คั่นรายการ โดย Lordofwar Nick
เซนกับบราซิลเลี่ยนยูยิตสู (ตอนพิเศษ) มีภูเขา เราต้องปีน
เซนกับบราซิลเลี่ยนยูยิตสู (ตอนพิเศษ) มีภูเขา เราต้องปีน
สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกคน พี่ก็จะเป็นบทความสุดท้ายปิดท้ายปี 2024 แล้วนะครับ ก่อนอื่นผมก็ขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุขในปีใหม่นี้ และก่อนที่จะหมดปี 2024 นี้ไป ในที่สุดก็มีเรื่องที่น่ายินดีมากๆสำหรับผมอยู่ 1 เรื่องนั่นก็คือ การที่ผมได้ขึ้นสายม่วงใน BJJ แล้วซะที ครับ (แฮ่กๆๆ)
คงยังจำแผนภาพบ้าๆ อันนี้ได้อยู่ใช่ไหมครับ 555
ครับ บางทีอาจจะมีคนมองผมว่าแบบว่า ขี้เห่อ ขี้โอ่ เฮ้าเลี่ยน wa ก็ได้ บลาๆ
แต่อยากให้ท่านผู้อ่านเห็นใจผมหน่อย…นะ
ต่อไปนี้คือสุนทรพจน์ที่ผมพูดต่อหน้าทุกคนในยิม เนื่องในโอกาสที่ได้เลื่อนสาย ที่จริงผมพูดเป็นภาษาอังกฤษ แต่ว่าในที่นี้ผมขอถ่ายทอดเป็นภาษาไทยแล้วกันนะครับ
ผมเคยอ่านเจอคำหนึ่งที่เขาเขียนว่า
ทุกคนมีภูเขาเอเวอเรสต์เป็นของตัวเอง
สำหรับผม การขึ้นจากสายน้ำเงินไปสู่สายม่วงนั้น เปรียบเสมือนการขึ้นภูเขาลูกใหญ่
บางครั้งผมเจอกับพายุหิมะ
ผมหนาวมาก ผมเหนื่อยมาก
บางทีผมไม่สามารถไปต่อข้างหน้าได้เลย
สิ่งที่ผมทำได้ก็คือ อดทน แล้วก็มองไปรอบๆ
ผมเชื่อว่าทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทุกคนที่อยู่รอบตัวผม
แม้แต่บางสิ่งเล็กๆ ที่อยู่ในอากาศ
ก็ล้วนเป็นแรงเป็นพลังให้กับผมได้
ไม่ว่าจะดีหรือเลว บวกหรือลบ
แล้วผมมาถึงเส้นชัยอันหนึ่งแล้ว ผมเชื่อว่าผมมีทางไปข้างหน้าต่อไป
ผมยังมีอนาคต
เพราะฉะนั้นผมอยากจะบอกทุกคนว่า ขอให้อดทนแล้วก็มองไปรอบๆ
แล้วคุณจะถึงจุดหมายได้อย่างแน่นอน
ผมมาเริ่ม BJJ เอาเมื่ออายุมากแล้ว ในสภาพร่างกายที่ไม่ได้ดีกว่าคนธรรมดาทั่วไปสักเท่าไหร่ มีอะไรที่เป็นแต้มต่อหรือต้นทุนน้อยมากๆ แต่ในที่สุดด้วยความอดทนและมองไปรอบๆ (หาความรู้ หาหนทางแก้ปัญหา หาแรงบันดาลใจ) ผมก็สามารถนำเอาบางสิ่งบางอย่าง ที่ผมเคยทำหล่นไป กลับฟื้นขึ้นมาใหม่ได้ และยังกล้าที่จะริเริ่มทำอะไรหลายๆ อย่าง
ไม่ว่าจะเป็นการนำเอางานของพระอาจารย์ไทเซ็น เดชิมารุ มาอ่านแล้วเขียนเล่าใหม่
หรือการที่บ้าพอที่จะแปล “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมิยาโมโตะ มูซาชิ แบบอ่านภาษาโบราณเองแกะเองนักเลงพอ 555 ลงตีพิมพ์ต่อเนื่องข้ามปี ไม่นับเรื่องการไปอ่านและแปล “บูชิโด” อีก
หรือการกลับมาฝึกดาบอิไออีกครั้ง ในรอบ 20 ปี
ถ้าไม่มี BJJ เข้ามาในชีวิตผม บางทีเหตุการณ์เหล่านี้อาจจะไม่ได้เกิด
BJJ นำเอาความฝันในวัยหนุ่มของผมกลับมา และบอกหนทางชีวิตที่ผมควรจะเดินจากนี้ไป
ผมก้าวข้าม “Blue Belt Blues” ได้แล้ว เปรียบเสมือนกับคนที่ฝ่าฟันสิ่งต่างๆ ขึ้นมาอยู่บนยอดเขาลูกหนึ่งได้แล้ว ถึงจะขึ้นมาได้แบบแทบตายก็เถอะ
ขอบพระคุณท่านผู้อ่านทุกๆ ท่าน ทั้งท่านที่ติดตามอ่านงานของผมตลอด และท่านที่เพิ่งแวะเวียนมาใหม่และที่อาจจะมีจากนี้ไป ก็จะตั้งใจนำเสนอสาระและบันเทิง “เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” ต่อไปเรื่อยๆ นะครับ ตั้งใจไว้ว่าจะเขียนไปอย่างน้อยก็คงจะจนกว่าจะได้สายดำนะครับ กว่าจะถึงตอนนั้นก็คงจะอายุเกือบๆจะ 55 แล้วล่ะครับ (ปีหน้าก็ 48 แล้ว)
และในการ “มองไปรอบๆ” นั้น มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจที่ผมยึดมั่นมาตลอดก็คือ “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมิยาโมโตะ มูซาชิ
ในตอนที่ผมได้สายน้ำเงิน ผมให้เขาปักคำว่า อาโป (น้ำ 水) อันหมายถึงคัมภีร์แห่งอาโป อันเป็นขั้นที่ 2 ของคัมภีร์ห้าห่วง เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจตัวเอง
ในขณะนี้ ผมถือว่าผมศึกษาคัมภีร์แห่งอาโปจบแล้ว ได้เวลาที่จะศึกษาในขั้นต่อไป นั่นก็คือคัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ 火) จึงได้ปักตัวหนังสือนี้เอาไว้ที่สาย เพื่อเตือนใจถึงแนวทางของการศึกษา สิ่งที่ต้องร่ำเรียนในคัมภีร์แห่งเตโชต่อไป
ขออวยพรท่านผู้อ่านอีกครั้งว่า ขอให้ปีใหม่ 2025 นี้ ขอจงมีกำลังกายและกำลังใจที่เข้มแข็ง เพื่อที่จะสามารถอยู่ในโลกอนาคตต่อไปได้ อย่างมีความสุข และเป็นนายเหนือตัวเองในด้านจิตใจต่อไป
พบกับงานมินิซีรี่ส์ใหม่ ก้าวที่กล้าบ้าบิ่นกว่าเดิม กับ “ภูมิปัญญาที่ไม่หวั่นไหว” (ฟุโดจิ) โดยพระอาจารย์ทาคุอัน แบบที่กล้าแปลจากภาษาญี่ปุ่นแบบคำต่อคำ มกราคมปี 2025 แน่นอนครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ
เรื่องแนะนำ :
– เมื่อญี่ปุ่นต้อง “แปลงสาร” ในวิดีโอเกมเพื่อไม่ให้ “ขัดใจฝรั่ง”
– Advanced Daisenryaku: Deutsch Dengeki Sakusen เกมในดวงใจที่คงไม่มีวันเล่นจบ
– ตามหาวิชาดาบอิไอ (10) คำสอนสะเกาจิต สะกิดใจ จากวิชาดาบอิไอ
– คำว่า “คาคุโงะ”(覚悟)นั้นไซร้ ไม่ใช่แค่ “เตรียมใจ” แต่ต้อง “ตื่นรู้” เสียก่อน
– ตามหาวิชาดาบอิไอ (9) “โอเอะ มาซาจิ” ปรมาจารย์ดาบอิไอแห่งยุคเมจิ
#เซนกับบราซิลเลี่ยนยูยิตสู (ตอนพิเศษ) มีภูเขา เราต้องปีน