เมื่อของเล่นเด็กในญี่ปุ่นเริ่มจะ Genderless การสนับสนุนความหลากหลายทางเพศในประเทศก็เริ่มจะคาดหวังได้?
เดือนมิถุนายนของทุกปีถือว่าเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง Pride Month เป็นช่วงเวลาที่สนับสนุนความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของกลุ่มบุคคลซึ่งมีความหลากหลายทางเพศหรือกลุ่ม LGBTQ
เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของ Pride month วันนี้ก็อยากจะชวนคุยเรื่องเทรนด์ของของเล่นในประเทศญี่ปุ่นที่กำลังค่อยๆ เปลี่ยนไปตามยุคสมัย
ในความรู้สึกของผู้เขียน ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่สังคมมีการแบ่งแยกอัตลักษณ์ระหว่างชายหญิงชัดเจน นอกจากนี้การสนับสนุนความหลากหลายทางเพศยังไม่ถือว่าแพร่หลายมากนักเมื่อเทียบกับหลายๆประเทศในทวีปยุโรป
ภาพที่เห็นผู้หญิงญี่ปุ่นเป็นแม่บ้าน และผู้ชายญี่ปุ่นทำงานหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเป็นภาพที่เห็นได้ชินตาในอดีต ถึงแม้ว่าเมื่อเร็วๆนี้เราจะเห็นผู้หญิงญี่ปุ่นได้เป็นผู้นำองค์กร เป็นผู้บริหาร แต่ก็นับว่ามีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับผู้บริหารที่เป็นผู้ชาย เหมือนกับว่า สังคมญี่ปุ่นในอดีตนั้นเคยชินกับการมีแค่สองเพศ (ที่สามารถเปิดเผยต่อสังคมได้) คือชายและหญิง หญิงควรทำหน้าที่ตามประสาหญิง ชายทำหน้าที่ที่ควรทำตามประสาชาย ตามที่สังคมคาดหวัง
หลายคนที่เป็น LGBTQ ก็เลือกที่จะไม่เปิดเผยให้คนรอบข้างรับรู้ เพราะกลัวการโดนบูลลี่
ของเล่นที่สังคมในอดีตมักจะมองว่าควรเป็นของเล่นสำหรับเด็กผู้ชายก็คงหนีไม่พ้นพวกรถของเล่น เครื่องมือช่าง กลไกต่างๆ ในขณะที่เด็กผู้หญิงเล่นตุ๊กตา ทำอาหาร เป็นต้น
แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ บริษัทของเล่นหลายแห่งเริ่มสนับสนุนแนวคิดการวางจำหน่ายของเล่นที่ไม่แบ่งแยกเพศของผู้เล่น โดยเทรนด์ดังกล่าวนี้เรียกว่า Genderless Toy
เมื่อทาง Fisher-price ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายของเล่นได้ร่วมมือกับแบรนด์ Sanrio Baby ในการทำแคมเปญสนับสนุนการทลายกำแพงกั้นระหว่างเพศผ่านทางของเล่น Ryuchell เป็นดังคนหนึ่งในวงการบันเทิงของญี่ปุ่นที่ออกมาสนันสนุนแนวคิดนี้ เขามีอาชีพถ่ายแบบและร้องเพลงและนิยามตัวเองว่าเป็นบุคคลไร้เพศ
เขาบอกว่าตอนที่ยังเด็กเคยอยากได้ของขวัญคริสต์มาสน่ารักแบบเฮลโหลคิตตี้ แต่ได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกไว้แล้วเลือกของเล่นที่ดูเท่ๆแทน ทุกวันนี้มีลูกแล้วก็อยากให้ลูกของตัวเองๆ ได้เลือกของเล่นแบบที่ตัวเองชอบ
นอกจากนี้ ทางเว็บไซต์ https://www.kyoto-np.co.jp/ ได้ลงบทความเกี่ยวกับเทรนด์ของของเล่นในประเทศญี่ปุ่น พบว่าลูกค้าที่ซื้อฟิกเกอร์กลุ่มครอบครัวตัวการ์ตูนสัตว์และบ้านตุ๊กตาแบรนด์ดังอย่าง Sylvanian Families ที่เป็นเด็กผู้ชายนั้นเพิ่มขึ้นจากเมื่อ 10 ปีก่อนถึงประมาณ 5% โดยตั้งข้อสังเกตว่าทางบริษัทที่ขายบ้านตุ๊กตานี้มีการบาลานซ์ตัวละครและอาชีพให้หลากหลายมากขึ้น บางเซ็ตก็ไม่ได้ดูอ่อนหวานมาก อย่างเซ็ตที่เป็นการออกไปเที่ยวแคมป์ปิ้งด้านล่างก็จะเห็นว่ามีจำนวนตัวละครหลายเพศหลายวัยช่วยกันเตรียมของ ช่วยกันทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆมากมาย ทำให้ดูแล้วไม่รู้สึกว่างานหรือกิจกรรมที่ตัวละครทำอยู่เป็นเรื่องของเพศใดเพศหนึ่ง ส่งผลให้หลายคนเริ่มมองว่า จะเป็นเพศไหนก็เล่นบ้านตุ๊กตาได้ไม่ใช่เรื่องแปลก
หรืออย่างบริษัทจำหน่ายของเล่นอย่าง People ก็ได้ออกสินค้าเป็นเซ็ต DIY ที่ผู้เล่นสว่านไฟฟ้าเจาะและประกอบบ้านตุ๊กตาน่ารักๆด้วยตนเอง สมัยก่อนของเล่นที่มีลักษณะเป็นเครื่องมือช่างนั้นจะมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นเด็กผู้ชาย แต่ตอนนี้เริ่มมีเทรนด์ใหม่ว่า เด็กผู้หญิงจะทำงานช่างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
และแนวคิดที่ว่า เด็กผู้ชายจะเข้ากลุ่มเล่นกับเด็กผู้ชาย ไปเล่นกันแบบแมนๆ เด็กผู้หญิงก็เล่นแต่กับเด็กผู้หญิง ก็อาจจะค่อยๆเลือนหายไปอย่างในภาพด้านล่างนี้ ที่เด็กๆมาเล่นด้วยกันเป็นกลุ่มเดียวกันได้โดยถือของเล่นที่ตัวเองอยากเล่นมาร่วมวง โดยที่ไม่มาแบ่งแยกว่าใครเป็นเพศอะไร
ภาพเหล่านี้อาจจะมีคนมาเห็นแล้วมองว่าไม่แปลก ของเล่นแบบเล่นได้ทั้งชายและหญิงมีมานานแล้วในประเทศแถบตะวันตก แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นที่แบ่งแยกความแตกต่างและบทบาทของแต่ละเพศอย่างชัดเจนนั้น นี่คือการก้าวกระโดดครั้งใหญ่
ช่วงเวลาสำคัญที่จะปลูกฝังนิสัยของคนเราได้ดี ก็คือช่วงวัยเด็ก เทรนด์ของเล่นที่เปลี่ยนไปอาจมีส่วนช่วยให้เด็กๆฝึกนิสัยให้เกียรติทางเลือกที่คนอื่นเลือกต่างจากตัวเอง ไม่มองเพื่อนว่าเป็นคนแปลก ไม่ล้อเพื่อนว่าเธอเป็นผู้หญิงต้องเล่นของแบบนี้ ไม่งั้นจะดูห้าวไป หรือเด็กผู้ชายต้องเลือกของเท่ๆแบบนี้ ไม่งั้นจะดูหวานแหววน่าอาย
ยังไม่รวมประเด็นเรื่องเด็กที่เป็น LGBTQ+ ต้องคอยปกปิด เก็บกดความรู้สึกของตัวเองไว้ จะเลือกของเล่นหรือแสดงออกความรู้สึกใดๆในเรื่องอื่นๆก็กลัวว่าถ้าเพื่อนรู้เพศสภาพแล้วจะโดนล้อเลียน
ในอนาคตเราอยากเห็นเด็กๆ เหล่านี้ที่ให้เกียรติการเลือกซื้อของเล่นของคนอื่น เติบโตกลายมาผู้ใหญ่ในอนาคตหลายคนที่เป็นคนใจกว้าง ให้เกียรติเพศสภาพที่คนอื่นเลือกจะเป็น
เพราะไม่ว่าจะชาย หญิง หรือ LGBTQ+
ก็เป็น “คน” เท่ากัน
ทักทายพูดคุยกับ คอลัมน์นิจ ได้ที่ >>> Facebook คอลัมน์นิจคิดandไรท์
เรื่องแนะนำ :
– “Miso Drop” เมื่อมีโซะ-ตอ-รี่ (Story) มิโซะก็ไม่ได้เป็นแค่มิโซะ
– ช่องทางรวยใหญ่กับอาชีพใหม่ เป็นดีไซเนอร์ขายกิโมโนทิพย์ในเกมออนไลน์
– โกะโยคิคิ (Goyokiki) อาชีพที่ทำทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ
– Starbucks กับแคมเปญ “47 Jimoto Frappucino” เมื่อทุกจังหวัดในญี่ปุ่นล้วนมีเอกลักษณ์แฟรบปูชิโน่ของตัวเอง
– งานพิเศษที่คนญี่ปุ่นอยากทำมากที่สุดคืองานอะไร เค้าคิดเหมือนคนไทยหรือเปล่านะ?
ที่มา:
– https://prtimes.jp
– https://www.kyoto-np.co.jp
– https://sylvanianspecialtystore.com.au
– https://www.tokyo-np.co.jp
– https://cocreco.kodansha.co.jp
#เมื่อของเล่นเด็กในญี่ปุ่นเริ่มจะ Genderless การสนับสนุนความหลากหลายทางเพศในประเทศก็เริ่มจะคาดหวังได้?