัวอักษร 山 ที่แปลว่าภูเขา และ 伏 ที่มีแปลว่าหลบซ่อน ซึ่งรวมกันแล้วแปลว่า “ผู้ที่เก็บตัวอยู่ในภูเขา” จขกท.คิดว่าความหมายและการปฏิบัติใกล้เคียงกับฤาษีมาก จึงขอเรียกพวกเขาว่า “ฤาษีญี่ปุ่น”

เขาเป็นใคร มีความเชื่ออะไร เรามาทำความรู้จักกับพวกเขากันหน่อยไหมคะ

จขกท.อยู่เมืองเซนได(仙台)จังหวัดมิยะกิ(宮城) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ที่เรียกกันว่า Tohoku (東北)ทางทิศตะวันตกคือจังหวัดยะมะกะตะ(山形)ซึ่งชื่อก็บอกเป็นนัยว่าจังหวัดนี้มีรูปร่างของภูเขาเป็นหลัก
ความจริงประเทศญี่ปุ่นก็เป็นภูเขาเสียตั้ง 70% ของพื้นที่เข้าไปแล้ว อีกทั้งหลายลูกก็เป็นภูเขาไฟทรงพลังเสียด้วย นี่จึงเป็นที่มาของความเชื่อในความลี้ลับของธรรมชาติ และลัทธิบูชาภูเขาของชาวอาทิตย์อุทัย


ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าธรรมชาติมีพลังที่ลึกลับและศักดิ์สิทธิ์ ทุกอย่างมีเทพเจ้าสิงสถิตย์อยู่ โดยเฉพาะภูเขาที่ลูกใหญ่ๆ พลังเทพในธรรมชาตินั้นมากมายมหาศาล และสามารถกำหนดชะตากรรมของคนในแถบนั้น จึงทำให้มีการสร้างศาลเจ้าหรือวัดกันบนยอดเขากันมาตั้งแต่โบราณกาลก่อน
ในเขตโทโฮะกุของญี่ปุ่นนั้น จ.ยะมะกะตะมีชื่อเสียงมากในเรื่องเทพและพลังศักสิทธิ์ของภูเขา

ทางฝั่งตะวันตกของ จ.ยะมะกะตะ สมัยก่อนเรียกว่า “เดวะ” มีภูเขา 3 ลูกที่อยู่ไม่ไกลกัน เรียกกันว่า “ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามแห่งเดวะ” (Dewasanzan, 出羽三山) ที่นี่มีอาศรมปฏิบัติธรรม แสวงบุญของนักพรตและพระในสมัยโบราณ และก็ยังใช้กันมาถึงในปัจจุบัน
บริเวณนี้แหละค่ะ มักจะไม่พลาดได้เห็นฤาษีญี่ปุ่น “ยะมะบุชิ”


ฤาษียะมะบุชิคือบุคคลที่ละความเป็นอยู่ทางโลก แสวงหาความวิเวก บำเพ็ญทุกรกริยาต่างๆตามภูเขา เป็นต้นว่าอดข้าวอดน้ำ นั่งสมาธิใต้น้ำตก เดินข้ามไฟ รมควันตัวเอง และอื่นๆ โดยเชื่อว่าจะทำให้ได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์โดยตรงจากธรรมชาติ พวกเขามองว่าตัวเองอยู่ในดินแดนศักสิทธิ์ และทำหน้าที่เชื่อมระหว่างดินแดนนั้นกับโลกมนุษย์ จึงต้องมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในโลกมนุษย์นี้

พวกเขาจะสวมเครื่องแต่งกายสีขาว มีจีวรทับ มือถือไม้เท้า และมีหอยสังข์สำหรับเป่าส่งเสียงให้สัญญานกัน ตามปกติจะมีแต่ผู้ชายเท่านั้น แต่บางแห่งเปิดให้มีกลุ่มเฉพาะของผู้หญิง

ในปัจจุบัน ฤาษีพวกนี้คือซาลารี่แมน คนทำงานทั่วๆ ไป หรือคนหลังเกษียณที่หาโอกาสมาฝึกสติฝึกใจด้วยการเป็น”ยะมะบุชิ”ในวันหยุด พวกเขาคิดว่าการฝึกตนให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติด้วยวิธีแบบยะมะบุชินั้น เป็นการชำระมลทินจากร่างกายจิตใจให้สะอาด ประหนึ่งเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ การไปรับพลังธรรมชาติเป็นเหมือนการรีเซ็ตตนเองเป็นระยะๆ ก่อนกับมาดำเนินชีวิตตามปกติ และเป็นการเตือนให้ระลึกถึงความเชื่อแบบดั้งเดิมของบรรพบุรุษชนชาติเขา
ถึงตรงนี้ก็คงหายข้องใจเวลาเห็นคนนุ่งขาวห่มขาวเดินท่อมๆในป่าเขาที่ญี่ปุ่นแล้วนะคะ ศาสนาความเชื่อของคนประเทศนี้ยังมีให้ศึกษาอีกหลายแง่มุม ลองเปรียบเทียบดูกับของไทยก็น่าสนใจไม่น้อย

จขกท.ขอขอบคุณคุณ Yamaki ฤาษีในภาพ ซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อน (Ryoichi Onuma) ที่กรุณาเอื้อเฟื้อให้ข้อมูลและภาพเพื่อกระทู้นี้ค่ะ