I’m donut ? : เมื่อโดนัทกลายเป็นไอคอนวัฒนธรรมใหม่ของญี่ปุ่น
ในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความพิถีพิถันในการทำอาหารอย่างญี่ปุ่น การที่ร้านขายของหวานเล็กๆ จะกลายเป็นไวรัลระดับประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือบทพิสูจน์ว่าญี่ปุ่นยังคงมีพื้นที่ให้กับ “ความแปลกใหม่ที่ใส่ใจรายละเอียด” เสมอ
I’m donut? คือกรณีศึกษาน่าสนใจของธุรกิจที่สามารถพลิกภาพลักษณ์ของขนมที่เคยถูกมองว่า “ธรรมดา” ให้กลายเป็นของหายาก ที่ต้องต่อคิวเป็นชั่วโมงเพื่อให้ได้มาครอบครอง
จากเบเกอรี่สาย Experimental สู่ไวรัลโดนัทระดับชาติ
เจ้าของร้าน I’m donut? คือ “Ryuta Hirako” ผู้ก่อตั้งร้านเบเกอรี่ “amamoto” ซึ่งขึ้นชื่อด้านเทคนิคการหมักแป้งและการทดลองกับรสชาติใหม่ๆ I’m donut? จึงไม่ใช่แค่ร้านโดนัทแบบ mass แต่เป็นโปรเจกต์ต่อยอดของเชฟผู้หลงใหลในวิทยาศาสตร์การทำขนม
เขาเปลี่ยนโดนัทจากของทอดทั่วไปให้กลายเป็น “นามะโดนัท” ขนมที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มหนึบคล้ายโมจิ ใช้แป้งที่หมักด้วยวิธีเฉพาะ เสริมรสด้วยวัตถุดิบธรรมชาติที่ให้กลิ่นและรสละเมียดละไมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ และนั่นเองคือจุดที่ “I’m donut?” แตกต่างจากโดนัทร้านทั่วไป
ความสำเร็จที่ไม่ได้มาจากโซเชียล แต่เกิดจาก “ประสบการณ์จริง”
แม้ร้านจะได้รับความนิยมใน TikTok และ Instagram อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนยอมต่อแถวยาวข้ามบล็อกไม่ใช่แค่การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย แต่คือ ประสบการณ์จริงของลูกค้า
- รสชาติที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งกลายเป็นบทสนทนาต่อเนื่องในหมู่คนญี่ปุ่น
- การคัดสรรวัตถุดิบอย่างละเมียด เช่น ฟักทองคาโบฉะ ไขมันพืชแท้ ครีมสดที่เบาเหมือนอากาศ
- ความรู้สึกพรีเมียมแต่เป็นมิตร ราคาไม่ถูก แต่ยังอยู่ในระดับที่ “ซื้อซ้ำได้”
I’m donut? จึงไม่ใช่กระแสที่ฉาบฉวย แต่เป็นแบรนด์ที่เข้าใจหัวใจของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง
บทพิสูจน์ว่า “ญี่ปุ่นยังต้องการความประณีต”
ในยุคที่อาหารฟาสต์ฟู้ดเข้าครอบครองทุกหัวมุมเมือง ร้านอย่าง I’m donut? คือการต่อต้านแนวโน้มแบบนั้นอย่างเงียบๆ
- ญี่ปุ่นยังคงให้คุณค่าแก่ ประสบการณ์การกิน
- ยังคงเชื่อว่า ของหวานไม่ใช่แค่ความอร่อย แต่คือความสุขชั่วขณะ
- และยังคงชื่นชมแบรนด์ที่ “กล้าแตกต่าง” โดยไม่ทิ้งความใส่ใจในรายละเอียด
I’m donut? ไม่ได้ขายโดนัท แต่ขาย “วัฒนธรรมการกิน”
การปรากฏตัวของ I’m donut? จึงไม่ใช่แค่เทรนด์ของคนเมือง แต่เป็นการส่งสัญญาณว่า วัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นพร้อมจะรับเอาแนวทางใหม่ๆ ที่ไม่ละทิ้งจิตวิญญาณของความประณีต
และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ร้านเล็กๆ แห่งนี้ กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับประเทศ
สาขา “I’m donut?” ในญี่ปุ่น
1. Nakameguro (สาขาแรก)
• ที่ตั้ง: 1-22-7 Kamimeguro, Meguro-ku, Tokyo
• เวลาเปิด: 09:00–19:00 น. (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด)
• จุดเด่น: สาขาแรกของแบรนด์ ตั้งอยู่ใกล้สถานี Nakameguro Hedonist HK+6Time Out Worldwide+6Metropolis Japan+6
2. Harajuku (สาขาที่มีคาเฟ่)
• ที่ตั้ง: 1-14-24 Jingumae, Shibuya-ku, Tokyo
• เวลาเปิด: 10:00–20:00 น.
• จุดเด่น: มีคาเฟ่บนชั้นสองให้ลูกค้านั่งทานภายในร้าน Food Lover Girl+3Hedonist HK+3Tokyo Cheapo+3Tokyo Cheapo
3. Shibuya
• ที่ตั้ง: 2-9-1 Shibuya, Shibuya-ku, Tokyo
• เวลาเปิด: 11:00–20:00 น.
• จุดเด่น: ร้านขนาดใหญ่ มีเมนูหลากหลาย และคิวสั้นกว่าสาขาอื่นๆ Food & WineWongnai
4. Omotesando
• เวลาเปิด: 10:00–20:00 น.
• จุดเด่น: สาขานี้เน้นการซื้อกลับบ้าน มีเมนูให้เลือกประมาณ 3 รสชาติ
5. Ikebukuro
• เวลาเปิด: 10:00–20:00 น.
• จุดเด่น: สาขาใหม่ล่าสุดในโตเกียว
6. Fukuoka
• เวลาเปิด: 10:00–20:00 น.
• จุดเด่น: สาขาแรกนอกโตเกียว ตั้งอยู่ในเมืองฟุกุโอกะ
สาขาต่างประเทศของ “I’m donut?”
นิวยอร์ก ซิตี้ (Times Square, NYC) (สาขาแรกนอกญี่ปุ่น)
• ที่ตั้ง: 154 West 45th Street, New York, NY 10036
• เวลาเปิด: วันพุธ – อาทิตย์ เวลา 10:00 – 16:00 น. (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด)
• จุดเด่น:
– เป็นสาขาแรกของ “I’m donut?” ที่เปิดนอกประเทศญี่ปุ่น
– ร้านมีพื้นที่กว้างขวางถึง 5,725 ตารางฟุต พร้อมครัวเปิดให้ลูกค้าได้ชมกระบวนการทำโดนัท
– เมนูพิเศษเฉพาะสาขานี้ เช่น “PB&J” (โดนัทไส้ครีมถั่วลิสงและเยลลี่องุ่น), “Sake Cream” (โดนัทไส้ครีมสาเก), และเมนูวีแกนต่างๆ
เรื่องแนะนำ :
– เจ้าแม่กวนอิม: เทพีแห่งความเมตตาในญี่ปุ่น จากรากเหง้าพุทธศาสนาสู่ศรัทธาร่วมสมัย?
– อุโมงค์คิโยทากิ อุโมงค์ผีที่น่ากลัวที่สุดในเกียวโต
– “คาโกเมะ คาโกเมะ” การละเล่นปริศนาที่สุดของญี่ปุ่น
– 4 เรื่องเล่าหลอนเหตุแผ่นดินไหวโทโฮคุ
– สนามซ้อมรบที่เปื้อนเลือดผู้บริสุทธิ์ สู่ทุ่งดอกไม้สีคราม
#I’m donut? : เมื่อโดนัทกลายเป็นไอคอนวัฒนธรรมใหม่ของญี่ปุ่น
– https://www.instagram.com/i.m.donut/