“ว่าด้วยเรื่องแมวกับคนญี่ปุ่น: เราจะเลี้ยงแมวดีมั้ยนะ”
ทุกท่านทราบกันมั้ยคะว่าเจ้าแมวเหมียวก็มีวันที่ระลึกถึงมันเหมือนกัน!!
วันแมวโลก (猫の日) คือ วันที่ 22 ก.พ. ของทุกปี คนญี่ปุ่นมีความผูกพันกับแมวมาเป็นเวลาช้านาน จนแมวได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่น
_ แมวกวักนำโชค (招き猫): ใช้ในการเรียกโชคลาภ การที่แมวยกอุ้งเท้าข้างที่ต่างกัน (ซ้าย/ขวา) มีความหมายไม่เหมือนกัน คือ ยกอุ้งเท้าซ้ายหมายถึงการเชิญผู้คน/ลูกค้า, ยกอุ้งเท้าขวาหมายถึงเรียกโชคลาภ/เงินทองเข้ามา, ยกแขนทั้งสองข้างหมายถึงกวักเรียกทั้งเงินทอง/โชคลาภ/ลูกค้า
_ ศาลเจ้าแมว: มีหลายที่ในญี่ปุ่น แต่ละที่ไว้ใช้ขอพรที่แตกต่างกัน เช่น “Cat Mound Shrine” ให้คุณพ่อคุณแม่มาขอพรให้ลูกน้อยหยุดร้องไห้, “Imado Jinja” ให้หนุ่มสาวที่ต้องการคนรักมาไหว้ขอพรเพื่อหาคู่
_ ตัวการ์ตูนที่เป็นแมว: มีหลายตัวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เช่น คิตตี้, โดราเอมอน
_ นายสถานีรถไฟแมว: นายสถานีชื่อ ”คุณทามะ” ถึงแม้นายสถานีจะได้กลับไปอยู่ดาวแมวแล้ว แต่ผู้คนยังคงพูดถึงและชื่นชมอยู่เสมอ
_ คาเฟ่แมว: เนื่องจากคนญี่ปุ่นต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่แคบๆหรือมีข้อจำกัดอื่นๆที่ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงแมวได้เอง เลยมีคนเปิดร้านคาเฟ่แมวขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้าได้สั่งอาหารเครื่องดื่ม พร้อมๆไปกับการเล่นกับน้องแมวจำนวนมากมายหลากหลายสายพันธุ์ตามความชอบ
_ เกาะแมว/เกาะอาโอชิมะ: เป็นเกาะขนาดเล็กมีขนาดความกว้างไม่ถึง 1 ไมล์ มีคนอาศัยอยู่ในเกาะไม่ถึง 20 คน (ส่วนใหญ่เป็นชาวประมง/ผู้สูงอายุ) แต่มีแมวอาศัยอยู่กันหลายร้อยตัว เกาะนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาก คนรักแมวจะได้สัมผัสบรรยากาศความฟินของการอยู่ในที่ที่มีแมวจำนวนมากล้อมรอบ
_ การเลี้ยงแมวในบริษัท: มีบริษัท IT แห่งหนึ่งมีไอเดียว่าการที่มีแมวอยู่จะเป็นการผ่อนคลายความเครียดให้กับพนักงาน จึงมีการอนุญาตให้พนักงานนำแมวเข้ามาอยู่ที่โต๊ะทำงานด้วยได้
ในช่วงหลังๆ มีการสำรวจเรื่องชนิดของสัตว์เลี้ยงที่คนญี่ปุ่นนิยมกัน พบว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาชาวญี่ปุ่นเลี้ยงแมวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่มีการเลี้ยงสุนัขลดลง จากจำนวนสุนัขเมื่อ 10 ปีก่อนที่มีการเลี้ยง 12 ล้านตัว แต่ตอนนี้เหลือเพียง 10 ล้านตัว ในขณะที่ยอดการเลี้ยงแมวเพิ่มขึ้นจาก 9 ล้านเป็น 10 ล้านตัว ปริมาณขึ้นมาเท่าๆ กับจำนวนสุนัขเลยทีเดียว
สมาคมสัตว์เลี้ยงญี่ปุ่นวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้แมวได้รับความนิยมในการเลี้ยงเพิ่มขนาดนี้ น่าจะมาจากการที่แมวดูแลง่ายกว่าสุนัข เช่น ใช้พื้นที่ในการเลี้ยงน้อยกว่า, ไม่ส่งเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน ทำให้เลี้ยงในอพาร์ทเมนต์ขนาดย่อมได้, เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
จากความนิยมในการเลี้ยงแมวที่เพิ่มขึ้น ทำให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับแมวได้รับความนิยม ทาสแมวทั้งหลายต่างทุ่มทุนซื้อทุกสิ่งอันเพื่อให้แมวอันเป็นที่รักได้รับความสุข มีศัพท์เรียกเล่นๆเกี่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวกับแมวว่า “เนโกะโนมิกส์”
มีนักวิเคราะห์ที่สนใจ “ปรากฏการณ์ทาสแมว” ของชาวญี่ปุ่นว่าเพราะสาเหตุใดทำให้มีคนตกหลุมรักเจ้าเหมียวได้ถึงขนาดนี้ ข้อสรุปที่ได้ในเชิงจิตวิทยา คือ
1. แมวมีนิสัยซึนดาเระ (ツンデレ): “ซึนดาเระ” หมายถึงลักษณะนิสัยที่ภายนอกดูเหมือนจะเย็นชา โนสนโนแคร์ แต่จริงๆแล้วมีความอ่อนโยน อ่อนหวาน แค่ไม่แสดงออก ทำให้คนที่มีนิสัยซึนดาเระจะดูเป็นคนขึ้นๆลงๆ เดี๋ยวรักเดี๋ยวไม่รัก ซึ่งไปตรงกับลักษณะของแมวที่ดูอินดี้มาก หากเจ้าของให้ความสนใจอยากเข้าไปเล่นด้วย น้องแมวจะเล่นตัว ทำเป็นเชิดหนี แต่พอเราเริ่มที่จะถอดใจ ไม่ให้ความสนใจมัน น้องแมวจะมาคลอเคลียออดอ้อนจนเราต้องใจอ่อนทุกที
2. แมวช่วยให้เจ้าของได้อิ่มเอมใจจากความรู้สึกเป็นผู้ให้: ลักษณะนิสัยของคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะนึกถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ มีแนวโน้มว่าจะเป็นฝ่ายที่หยิบยื่นความช่วยเหลือให้ผู้อื่น เมื่อได้เลี้ยงแมว เจ้าเหมียวจะทำตัวเริ่ดเชิด ให้เจ้าของกลับกลายสถานะเป็นทาส โดยการปรนเปรอทุกสิ่งอย่างให้แมวอย่างเต็มที่ จนเจ้าของเกิดความรู้สึกดีๆจากการที่ได้ทำอะไรให้กับแมว
>> หากเราอยากเลี้ยงแมว
จากกระแสทาสแมวที่มาแรงมาก น่าจะทำให้หลายคนอยากเลี้ยงแมวเพื่อสัมผัสความรู้สึกดีๆจากการที่ได้เป็นทาสแมว การซื้อแมวมาเลี้ยงไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากกว่า คือ การเลี้ยงให้มีคุณภาพ เพราะการเลี้ยงสิ่งมีชีวิตเป็นเรื่องใหญ่อย่างหนึ่งที่ผู้เลี้ยงจะต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลให้สัตว์เลี้ยงมีทั้งสุขภาพกายและใจที่ดี ซึ่งต้องใช้ทั้งเงิน เวลา และปัจจัยอย่างอื่นร่วมด้วย ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลี้ยงแนะนำให้คิดทบทวนสิ่งต่างๆดังต่อไปนี้
1. ถามใจตัวเองดีๆ ว่าอยากเลี้ยงแมวเพื่อตามกระแสสังคมหรือเปล่า?
เนื่องจากคนเราต้องการได้รับการยอมรับจากคนอื่น บางทีเราเห็นคนอื่นเลี้ยงแมวแล้วมาโพสต์รูปลงทางโซเชียลมีเดีย ได้รับคำชม/ยอดไลค์/ยอดแชร์ เราอาจอยากได้รับความสนใจด้วยเล่นกัน การเลี้ยงแมวจะเป็นคอนเทนต์ที่เราสามารถนำไปเชื่อมโยงกับคนอื่นๆได้ ต้องลองให้เวลาตัวเองในการตัดสินใจ เช่น อดใจไว้ไม่ซื้อแมวทันที แต่รอดูอีก 1 เดือนยังคงอยากได้อยู่หรือไม่ ถ้าใช่ก็แปลว่าเราน่าจะอยากเลี้ยงมันจริงๆ
2. ศึกษาข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการเลี้ยงแมวให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
ต้องทำการบ้านให้ดี เช่น แมวพันธุ์ที่เราอยากได้มีลักษณะนิสัยแบบไหน, ราคาเท่าไร, วิธีการดูแลที่ถูกต้อง, ข้อจำกัดด้านกายภาพที่แต่ละสายพันธุ์มี, สิ่งแวดล้อมที่เหมาะในการเลี้ยง
หากเรามีข้อจำกัดที่ทำให้ไม่สามารถดูแลน้องแมวได้อย่างเต็มที่ เลี้ยงแล้วแมวอาจจะป่วย/ไม่มีความสุข การไปเป็นทาสแมวที่คาเฟ่อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ในเมื่อน้องแมวน่ารักขนาดนี้ สารภาพมาซะดีๆ ว่าใครเป็นทาสแมว:))
ทักทายพูดคุยกับหมอแมวน้ำเล่าเรื่องได้ที่ www.facebook.com/sealpsychiatrist
เรื่องแนะนำ :
– Peach Girl โมโมะกับซาเอะ: ทำไมมิตรภาพของเพื่อนผู้หญิงมันช่างซับซ้อน
– “ช็อคโกแลตวาเลนไทน์กับวันไวต์เดย์: หากรักไม่สมหวัง”
– อุระชิมะ ทาโร่ x พาวเวอร์แพท: การปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง
– คินดะอิจิ กับคดีฆาตกรรมปริศนา: การเรียนเก่งไม่สำคัญเท่ากับการที่เอาตัวรอดและมีความสุขให้เป็น
– COVID-19 กับการฆ่าตัวตายของคนญี่ปุ่น: วิธีการช่วยเหลือ
คลินิก JOY OF MINDS
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะ
https://www.facebook.com/Joyofminds/
Tel: 090-959-9304
#ว่าด้วยเรื่องแมวกับคนญี่ปุ่น: เราจะเลี้ยงแมวดีมั้ยนะ