ถ้ามีโอกาส ผมอยากให้ทุกคนแวะไปที่ Korakuen Hall สักครั้ง เพราะที่นี่คุณจะไม่มีคำว่าผิดหวังกลับไป เนื่องจากทุกคนที่มาต่อสู้ในสังเวียนแห่งนี้ ล้วนพยายามที่จะแข่งขันอย่างเต็มที่เพราะมันคือสังเวียนแห่งตำนานและมันอาจเป็นเพียงครั้งเดียวในชีวิตก็ได้
การไปญี่ปุ่นในครั้งนี้ของผมมีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือการไปเยี่ยมเยือน โคราคุเอน ฮอลล์ หนึ่งในสังเวียนกีฬาระดับตำนานของโลกที่ตั้งอยู่ใจ กลางกรุงโตเกียว สำหรับสังเวียนกีฬาแห่งนี้นั้น ได้ชื่อว่าเป็น “เมกกะ” ของวงการกีฬาและแฟนๆ รวมถึงนักกีฬา ต่างก็ฝันที่จะมาเหยียบดูสักครั้ง

โคราคุเอน ฮอลล์ (Korakuen Hall) ตั้งอยู่ที่สถานี Suidobashi สามารถเดินทางมาโดยรถไฟทั้งบนบกและใต้ดิน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานีที่มีชื่อเสียงที่สุดก็ว่าได้ โดยนอกจากสถานีนี้จะมีโคราคุเอน ฮอลล์แล้ว สิ่งที่มีขื่อเสียงควบคู่กันอีกอย่างและถือเป็นหน้าตาของประเทศก็คือ “โตเกียว โดม” ซึ่งเมื่อเราลงจากสถานีไปก็จะเห็นป้ายบอกทางอยู่มากมาย ไม่ต่างจากป้ายบอกทางไปสุวรรณภูมิในเมืองไทยเลยล่ะครับ
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ผมจะพูดถึงในส่วนของโคราคุเอน ฮอลล์เพียงอย่างเดียวก่อน (จริงๆก็เข้าไปชมกีฬามาทั้งสองที่ล่ะครับ แต่จะค่อนข้างคุ้นเคยกับโคราคุเอนมากกว่า) สำหรับสังเวียนแห่งนี้ สมาคมหรือผู้จัดจะต้องค่อนข้างมีความมั่นใจจริงๆ ว่าจะขายตั๋วได้เป็นจำนวนมาก หรือไม่ให้ขาดทุน เพราะจากราคาที่ผมได้รับแจ้งมา ระบุว่าสัญญาการเช่าในบางช่วงอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านเยนต่อการใช้ครึ่งวัน (อัตราจะเปลี่ยนขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ขอเช่า ถ้าเป็นกลางสัปดาห์ก็จะถูกลง แต่ถ้าเป็นวันหยุดยาวก็จะแพงขึ้น) ซึ่งราคาตั๋วโดยปกติเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 – 7,500 เยน ดังนั้นต้องขายตั๋วให้ได้อย่างต่ำ 500 ใบจึงจะครอบคลุมรายจ่ายทั้งหมดของงานได้ (แต่บางรายการที่ตั๋วขายหมดจนคนล้น ก็ถือว่าได้กำไรคุ้มค่าเป็นอย่างมากเช่นกัน)

Korakuen Hall ตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ของตึกน้ำเงิน จากสถานี Suidobashi ข้ามสะพานมาที่ป้ายใหญ่ๆ ที่เขียนว่า Tokyo Dome City ก็จะเห็นไม่ยาก เพราะด้านล่างจะเต็มไปด้วยโปสเตอร์การแข่งขันกีฬา ไม่ว่าจะเป็นมวยสากล มวยปล้ำ หรือกระทั่งเบสบอล ซึ่งล้วนจัดการแข่งขันในละแวกใกล้เคียงทั้งหมด อย่างไรก็ตามการเดินทางไปชมกีฬาที่นี่ ผมขอแนะนำให้ไปก่อนเวลาเปิดประตูสักครึ่งชั่วโมง เพื่อไปเก็บบรรยากาศ ตลอดจนเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพราะทันทีที่รายการเริ่ม เราจะเห็นผู้คนหลั่งไหลมาซื้อของและใช้ห้องน้ำกันจนเราตั้งตัวไม่ทัน โดยเฉพาะผู้หญิง ที่ทางสนามมีห้องน้ำเอาไว้ให้น้อยมาก และแถวก็ยาวเหยียด ดังนั้นถ้าไม่อยากลุกออกมากลางคันระหว่างแมตช์ (ที่ทำให้เสียอรรถรสมาก) ก็ต้องลองจัดสรรเวลาดูดีๆ ครับ
สำหรับสนามแห่งนี้นั้นเราสามารถเอา อาหารเข้าไปกินข้างในได้ โดยด้านนอกจะมีร้านขายอาหาร แบบเดียวกับเวลาที่เราไปดูหนังในกรุงเทพนั่นล่ะครับ แต่อาหารก็จะเป็นพวกเบียร์ น้ำอัดลม น้ำชา รวมไปถึงพวกมันฝรั่งทอด ไก่ทอด นักเก็ต หรือถ้าใครหิวจัดจริงๆ ก็มีพวกข้าวหน้าเนื้อต่างๆ ขายเช่นกัน สนนราคาน้ำอัดลมอยู่ที่ 450 เยน / น้ำเปล่าอยู่ที่ขวดละ 200 เยน และข้าวหน้าเนื้ออยู่ที่ 700 – 1000 เยนครับ (ตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเรตเฉพาะช่วงที่ผมไปหรือเปล่า เพราะช่วงที่ไปนั้นเป็นรายการใหญ่และจัดช่วงสิ้นปีครับ)

ตามปกติแล้วการแข่งขันกีฬาทั่วไปจะแบ่งการแข่งขันไว้เป็นสองช่วง คือระหว่างรายการจะมีเวลาเบรกระหว่างรายการ และตอนนั้นหากใครอยากออกไปซื้อของกินหรือของที่ระลึกก็สามารถทำได้ครับ โดยอย่างในรายการมวยปล้ำที่ผมไปก็จะมีนักมวยปล้ำมาขายของที่ระลึก ซึ่งเราสามารถขอถ่ายภาพได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น หรือถ้าใครอยากจะสูบบุหรี่ ทางสนามก็มีห้องสูบบุหรี่เอาไว้ให้ แต่ต้องบอกว่าลองเข้าไปแว๊บนึง (จริงๆ ไม่สูบบุหรี่นะ แต่อยากรู้ว่าเป็นยังไง) สรุปว่าจะตายครับ คือในห้องเล็กๆ นี้จะมีบุหรี่รวมกันมากมาย ถึงจะมีตัวกรองและดูดอากาศก็ตาม ดังนั้นคุณต้องแกร่งพอตัวเลยนะครับ
อย่างไรก็ตามถ้ามีโอกาส ผมอยากให้ทุกคนแวะไปที่โคราคุเอน ฮอล สักครั้ง เพราะที่นี่คุณจะไม่มีคำว่าผิดหวังกลับไป เนื่องจากทุกคนที่มาต่อสู้ในสังเวียนแห่งนี้ ล้วนพยายามที่จะแข่งขันอย่างเต็มที่เพราะมันคือสังเวียนแห่งตำนานและมันอาจ เป็นเพียงครั้งเดียวในชีวิตก็ได้ สุดท้ายนี้ลองชมภาพบรรยากาศเล็กๆ น้อยจากโชว์ที่ผมไปชมก็ได้ครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ



