ทริปเที่ยวเองที่ Kansai..ความที่วันนี้เราตื่นเช้ามาก และมาถึงที่นี่ประมาณ 8 โมงกว่า ภาพที่เห็นเลยเป็นร้านค้าแถวนี้ปิดสนิทยังไม่เปิดซักร้าน หันไปมองคนแถวนั้น เค้าก็มองเรา ประมาณว่า “เมิงมาทำไมเช้าๆ เค้ายังไม่ตื่นกันเลย” แต่ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็มาแล้วเดินถ่ายรูปเล่นก็ได้
เรื่องและภาพโดย : The 23rd Ronin www.marumura.com
วันที่ 5 ของการเที่ยวแดนอาทิตย์อุทัย วันนี้ตื่นเช้าเป็นพิเศษ จัดแจงแต่งตัวออกจากโรงแรม เดินทางด้วยรถไฟจากสถานี Tanimachi4-Chome สาย Chuo Line ไปเปลี่ยนรถที่สถานี Sakaisuji Honmachi ต่อรถไฟสาย Sakaisuji Line มาลงที่ Ebisucho เดินออกทางออก 3
เงยหน้ามองก็เห็นหอคอยยักษ์ Tsutenkaku ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้า ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวอย่างเราที่เห็นแล้วรู้สึกตื่นเต้น คนญี่ปุ่นที่มาที่นี่ก็ตื่นเต้นไม่แพ้เราเช่นกัน
ความที่วันนี้เราตื่นเช้ามาก และมาถึงที่นี่ประมาณ 8 โมงกว่า ภาพที่เห็นเลยเป็นร้านค้าแถวนี้ปิดสนิทยังไม่เปิดซักร้าน หันไปมองคนแถวนั้น เค้าก็มองเรา ประมาณว่า “เมิงมาทำไมเช้าๆ เค้ายังไม่ตื่นกันเลย” แต่ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็มาแล้วเดินถ่ายรูปเล่นก็ได้
เดินกลับมาที่สถานีรถไฟ เพื่อจะเดินทางไปที่ Nipponbashi แต่อยู่ๆ ก็คิดว่า “อย่าเพิ่งไปเลย เดี๋ยวมันยังไม่ตื่นกันอีก” เลยหยิบแผนที่ และลากนิ้วหาสถานี Rinku Town แหล่งที่ตั้งของ Rinku Premium Outlet!!! แต่ตามแผนแรกเราจะต้องไปช้อบทิ้งทวนที่ Rinku Premium Outlet ในวันสุดท้าย แต่ขอนอกแผนสักวัน เพราะอยากช้อบแล้ว อิ อิ
อิ่มเสร็จก็ลงมือช้อบ แต่ผิดหวังเล็กน้อย เพราะสินค้าในช่วงนี้ลดราคาไม่เยอะ ของน้อย เลยได้ของมาไม่กี่อย่าง แต่ก็เดินดูของอยู่ 2-3 ชั่วโมง แล้วจึงเดินทางกลับ จุดหมายต่อไปก็คือตลาด Kuromon และย่านNipponbashi
ขึ้นรถไฟกลับจาก Rinku Town ไปลงที่สถานี Namba เพื่อที่จะไปลงที่หมายสถานี Nipponbashi แต่ระหว่างนั่งนั้นรถไฟก็จอดป้ายแรกนานมาก เกือบ 10 นาทีได้ แล้วก็ออก เราก็นึกว่ามันคงขัดข้องอะไรแหละ แต่ไปได้ป้ายนึงจอดแช่อีกและ ตัดสอนใจรีบออกจากรถขบวนนั้น เลยถึงบางอ้อว่ามันเป็นขบวน Local เราเลยเปลี่ยนไปขึ้นขบวน Express แทน เสียเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงวิ่งไปได้ 2-3 ป้าย
หลังจากผิดพลาดกับการขึ้นผิดขบวน จนทำให้เสียเวลาเที่ยวไปไม่น้อย ก็มาถึงตลาดสด Kuromon ตอนเกือบ 4 โมงเย็น แปะๆๆๆ ปรบมือให้ตัวเองหน่อย ไปแหล่งช้อบตอนเช้าที่ร้านค้ายังไม่เปิด แล้วค่อยมาเที่ยวตลาดสดตอนเย็น(ตลาดวาย) แต่ของขายก็ยังมีอยู่ไม่น้อยเลยนะ
เดินผ่านตลาดจนมาถึงย่าน Nipponbashi ที่เค้าขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เกม Computer และของเล่นต่างๆ คล้าย Akihabara ของ Tokyo แต่เล็กกว่า(เค้าว่ามางี้นะ เพราะผมยังไม่เคยไป Akihabara) ที่นี่น่าตื่นตามากมายสำหรับบรรดา Gammer และ Otaku เพราะสินค้าที่นี่มีทั้ง การ์ตูน, Cosplay, Model, CD, DVD มากมายให้เลือกจับจ่าย โดยเฉพาะร้าน Super Potato ที่รวมเครื่องเกมทุกยุคทุกสมัย และตึก Animate ที่ทั้งตึกขายของเอาใจวัยรุ่นทั้งหนังสือการ์ตูน, การ์ดพลังต่าง, ของฝากน่ารักๆ และ Model การ์ตูนดังๆ
เพลิดเพลินกับย่าน Nipponbashi อยู่พักใหญ่ เงยหน้ามองฟ้าอีกทีก็มืดแล้ว โอ้วเวลามันช่างรวดเร็วอะไรปานนี้ ถึงเวลาอาหารเย็น เราไปกินที่ร้านตรงหัวมุมถนน Nipponbashi 3 เมนูก็เป็นพวก Tonkatsu และอาหารจำพวกทอดๆ นี่แหละ เห็นจานใหญ่ ราคาถูกดี และรสชาติก็โอเคเลยนะร้านนี้
การเดินทางวันที่ 5 ก็หมดไปไวเหมือนโกหก แม้จะไม่หลง แต่การไปถูกสถานที่แต่ผิดเวลา ก็ทำให้การเที่ยวนั้นกร่อยลงไม่น้อย หลังจากนี้จะได้จำไว้ว่าการเที่ยวนั้นไม่ได้แต่มานั่งเลือกสถานที่ แต่ต้องเลือกเวลาที่เหมาะกับสถานที่นั้นๆ ด้วย วันนี้เข้าโรงแรมพักผ่อนเร็วหน่อย เพื่อจะให้ร่างกายได้พัก เพราะพรุ่งนี้มีโปรแกรมเน้นเดินอย่าง Osaka Castle, Mino, Osaka Station City และเดินช้อบทิ้งท้ายที่ Shinsabashi!!!
เรื่องและภาพโดย : The 23rd Ronin www.marumura.com
เรื่องแนะนำ :
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 8 ร่ำลา Delay และประทับใจ
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 7 หมดเวลาสนุกแล้วสิ
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 6 Minoh ภูเขาและธารน้ำตกใน Osaka
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 4 รักจัง Arashiyama
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 3 หลง งง สุดท้าย Fin ที่ Kyoto
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 2 Bye Bye Homestay…Hello Shinsaibashi”
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 1 Yokoso Japan Homestay @Osaka”
– พาทัวร์โรงงาน Kikko Nihon “ชม ชิม โชยุ แบบสุดสะเทือนไต”