STARDOM ค่ายมวยปล้ำหญิงอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น “เราจะสร้างสมาคมมวยปล้ำหญิงที่ผสมผสานระหว่างความสวยและความแกร่งไว้ด้วยกัน”
“เราจะสร้างสมาคมมวยปล้ำหญิงที่ผสมผสานระหว่างความสวยและความแกร่งไว้ด้วยกัน”
นี่คือคอนเซปต์ตั้งต้นการก่อตั้งสมาคมในช่วงปี 2010 ก่อตั้งโดยชายที่ชื่อ Rossy Ogawa ร่วมด้วย Fuka Kakimoto นักมวยปล้ำ, นางแบบชื่อดัง และ Nanae Takahashi นักมวยปล้ำหญิงประสบการณ์สูงโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสมาคมมวยปล้ำหญิงที่โดดเด่นที่สุด นอกเหนือจากที่เห็นในท้องตลาด และเหมือนมีโลกของตนเองเป็นหลักเพียงอย่างเดียว
กล่าวคือปกติแล้ววงการมวยปล้ำหญิงของญี่ปุ่นจะไม่มีสมาคมใดใหญ่เป็นพิเศษ แต่ละสมาคมก็จะมีโดโจ (โรงฝึก) เป็นของตนเอง และก็มีการแลกเปลี่ยนนักมวยปล้ำกับสมาคมอื่นอยู่เรื่อยๆ ในการจัดโชว์แต่ละครั้ง ทั้งนี้เพราะส่วนใหญ่สมาคมมวยปล้ำหญิงมีขนาดเล็ก และถ้ใช้เพียงแต่นักมวยปล้ำของตนเอง ก็จะไม่มีคุณภาพของโชว์ที่ดีมากพอ ต้องหานักมวยปล้ำเก่งๆจากสมาคมอื่นมาเพื่อยกระดับโชว์ ตลอดจนสร้างประสบการณ์ให้กับนักมวยปล้ำหน้าใหม่ๆของตนเองด้วย
แต่ Stardom แตกต่างออกไป เพราะสมาคมนี้ตั้งขึ้นเพื่อให้มีรูปแบบกึ่ง ๆ “สมาคมปิด” โดยดำเนินธุรกิจแบบไม่เกี่ยวข้องกับสมาคมอื่นเท่าไรนัก ยกตัวอย่างเช่นนักมวยปล้ำของ Stardom จะไม่ออกไปปล้ำค่ายอื่นเลย หากไม่มีผลดีต่อตัวสมาคมเอง และถ้าจะมีนักมวยปล้ำจากนอกค่ายมาขึ้นปล้ำในสมาคม ก็จะต้องดำเนินบทไปในทางที่สมาคมต้องการเท่านั้น ซึ่งอาจจะแตกต่างกับบทบาทที่นักมวยปล้ำนั้น ๆ ใช้ในสมาคมอื่นโดยสิ้นเชิงไปเลยก็ได้ เรียกง่าย ๆ ว่าจักรวาลของ Stardom จะปลีกตัวออกมาจากสมาคมมวยปล้ำหญิงญี่ปุ่นในภาพรวม กรณีอื่น ๆ ก็อย่างเช่น โดยปกติแล้ววงการมวยปล้ำหญิงจะมีการผลิต “การ์ดสะสม” เป็นรูปนักมวยปล้ำจากทุกสมาคมวางจำหน่ายปีละครั้ง แต่ Stardom ได้ถอนตัวออกจากโครงการนี้ และจัดทำการ์ดสะสมเป็นของตนเอง จำหน่ายควบคู่กันไป เป็นต้น
สองคำที่ถือว่าสำคัญที่สุดในสมาคมนี้คือคำว่า ‘Beauty และ Battle’ นักมวยปล้ำของ Stardom แม้จะไม่ได้เก่งเท่าไรนักในช่วงที่ตั้งสมาคมใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นดาวรุ่ง / หน้าใหม่ มาผสมผสานกับตัวเก๋า ประสบการณ์สูง ที่กลับมาปล้ำเพื่อช่วยดันน้อง ๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มากลบความผิดพลาดของแมตช์ไว้ ก็คือ “ความสวยงาม” กล่าวคือนักมวยปล้ำของ Stardom จะมุ่งไปจับตลาดของเหล่าแฟน ๆ ไอดอลด้วย พวกเธอจะมีการถ่ายแบบอยู่เสมอ ทั้งแบบแฟชั่นปกติ ไปจนถึงแฟชั่นชุดว่ายน้ำ กราเวียร์ต่าง ๆ ซึ่งก็จะทำให้เธอได้รับเสียงตอบรับจากแฟน ๆ ในอีกตลาดหนึ่ง และทำให้คนดูไม่ได้สนใจข้อเสียของพวกเธอนัก
แน่นอนว่าในช่วงแรก ๆ ของสมาคมนั้นแฟนมวยปล้ำดั้งเดิมหลายส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทาง และพยายามต่อต้าน แต่อย่างน้อยแฟนที่เข้ามาดูความสวยเฉย ๆ ก็เพียงพอที่จะทำให้ Stardom ขายตั๋วหมดตลอด และดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างแข็งแรง (อธิบายเพิ่มเติมตรงนี้ก่อนว่ารูปแบบธุรกิจของ Stardom นั้นไม่ใช่เรื่องผิด และการใช้คอนเซปต์นี้ก็เกิดขึ้นมาแล้วบ่อยครั้งในอดีต Stardom พยายามเดินตามรอยของ All Japan Women’s Pro-Wrestling – 全日本女子プロレス สมาคมมวยปล้ำหญิงที่คนไทยรู้จักกันดีในอดีต เพียงแต่ตอนนั้นรูปแบบการปล้ำของทุกคนแข็งแกร่งและมีคุณภาพจริงๆ ต่างจาก Stardom ในช่วงเริ่มที่มีข้อผิดพลาดเต็มไปหมด แฟนๆบางส่วนจึงไม่สบายใจและอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี, อนึ่งปัจจุบัน Stardom ไม่มีปัญหาตรงส่วนนี้แล้ว เพราะนักมวยปล้ำมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจนแข็งแกร่งและสร้างสรรค์โชว์ที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง)
สิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของสมาคมนี้ และถือว่าสร้างความน่าสนใจให้กับสมาคมเลยก็คือการประกาศเข้าร่วมของกราเวียร์ไอดอลระดับแนวหน้าของประเทศอย่าง “ยุซุกิ ไอคาวะ” และได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยมจากสื่อทุกสำนัก Stardom มีความตั้งใจที่จะ “สร้างสมาคมโดยมีไอคาวะเป็นศูนย์กลาง” และถึงแม้เธอจะไม่ได้เป็นนักมวยปล้ำที่ฝีมือยอดเยี่ยมที่สุด แต่ “แรงดึงดูด” ในฐานะของผู้มีชื่อเสียงมาก่อน และความตั้งใจที่เธอถ่ายทอดออกมาตลอดเวลาที่เป็นนักมวยปล้ำนั้น มันสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็น รวมถึงบางคนที่ตั้งข้อครหาว่า Stardom เอาเธอมาเป็นตัวเรียกแขกเท่านั้นแหละ เธอปล้ำไม่ได้หรอก ฯลฯ ทั้งหมดต่างยอมรับในตัวเธอ และท้ายที่สุดเธอก็สามารถนำพา Stardom ไปอยู่ในจุดที่พูดได้เต็มปากว่า “นี่คือสมาคมมวยปล้ำหญิงที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น”…
ในปี 2013 หลังจากขึ้นปล้ำได้เพียง 3 ปี ไอคาวะ ก็ตัดสินใจอำลาวงการมวยปล้ำอย่างที่หลายคนไม่คาดฝัน และมันก็นำไปสู่อีเวนท์มวยปล้ำที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ Stardom เคยจัดมา และกลายเป็นโชว์ที่ได้ชื่อว่า “ปลุกความสนใจในมวยปล้ำหญิงญี่ปุ่น” ขึ้นมาอีกครั้ง โดยพวกเขาจัดอีเวนท์เสี่ยงตายในสนาม Ryogoku (Sumo Hall) สังเวียนกีฬาระดับตำนานของประเทศที่จุผู้ชมสูงสุดได้ถึง 13,000 คน (สมัยก่อนสนามแห่งนี้สามารถจัดมวยปล้ำหญิงได้สบายๆ แต่ความนิยมที่ลดลงไปมาก ทำให้เฉลี่ยแล้วอีเวนท์มวยปล้ำหญิงคนดูมีแค่ 100-200 คนเท่านั้น) ไอคาวะขึ้นปล้ำเป็นคู่เอกในค่ำคืนดังกล่าว (29 เมษายน 2013) ท่ามกลางผู้ชม 5,500 คน ซึ่งแม้จะไม่ถึงครึ่งของความจุสนาม แต่มันก็คงจะไม่มีสถานที่ใดเหมาะสมที่จะใช้อำลานักมวยปล้ำหญิงชั้นนำของสมาคมอย่างยุซุกิ ไอคาวะ ไปมากกว่าสถานที่แห่งนี้อีกแล้ว
อย่างไรก็ตามในขณะที่กราฟของ Stardom กำลังไล่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น และเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดที่ทำให้การพุ่งทะยานของสมาคมต้องหยุดไปช่วงระยะหนึ่ง นั่นก็คือเหตุการ “นอกบท” ระหว่าง Yoshiko และ Act Yasukawa ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2015 ที่โคระคุเอน ฮอลล์ โดย Act Yasukawa มีโปรแกรมท้าชิงแชมป์ World Of Stardom จาก Yoshiko แต่จู่ๆ แมตช์ก็ดำเนินไปไม่ตรงกับที่วางแผนกันเอาไว้ Yoshiko เล่นงาน Act อย่างรุนแรงจนกระดูกบริเวณเบ้าตามีปัญหาและทำให้เธอมองไม่เห็นไปหลายวัน (คือจริงๆตาเธอแทบจะบอด คือเห็นลางๆ จากอาการป่วยอยู่แล้ว แต่ก็ฝึกจนเป็นนักมวยปล้ำได้สำเร็จ แต่หลังจากแมตช์นี้ คือตาขวาเธอดับไปเลย ต้องใช้เวลาในการกายภาพอีกนานกว่าจะกลับมามองเห็นเลือนๆ) ทุกคนสามารถชมแมตช์ดังกล่าวได้จากลิงค์นี้
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ Yoshiko ถูกแบนไม่มีกำหนด (และต้องออกจากสมาคมในภายหลัง) รวมถึง Nanae Takanashi หนึ่งในผู้ก่อตั้งสมาคม ซึ่งดำรงตำแหน่งทางด้านควบคุมดูแลนักมวยปล้ำ ก็ต้องพักงานตนเอง (ก่อนจะลาออกในเวลาต่อมา) เพื่อแสดงความรับผิดชอบด้วย อันเป็นสาเหตุให้สมาคมต้องหยุดชะงัก และเปลี่ยนแผนงานใหม่ทั้งหมดเพื่อวางรากฐานอนาคตของสมาคมใหม่อีกครั้ง เมื่อต้องเสียตัวหลักของสมาคม (Act Yasukasa เลิกปล้ำ, Nanae – Yoshiko ลาออก)
ภาพข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว สื่อทั่วโลก แม้กระทั่งโทรทัศน์ไทย ก็ยังนำข่าวนี้มาแถลง นิตยสารมวยปล้ำรายสัปดาห์ที่ญี่ปุ่นติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เรียกได้ว่าภาพลักษณ์ของสมาคมที่เน้นความสดใส หรือสาวสวยปะทะตัวร้าย ได้ถูกทำลายลงด้วยความรุนแรงเกินพิกัด ดังนั้นสมาคมเลยต้องหาทางเอาสิ่งที่ “ใส ๆ และภาพลักษณ์ดี” มาเป็นตัวชูโรงของสมาคมแทน และตอนนั้นเองที่ Kairi Hojo ถูกดันขึ้นไปเป็นแชมป์ และเป็นคนขับเคลื่อนหลักของสมาคมแทน จนกระทั่งปัจจุบัน
นอกจากนี้ทางสมาคมยังผลักดัน Io Shirai และ Mayu Iwatani ขึ้นมาเป็นตัวหลักของสมาคมอีกด้วย โดยทาง Io Shirai นั้น แต่เดิมเป็นตัวหลักของสมาคม แต่ก็เคยเจอปัญหาเกี่ยวกับสารเสพติด (เธอโดนใส่ร้าย และได้รับการตรวจสอบแล้วว่าเธอไม่ผิด แต่ก็ต้องเปิดเผยว่าตนนั้นมีแฟนแล้ว ซึ่งวงการมวยปล้ำหญิงก็เหมือนวงการไอดอล คือถ้านักมวยปล้ำมีแฟนแล้ว ส่วนใหญ่จะได้รับการปฏิเสธจากแฟน ๆ ทันที) ตอนนั้นบทของเธอจึงก็ถูกลดระดับลงไป ได้แชมป์ใหญ่ ๆ บ้างประปราย แต่ก็ไม่ได้เป็นหน้าเป็นตาของสมาคมอย่างที่เคยเป็น จนกระทั่งช่วงปีก่อนที่สมาคมหันมาผลักดันเธออีกครั้งด้วยการสร้างแมตช์ดี ๆ กับคู่ต่อสู้ดี ๆ ให้แฟน ๆ กลับมาเชื่อมั่นอีกครั้ง และก็ทำได้สำเร็จ และในส่วนของ Mayu Iwatani ก็ได้รับการผลักดันในฐานะนักมวยปล้ำเดี่ยวมากขึ้นหลังจากขึ้นปล้ำในแมตช์ทีมเป็นหลักในช่วงเปิดตัว ตอนนี้ทั้งสามคนถือว่าเป็นแกนหลักของ Stardom ครับ
ปัจจุบัน Stardom ได้ขยายสาขาไปที่สหรัฐอเมริกาตลอดจนในยุโรป และมีการแลกเปลี่ยนนักมวยปล้ำจากนานาชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของสมาคม ซึ่งมีความมั่นคงทั้งมาตรฐานของตัวนักมวยปล้ำ ตลอดจนความมั่นคงทางการเงิน ทำให้สามารถจ้างนักมวยปล้ำหญิงชั้นนำของโลกมาสู้กันได้ กลายเป็นข้อได้เปรียบที่สมาคมอื่นไร้ทางสู้ไปโดยปริยาย ปัจจุบันสมาคมมีช่อง Youtube เป็นของตนเอง (แต่ยังบล็อคไม่ให้คนนอกญี่ปุ่นดู) ตลอดจนมีรายการของตัวเองทางโทรทัศน์ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นก้าวกระโดดที่เริ่มทิ้งห่างคู่ต่อสู้มากขึ้นเรื่อย ๆ
แว่ว ๆ มาว่าระบบรับชมออนไลน์ของ Stardom เริ่มมีการพูดถึงมากขึ้น และอีกไม่นานอาจจะเปิดให้คนไทยรับชมกันก็เป็นได้ หากถึงตอนนั้น ผมจะนำเรื่องราวของสมาคมมาพูดถึงเพิ่มเติม เพื่อที่คนไทย จะได้กลับมาสนุกสนานกับมวยปล้ำหญิงญี่ปุ่นอีกครั้ง อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในบ้านเราในช่วง 30 กว่าปีก่อนครับ !
เรื่องแนะนำ :
– “แรงบันดาลใจจากอามะจัง” เมื่อมีความฝันอย่าให้ใครบอกว่าเราไม่คู่ควร
– การตายของ Rikidozan การฆาตกรรมปริศนาครั้งแรกของวงการมวยปล้ำญี่ปุ่น
– วงการหนังสือญี่ปุ่นเป็นอย่างไร
– อาชีพนักมวยปล้ำที่ญี่ปุ่นสามารถเลี้ยงตนเองได้หรือไม่?
– Ichigaya Memorial Clinic สังเวียนมวยปล้ำที่เล็กที่สุดในโลก