Japan Gossip ฉบับนี้ขอนำเสนอมารยาทน่ารัก ๆ ที่คนญี่ปุ่นทำให้กันเป็นเรื่องปกติ แต่พวกเราอาจไม่ทันมอง ดังต่อไปนี้ค่ะ
พวกเราชาวไทยรู้กันดีว่า คนญี่ปุ่นเป็นคนสุภาพ ขี้เกรงใจ
ถามว่ารู้ได้ยังไง …
บางท่านสังเกตจากการที่คนญี่ปุ่นโค้งแล้วโค้งอีก พร้อมพึมพำอะไรก็ไม่รู้ บางท่านก็มีโอกาสได้โค้งแล้วโค้งอีกกับคนญี่ปุ่นโดยตรง ตอนที่เราหลงทางแล้วเขาพาไปส่ง หรือตอนซื้อขนมที่ร้าน แล้วคุณป้ายิ้มพร้อมโค้งให้อย่างใจดี
Japan Gossip ฉบับนี้ขอนำเสนอมารยาทน่ารัก ๆ ที่คนญี่ปุ่นทำให้กันเป็นเรื่องปกติ แต่พวกเราอาจไม่ทันมอง ดังต่อไปนี้ค่ะ
1. มารยาทการปรับเบาะ
หากท่านมีโอกาสได้ขึ้นรถชิงกังเซ็นหรือขึ้นเครื่องบิน และมีโอกาสได้นั่งหลังคนญี่ปุ่น ลองสังเกตดูนะคะ ตอนที่เขาจะปรับเบาะเอนลงมา คนญี่ปุ่นจะหันมาบอกคนที่นั่งข้างหลังเสมอว่า “ซุมิมาเซ็น….ขอโทษนะครับ/คะ จะขอปรับเบาะเอนลงนิดหนึ่งแล้วนะครับ/คะ” ก่อนจะปรับเบาะเอนลงมา แถมเวลาปรับก็ไม่ปรับให้เอนลงมาต่ำสุด เขาเกรงใจคนข้างหลังค่ะ เป็นมารยาทที่น่ารักมากค่ะ
การหันมาบอกก่อนนี้ คนญี่ปุ่นจะดูตั้งแต่คนข้างหลังใช้โต๊ะทำอะไรอยู่หรือเปล่า เขาสามารถเอนเบาะได้จริงหรือไม่ หากเอนได้เขาก็จะรู้สึกเกรงใจคนข้างหลัง จึงต้องเอ่ยคำว่า “ขอโทษ” และ “ขออนุญาต” ปรับเบาะ ส่วนเลเว่ลการปรับเบาะก็ปรับไม่ให้เอนมากเกินไป เพราะเห็นใจคนข้างหลังค่ะ
ดิฉันซาบซึ้งมารยาทข้อนี้ตอนบินไปอเมริกา แล้วคนข้างหน้าเป็นฝรั่งตัวโต ขณะที่ดิฉันกางโต๊ะพิมพ์งานอยู่นั้น คุณพี่ฝรั่งก็เอนเบาะลงมาโครม เบาะกระแทกคอมดิฉันฝาเกือบหัก ดีที่หยิบหลบทันเวลา
หากมีคนญี่ปุ่นบอกท่านเช่นนี้ ท่านไม่ต้องกลัวว่าจะตอบเขาเป็นภาษาญี่ปุ่นอย่างไรดี คนญี่ปุ่นเองก็ไม่ตอบ
อะไรมากค่ะ แค่ยิ้มพยักหน้านัยว่ารับรู้ก็พอแล้วค่ะ
2. มายาทการเข้า-ออกลิฟท์
หากลิฟท์ขึ้นหรือลงไต่ชั้นมาเรื่อย ๆ แล้วมีคนญี่ปุ่นขึ้นหรือลงระหว่างทาง ลองสังเกตดูค่ะ เขาจะพูด “ซุมิมาเซ็น” (ที่แปลว่า ขอโทษ) หรือถ้าเป็นในต่างประเทศ เขาจะค้อมหัวเล็กน้อย นัยว่า “ขอโทษที่ขัดจังหวะการขึ้น-ลงลิฟท์ของทุกท่าน และขออนุญาตให้ผม/ดิฉันขึ้นไปด้วย”
นอกจากนี้หากเรากดปุ่มชั้นไม่ถึงแล้วมีคนกดให้ เราก็จะพูดว่า “ซุมิมาเซ็น” เช่นกันค่ะ บางคนก็ใช้อาริกาโต้ แต่ส่วนใหญ่ใช้คำขอโทษนี่แหละ แฝงความหมายที่ว่า ขอโทษที่ต้องให้คุณลำบากกดปุ่มชั้นลิฟท์ให้
เท่านั้นไม่พอค่ะ … ตอนออกจากลิฟท์คนญี่ปุ่นก็จะขอโทษกันอีก ซุมิมาเซ็น….ด้วยความหมายว่าขอโทษที่ฉัน (เห็นแก่ตัว) ออกจากลิฟท์ก่อนคุณนะ
เห็นไหมคะ … แค่ขึ้นลิฟท์เดียวกันมีคำว่า “ซุมิมาเซ็น” หลายรอบเลย มีเพียงคำเดียวแต่หลายความหมาย สื่อหลายอารมณ์ค่ะ
3. มารยาทการกดตู้ต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นตู้ ATM ตู้ซื้อตั๋วต่าง ๆ ตามร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่น ตู้กดน้ำ หากคนญี่ปุ่นรู้สึกว่าเขาใช้เวลานานกับตู้นี้จัง และทำให้คนข้างหลังรอ เขาก็จะหันมาขอโทษค่ะ ซึ่งโดยมากก็ขอโทษกันตลอดหากมีคนยืนรออยู่ด้านหลัง เป็นการแสดงความรู้สึกเกรงอกเกรงใจ
หากเราเป็นฝ่ายรอคิว แล้วคนข้างหน้ามัวแต่จิ้ม ๆ โอนเงินกว่าจะเสร็จก็ใช้เวลานานเหมือนกัน เราคงจะหงุดหงิดนิดหน่อยใช่ไหมคะ แต่ถ้าคนข้างหน้าหันมาขอโทษเรา เราก็จะรู้สึกดีขึ้นเช่นกัน นี่แหละค่ะสังคมญี่ปุ่นถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
4. มารยาทการเข้าห้องน้ำ
สมัยไปญี่ปุ่นใหม่ ๆ ดิฉันเคยตกใจตอนเข้าแถวรอเข้าห้องน้ำอยู่ พอดิฉันอยู่หน้าสุดกำลังจะได้เข้าเป็นคนถัดไป คุณป้าที่เพิ่งเข้าห้องน้ำเสร็จ แกเดินจ้ำ ๆ ออกมาพร้อมยิ้มให้ดิฉัน ก้มศีรษะเล็กน้อยและบอกว่า “ซุมิมาเซ็น” ตอนแรกก็คิดว่าป้าทำอะไรเลอะเทอะหรือเปล่า (555)
แต่พออยู่ญี่ปุ่นนาน ๆ ไป ดิฉันก็เข้าใจค่ะ คนญี่ปุ่นจะขอโทษในความหมายที่ว่า “ขอโทษที่ดิฉันมัวแต่เข้าห้องน้ำนาน จนทำให้คุณต้องยืนรอนะ” เป็นการแสดงความเกรงอกเกรงใจค่ะ น่ารักเนอะคะ
+++
และนี่คือ 4 ตัวอย่างสถานการณ์ในชีวิตประจำวันปกติทั่วไปอันสุดแสนจะธรรมดาของคนญี่ปุ่นค่ะ คนญี่ปุ่นคิดถึงกันและกันเป็นเรื่องปกติ รู้จักกล่าวคำขอบคุณ คำขอโทษ เกรงใจกันและกันอย่างนี้เสมอๆ
ท่านใดมีโอกาสไปญี่ปุ่น ลองสังเกตดูนะคะ และลองทำกับคนญี่ปุ่นดูค่ะ ท่านจะรู้สึกดีกับสิ่งดี ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราสามารถทำให้คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักได้ค่ะ ^^ (และจะดีที่สุด หากกลับมาทำที่ไทยด้วยค่ะ อิๆๆ)
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> เกตุวดี Marumura
อ่าน Japan Gossip ทั้งหมด CLICK HERE
เรื่องแนะนำ :
– เจาะลึกกระแสผักชี…ที่มาแรงสุด ๆ ในญี่ปุ่น
– คำพูดที่ส่งสัญญาณว่า หนุ่มญี่ปุ่นมีใจ….
– ญี่ปุ่นงงไทย ไทยงงญี่ปุ่น (ด้านศาสนา)
– เมื่อฉันบอกคนญี่ปุ่นว่าจะไปปฏิบัติธรรม…
– Do and Don’t กับแฟชั่นหน้าร้อนญี่ปุ่น…