วันนี้เลยอยากแชร์อีกเรื่องว่าคนญี่ปุ่น เผ่าพันธุ์ที่คิดมาก ม๊ากที่สุด เขามีวิธีทำให้ทั้งหนุ่มสุดหล่อ ลูกค้าหรือสาวๆ สนใจเขาด้วยวิธีไหนกัน
หลังจากเขียนบทความไปได้พักนึง ผู้เขียนพบว่ามีสาวๆ และหนุ่มๆ หลายคน inbox มาหาผมมากขึ้น !! โดยเฉพาะเรื่องที่ถูกถามไถ่มากที่สุดคือเรื่องจีบสาวโดยใช้สมองซีกขวา https://www.marumura.com/brain-for-love/
วันนี้เลยอยากแชร์อีกเรื่องว่าคนญี่ปุ่น เผ่าพันธุ์ที่คิดมาก ม๊ากที่สุด เขามีวิธีทำให้ทั้งหนุ่มสุดหล่อ ลูกค้าหรือสาวๆ สนใจเขาด้วยวิธีไหนกัน
และบังเอิญเมื่อสัปดาห์ก่อน ผมได้อ่านนิตยสาร President หนึ่งในนิตยสารยอดนิยมของคนทำงานญี่ปุ่นเขาอ่านกัน หน้าปกขึ้นธีมเรื่องว่า “ทำให้คนรักคนหลง 100% ด้วยพลังการเม้าท์มอย” (รูปหน้าปกเป็นอะไรที่ผมแอบอึ้งนิดหน่อย… เพราะถ้าอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก คงนึกว่าคงเป็นธีมห้องสุขา.. เชื่อว่าน่าจะมีคนคิดแบบผมนะ)
มีเซเลบหลายท่านของญี่ปุ่น พูดถึงวิธีการพูดเล่าเรื่องไม่ว่าจะคุยกับลูกค้าหรือคนที่เพิ่งเจอครั้งแรก หรือคนที่เรารู้สึกว่าอยากจะคลิกด้วย (โดยยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะคลิกด้วยไหม) ซึ่งพอผมอ่านจบ มีส่วนที่น่าสนใจและรู้สึกว่า “ประหลาดกว่าที่คาด” อยู่หลายส่วนครับ อยากมาแชร์ให้ฟังครับ น่าจะได้ประโยชน์กับทั้งนักเรียน หรือทุกสาขาอาชีพ
พอยท์แรก… อวัยวะที่สำคัญที่สุด ในการเม้าท์มอย ไม่ใช่ปาก!!
เซลล์ระดับท็อปคลาสของทุกบริษัทกลับบอกตรงกัน ความคิดที่ว่าคารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรองนั้นไม่จริงเสมอไป.. เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าปากในการมัดใจผู้คน กลับอยู่ที่หูและดวงตาของเรา… เซลล์ที่ปิดดีลได้
ผู้ชายที่มีแฟนคลับมากมายในญี่ปุ่นให้เคล็ดลับว่าเวลาสนทนากับลูกค้า เขาพูดแค่ 25% อีก 75% คือ “ฟัง” ฟังและคอยจับให้ได้ว่าคู่สนทนาสนใจอะไร ถนัดอะไรถามเรื่องที่ทำให้เขาหรือเธอพูดออกมาเยอะๆ ส่วนเราถามและใช้สายตาให้เขาเห็นชัดว่าเราอิงกับผู้พูด แค่นี้แหล่ะคือความสำเร็จของการเม้าท์มอยที่แท้จริง
พอยท์ต่อมาคือ การดึงความสนใจ
ลองมาเล่นเกมกันดีกว่า … CEO บริษัท Asahi Beer คุณนาโอกิ อิซุมิยะตั้งโจทย์ว่า สมมติว่าบังเอิญทั้งอาทิตย์คุณมีข่าวในหัวมาแค่สามเรื่องนี้… คุณว่าควรพูดเรื่องใด ?
A) มหาลัยฮาเวิร์ด ค้นพบนวัตกรรมใหม่การลดต้นทุนการพ่นสีรถยนต์ 70%
B) ราคาน้ำมันกำลังดีดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
C) เจ้าชายอาหรับกำลังกลุ้มใจเรื่องการบริหารเงิน
CEO บริษัทเบียร์แห่งนี้ให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า หลักการง่ายๆ ในการเม้าท์มอย ให้เสนอเรื่องที่ “ใกล้และแปลก” ที่สุด เรื่องที่เล่าควรมีความเป็นมนุษย์เม้ามอย มีอารมณ์ และเป็นเรื่องที่วินาทีแรกที่ได้ยินต้องรู้สึก “เอ๊ะ!” ไม่ใช่จู่ๆ มาพูดเรื่องนวัตกรรม ราคาน้ำมัน ซึ่งคนหลายๆ คนจะรู้สึกว่าเรื่องเล่าเช้านี้ก็มีคุย หรือมนุยย์เงินเดือนแทบทุกคน ก็เอียนกับคำว่านวัตกรรมมาก
ในนิตยสารที่ผมอ่าน มีบทสัมภาษณ์เซเลบหลายท่านใช้ความ “ใกล้และแปลก” มาใส่ในนามบัตรตัวเองเช่น นักการเมืองที่เคยไปเรียนในอียิปต์ ใส่ภาษาอาหรับลงในนามบัตรตัวเอง แน่นอนไม่มีใครอ่านออก แต่ทุกคนจะทักเธอเมื่อเห็นนามบัตร และถึงแม้จะจำแม้แต่ชื่อเธอไม่ได้ แต่ทุกคนจะจำได้ว่าคนที่รู้ภาษาอาหรับ และหลังจากนั้นก็มีคนติดต่อเธอมาให้ความเห็น เขียนคอลัมน์เกี่ยวกับประเทศแถบอาหรับ จนถึงวันนี้เธอกลายเป็นนักการเมืองที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องอาหรับ หรือทนายชื่อดังที่พอทำงานได้สองปี ก็กล้าเขียนลงนามบัตรว่า “ทนายผู้เชี่ยวชาญเรื่องคดีความรักที่สุดในโอซาก้า” ทั้งๆที่ผู้เขียนรู้สึกมาตลอดว่าคนญี่ปุ่นที่ดูเป็นคนเหงียมๆ ไม่โอ้อวด กลัวเด่น… แต่จริงๆ แล้วคนที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คนในเจแปน กลับแสดงวิธีให้คนสนใจ อย่างคาดไม่ถึง
อันสุดท้ายที่ผมประทับใจและประหลาดใจคือ…. มุขใต้สะดือไม่ใช่ข้อห้าม!!
แทบไม่น่าเชื่อเลย พอนิตยสารสำรวจมามุขแนวทะลึ่งทะเล้นสามารถเอามาใช้ได้ ขออย่าให้ดูโป๊เปลือยไม่งาม ขอให้ใช้มุขเป็นเหมือนเรื่องตลก
ตัวผู้เขียนเองก็ไม่แน่ใจนะครับ ตอนที่เข้าทำงานญี่ปุ่นใหม่ๆ เขาก็ถามว่าชอบอะไรญี่ปุ่น… ตัวเองตอนนั้นก็ตอบไปหลายอย่างเช่น ชอบราเมง ชอบดิสนีย์แลนด์ ซึ่งเขาก็พยักหน้า (แกล้ง) ทำสนใจพอเป็นมารยาท แต่ที่ฮากันคือ พอบอกว่าชอบหนังโป๊ญี่ปุ่น เพราะมันมากมายหลากหลายและมีการสร้างสตอรี่กันแบบหลุดกรอบจินตนาการ…. ตั้งแต่นั้นมาผมก็สนิทกับเพื่อนกลุ่มนั้นทันที!! (^^)
เลยอาจจะตรงกับที่นิตยสารเขากล่าว… พูดเรื่องแนวใต้สะดือถ้าพูดให้ขำ OK
แต่สิ่งหนึ่งที่อยากบอกผู้อ่านที่รักทุกท่านไว้คือ… ทุกๆ คนที่แชร์ประเด็นการเล่าเรื่องสัพเพเหระ… หัวใจสำคัญที่ผมจับได้คือ… ทุกคนมีการเตรียมตัวหนักมาก !! ไม่ว่าการทำนามบัตร การอ่านข่าวหรือนิตยสารให้มีวัตถุดิบในหัว หรือมุขต่างๆ (แม้แต่มุขทะลึ่งก็ต้องเตรียมตัว) โอกาสบางอย่างมันมาโดยไม่รู้ตัวจริงๆ ดังนั้นขอให้ทุกท่านอย่าลืมสร้างสตอรี่เตรียมไว้เยอะๆ นะครับ ใครจะรู้ว่าหัวใจอีกครึ่งดวงหรือเพื่อนคู่ค้าที่ดีที่สุด อาจจะเริ่มจากเรื่องเม้าท์มอยเหล่านี้ก็ได้
และถ้าท่านใดยังงงๆ ไม่รู้จะหาสตอรี่ดีๆ ได้ที่ไหน… ก็ที่นี่ไงครับที่นี่ https://www.marumura.com/ (^^)
เรื่องแนะนำ :
– คุมาโมะโตะ : ในวันที่แผ่นดินไม่เป็นใจ
– สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “ทหารของญี่ปุ่น”
– สามเรื่องดีๆ ที่เราเรียนรู้ได้จาก Nadeshiko Japan….
– มีนาคม…. Season Change
– วันที่หัวใจโตเกียวรวมเป็นหนึ่ง
#อยากให้คนชอบ 100% ใช่ไหม… ขอให้พลังการเม้าท์มอยจงอยู่กับท่าน