วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (48) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบแปด ปัจฉิมลิขิต
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน มาถึงบทสุดท้ายของ “คัมภีร์แห่งอาโป” แล้วนะครับ ขณะที่พิมพ์ๆ อยู่นี่ เมื่อวานโดนเล่นซะ เมื่อยหัวไหล่ซ้ายเลย (ฮา) แอบเหวอนิดนึงเพราะหัวไหล่ซ้ายผมมันไม่ค่อยเต็มร้อยเท่าไหร่ (สมัยหนุ่มๆ เคยไหล่หลุด จำได้ว่าต่อเข้าไปเองแบบเถื่อนๆ เจ็บมาก นอนไม่หลับเลย) ถึงจะทำกายภาพบำบัดแต่นักกายภาพฯ ก็ไม่ได้บอกว่าจะหายเต็มร้อย (อนุมานว่ามันก็อาจจะดีขึ้นแปดเก้าสิบเปอร์เซ็นต์) ช่วงนี้เรียกว่า นอนพักได้ก็นอนครับ ซ้อมเสร็จกลับมานอนให้เยอะๆ
จะว่าไปช่วงนี้ผมเริ่มรู้สึก “เอะใจ” หรือสนใจเรื่องของการ “ฝึกจิต” “ฝึกสมาธิ” ด้วย เพราะสังเกตว่าบางวันที่สมาธิดีๆ จะเล่มเกมได้สมูท จิตเราขณะนั้นจะมองเห็นทางแก้ทางกันในเกมได้แบบ “ใส” คนเราจะทำจิตให้สงบได้ยังไงเมื่อเผชิญกับแรงกระทบ…บางที ผมอาจควรกลับไปศึกษาคำสอนเรื่องเกี่ยวกับจิตในพุทธศาสนาอีกสักรอบ เผื่อจะเจอ อะไรสักอย่างที่มันสะกิดใจได้ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังท้ายเรื่องนะครับ
มาถึงบทสุดท้ายก่อนจะจบคัมภีร์แห่งอาโปแล้ว ลุยเลยครับ
คำแปลข้อความต้นฉบับ
水の巻
คัมภีร์แห่งอาโป
三八 後書
สามสิบแปด ปัจฉืมลิขิต
`右書付る所一流の剣術大形此巻に記し置事也 `兵法太刀を取て人に勝事を覚ゆるは先五ツの表を以て五方の構を知り太刀の道を覚えて惣体自由になり心のきき出て道の拍子を知りおのれと太刀も手さへて身も足も心の儘にほどけたる時に随ひ一人に勝ち二人に勝ち兵法の善悪を知る程になり此一書の内を一ケ条一ケ条と稽古して敵と戦ひ次第次第と道の利を得て不㆑断心に罹いそぐ心なくして折々手に触れては徳を覚え何れの人共打合其心を知つて千里の道も一足づつ運ぶなり `緩々と思ひ `此法を行ふ事武士の役也 `と心得て `今日は昨日の我に勝ちあすは下手に勝ち後は上手に勝 `と思ひ此書物の如くにして少しも脇の道へ心のゆかざる様に思ふべし `縦ひ何程の敵に打勝ても習ひに背く事に於ては実の道に有べからず `此利心にうかびては一身を以て数十人にも勝心の弁へ有べし `然る上は剣術の智力にて大分一分の兵法をも得道すべし `千日の稽古を `鍛 `とし万日の稽古を `錬 `とす `能々吟味有べきもの也
ที่เขียนใส่ไว้ข้างต้น เป็นการบันทึกภาพใหญ่ของวิชาดาบของสายสำนัก ไว้ในคัมภีร์นี้ การจับทะจิพิชัยสงคราม จำได้หมายรู้ซึ่งการชนะคน นั้น ก่อนอื่น อาศัยเบื้องหน้าทั้งห้า รู้ซึ่งการตั้งท่าห้าด้าน จำได้หมายรู้ซึ่งวิถีแห่งทะจิ เป็นอิสระทั่วทั้งตัวตน (เอา) สมรรถนะของใจออกมา รู้จังหวะของวิถี แม้ตัวตนและทะจิก็มือ (ใส) กระจ่าง แม้กายหรือเท้าก็ปล่อยไปตามใจ ไปตามเวลา ชนะหนึ่งคน ชนะสองคน ถึงขั้นรู้ซึ่งดีชั่วของพิชัยสงคราม ฝึกเรียนในหนังสือนี้ทีละข้อทีละข้อ สู้กับศัตรูไปจึงได้ซึ่งประโยชน์แห่งวิถีตามลำดับ ใส่ใจไม่ขาดตอน ไม่มีใจรีบเร่ง เอาแตะมือเป็นครั้งคราว จำได้หมายรู้ซึ่งคุณความดี ไม่ว่าจะคนใดก็ตีประสานกัน รู้ซึ่งใจนั้น แม้วิถีพันลี้ก็ย่างไปทีละก้าว รู้เข้าใจว่า การค่อยๆ นึกคิด ปฏิบัติซึ่งหลักนี้ คือหน้าที่ของนักรบ ควรคิดว่า วันนี้ต้องชนะตัวเองของเมื่อวาน พรุ่งนี้ชนะคนห่วย หลังจากนี้ชนะคนเก่ง ทำให้ได้ดั่งหนังสือนี้ ใจไม่เอนเอียงไปทางวิถีข้างๆ แม้แต่น้อย แม้นว่า จักตีชนะศัตรูระดับไหน การหันหลังให้กับการเรียนนั้น ไม่ควรมีในวิถีที่แท้ ประโยชน์นี้ เมื่อลอยขึ้นมาในจิต อาศัยตัวคนเดียว แม้หลายสิบคนก็ชนะ สมควรรู้ซึ้งในจิต ดังนั้นแล้ว ด้วยกำลังปัญญาแห่งวิชาดาบ แม้พิชัยสงครามของส่วนใหญ่หรือส่วนเดียวก็อาจบรรลุมรรคผลได้ ฝึกเรียนพันวัน ถือเป็น “ฝึก” ฝึกเรียนหมื่นวันถือเป็น “ฝน” เป็นสิ่งที่สมควรคิดพินิจให้ดีๆ
`正保二年五月十二日 新免武蔵
วันที่สิบสอง เดือนห้า ปีที่สองแห่งศักราชโชโฮ ชินเม็งมูซาชิ
`寺尾孫之丞殿
ถึง เทราโอะ มาโกะโนโจ
`寛文七年二月五日 寺尾夢世勝延 花押
`山本源介殿
วันที่ห้า เดือนสอง ปีที่เจ็ดแห่งศักราชคัมบุน เทราโอะมุเซคัตสึโนบุ ลงเครื่องหมายแทนชื่อ
ถึง ยามาโมโตะ เก็นสุเกะ
การตีความและอภิปราย
เมื่อผมได้อ่านตรงนี้จนจบแล้ว
…ผมรู้สึก จะเรียกว่าไง ปิติยินดี ตื้นตัน หรืออะไรไม่รู้ บอกไม่ถูก…
บอกได้แค่ว่า ผมเห็นแล้วว่า ถ้าผมจะถีบตัวเองให้จบการศึกษาจากสายน้ำเงิน มาเป็น “สายม่วง” ผมต้องเรียนอะไร ทำอะไร ตั้งจิตไปในทางไหน…
ผมจะไม่ใส่คำอภิปรายหรือตีความอะไรทั้งนั้น ขอให้ท่านผู้อ่านได้ตั้งใจอ่านคำที่ผมแปลมา ทุกคำ ทุกประโยค มูซาชิได้พูดไว้ตรงๆ หมดแล้วจนไม่ต้องตีความหรือให้อรรถกถาขยายความอีก
ผมขอนับถือ มิยาโมโตะ มูซาชิ เป็นครู
ขอจบการอภิปราย “คัมภีร์แห่งอาโป” แต่เพียงเท่านี้ครับ ปีหน้า พ.ศ. ๒๕๕๖ เปิดมาขอเชิญทุกท่านมาอ่าน “คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ)” นะครับ และคาดว่าซีรี่ส์ “คัมภีร์ห้าห่วง” ก็คงจะจบในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ นี่แหละครับ
ทีนี้มาพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับจิตในพุทธศาสนา ที่ผมเกิดรู้สึก “สะกิดใจ” ต้องย้อนกลับไปหาอะไรอ่าน มันคือเรื่องอะไร….
…เฉลย คือเรื่องของ ขันธ์ ๕ (โกะอุน 五蘊) ครับ
ขันธ์ ๕ นั้นมี รูป (ชิกิ 色) เวทนา (จุ 受) สัญญา (โซ 想) สังขาร (เกียว 行) วิญญาณ (ชิกิ 識)
เมื่อผมโดน guillotine choke คอผมถูกรัด (แอ๊ะ นี้คือรูป) ผมกำลังจะหายใจไม่ออก ร่างกายมันจะประท้วง (เกิดทุกขเวทนา) ในจิตผมมันผุดขึ้นมาล่ะว่า ชิบหายแล้วกูจะหายใจไม่ออก (สัญญา) เกิด ทีนี้ทำไงล่ะ ป้องกัน หรือ หนี ความนึกคิดมันผุดมาละ ไม่ทำไรสักอย่าง กูตายแน่ จิตใต้สำนึกมันสั่งให้ทำอะไรสักอย่าง (นี่คือ สังขาร) พอทำลงไปแล้ว ขยับออกมา ปึ๊ด จิตเรารับรู้การแอ็กชั่นของร่างกาย เกิดการจำได้หมายรู้ (วิญญาณ)
ฉะนั้นเราจะพบขันธ์ห้าบนเบาะยูยิตสูได้ และจะให้ดีต้องลองไปตระหนักถึงมันตอนสแปริ่ง ผมคิดว่า ถ้าจิตเรายิ่งนิ่ง จะยิ่งรับรู้สิ่งต่างๆ ได้ไวและตอบสนองได้อย่างถูกต้องเหมาะสม แต่ถ้าเราไม่ฝึกจิต ปล่อยให้เวทนาสัญญามันครอบงำ กลัวจนขาดสติ การคิดทำตอบสนองการรับรู้จะผิดที่ผิดทางไปหมด
ผมตีความขันธ์ ๕ อย่างญี่ปุ่น เอาแบบบ้านๆ แบบนี้เลย ไม่ต้องพูดเยอะ
รูป (ชิกิ) 色 ชิกิในที่นี้ก็คือ สีสัน (อิโระ) นั่นแหละ อะไรที่ตาเราเห็น เกิดรูปเกิดฟอร์ม form ขึ้นมานั่นแหละคือรูป ร่างกายเราก็คือรูป
เวทนา (จุ) 受 คำนี้ผมดูคันจิแล้ว เอาง่ายๆ เลยคือการ “รับ” (อุเคะรุ 受ける) ร่างกายเรา ไปรับไปโดนอะไร ไอ้การโดนการรับนี่หละคือเวทนา
สัญญา (โซ) 想 คำนี้ยิ่งเล่นง่าย ก็คือ การ “นึก” “คิด” การมีอะไรแวบในหัวไงล่ะครับ (โอโมอุ 想う)
สังขาร (เกียว) 行 คำนี้คือการเกิดแอคชั่น กระทำ ปฏิบัติ (โอโคนาอุ 行う)
วิญญาณ (ชิกิ) 識 คำนี้ก็คือแปลว่า รู้ เหมือนในคำว่า “รับรู้” (นินชิกิ 認識) “ความรู้” (จิชิกิ 知識) “จิตสำนึก” (อิชิกิ 意識)
ผมอ่าน กระทู้นี้ บอกตรงๆ หน่ายใจกับแนวคิดเรื่องการศึกษาศาสนาพุทธในประเทศไทยมาก ยึดติดอยู่กับการมานั่งแปลบาลีเป็นไทย แปลแล้วก็งง ยิ่งตีความกันไปเรื่อยก็ยิ่งงง เข้ารกเข้าพงไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเรียนกันแบบนี้แล้วจะมีประโยชน์อะไร เหมือนเรียนไว้ท่องจำอวดภูมิกันเท่านั้น ถ้าถามผมว่า อยากเข้าใจเรื่องขันธ์ ๕ ให้ทำไง คำตอบคือ ลองโดนทุ่ม ทับ รัดคอ ดัดแขน หักข้อมือข้อตีนบ่อยๆ เดี๋ยวก็เข้าใจเองแหละ
การอภิปรายเรื่องขันธ์ ๕ ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ ครับ ไอ้ที่นั่งพิมพ์ๆ อยู่นี่ก็ ไหล่ขัดๆ เมื่อยๆ ร่างกายก็อ่อนๆ เปลี้ยๆ เราก็ไม่เป็นไร ก็ดูอาการมันไป ยังตั้งจิตพิมพ์มันไปต่อไป
อาทิตย์หน้า สัปดาห์สุดท้ายของปี มีเรื่องแทรกแน่นอน แต่จะเรื่องอะไรก็โปรดติดตามกันนะครับ ก่อนจากกันวันนี้ เอารูปพิซซ่า “หน้าหอยดอง” (คิดได้ไงเนี่ย) จากร้านเดิม Gong Jora Pizza เรียกว่า เจ้าของร้านกล้าทำขาย ผมก็กล้าสั่งกินนะ 555 ส่วนรสชาติมันก็คือ หอยดอง+ชีส นั่นแหละ 555
พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ สัปดาห์หน้าจะเขียนเรื่องอะไรท่านผู้อ่านน่าจะเดากันได้ โปรดติดตามอ่านนะครับ
เรื่องแนะนำ :
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (47) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบเจ็ด สิ่งที่เรียกว่าตำแหน่งสื่อตรง
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (46) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบหก สิ่งที่เรียกว่าการตีอันหนึ่ง
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (45) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบห้า เรื่องของประโยชน์ของการตีประสาน
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (44) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบสี่ เรื่องของตำแหน่งของหลายศัตรู
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (43) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบสาม สิ่งที่เรียกว่าการพาดรับ
#มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (48) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบแปด ปัจฉิมลิขิต