วันนี้พุงโกะมีประสบการณ์น่าอายเกี่ยวกับเรื่องทำของตกลงไปในรางรถไฟญี่ปุ่นมาเล่าให้ฟังค่ะ จริงๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว และลืมไปแล้ว แต่พอดีมีน้องที่รู้จักได้ประสบพบเจอเหตุการณ์คล้ายกัน เลยนึกถึงประสบการณ์ของตัวเองในครั้งนั้นขึ้นมาได้ พุงโกะเลยตัดสินใจนำมาเล่าให้ฟัง เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ
วันนี้พุงโกะมีประสบการณ์น่าอายเกี่ยวกับเรื่องทำของตกลงไปในรางรถไฟญี่ปุ่นมาเล่าให้ฟังค่ะ จริงๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วและลืมไปแล้ว แต่พอดีมีน้องที่รู้จักได้ประสบพบเจอเหตุการณ์คล้ายกัน เลยนึกถึงประสบการณ์ของตัวเองในครั้งนั้นขึ้นมาได้ พุงโกะเลยตัดสินใจนำมาเล่าให้ฟัง เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ

เรื่องราวมีอยู่ว่าเมื่อปลายปีที่แล้วตอนที่พุงโกะกำลังจะกลับบ้านหลังจากที่ไปกินข้าวกับเพื่อนสาวที่มาจากเมืองไทยเสร็จเวลากลางคืนประมาณเกือบห้าทุ่มแล้ว ยืนรอรถไฟอยู่ตามปกติ พอรถไฟมาก็ก้าวเท้าเดินตามคนข้างหน้าไปแบบไม่ได้คิดอะไรมากมาย พร้อมๆ กับเสียงดนตรีบรรเลงจากชานชลาเตือนว่าประตูรถไฟกำลังจะปิดลงแล้ว
แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงคนที่วิ่งตามมาข้างหลัง พร้อมกับความรู้สึกที่ว่าเท้าด้านขวาเบาๆ โหวงๆ พอเท้าแตะพื้นรถไฟเท่านั้นแหล่ะค่ะ ความรู้สึกเย็นเฉียบมาเต็มๆ พุงโกะก็รีบหันกลับไปมองเห็นภาพเหมือนสโลโมชั่นเลยค่ะ รองเท้าส้นสูงสีดำของตัวเอง กระเด็นกระทบขอบรถไฟหนึ่งครั้งและไปชนชานชลาอีกครั้ง พร้อมหายตัววับลงไปในช่องระหว่างชานชลากับตัวรถไฟ!!!!! ใครหนอช่างใจร้ายเตะรองเท้ากันได้ กระซิกๆๆๆ

ขอสารภาพตามตรงว่า ณ วินาทีนั้นช็อคค่ะ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี คิดแต่เพียงว่าต้องลงจากรถไฟมากู้ชีพรองเท้าของตัวเองที่ลองลอยลงไปอยู่นอนอยู่ในรางรถไฟเสียก่อน นึกภาพตามง่ายๆ นะคะ ผู้หญิงผู้น่าสงสารคนหนึ่งยืนเป็นกระต่ายขาเดียวบนชานชลา (>__<”)
โดยปกติแล้วรถไฟสาย Yamanote จะมีพนักงานยืนประจำอยู่เสมอ แต่ ณ เวลานั้นค่อนข้างดึกแล้ว พุงโกะมองซ้ายและขวา หวังจะเรียกพนักงานก็ไม่เห็นแม้แต่เงา แต่ในความโชคร้ายก็มักจะมีสิ่งดีๆ อยู่บ้างหลงเหลืออยู่ค่ะ
หนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง (จริงๆ แล้วเห็นหน้าไม่ชัดหรอกค่ะ แต่ด้วยความมีน้ำใจให้คะแนนไปเลยเต็มๆ ค่ะ) เห็นว่าพุงโกะกลายเป็นกระต่ายขาเดียว ทำหน้าเหมือนอยากได้ความช่วยเหลืออยู่ หนุ่มคนนั้นเลยทำท่าประมาณว่าให้รอตรงนั้นนะ เดี๋ยวไปเรียกคนมาช่วยนะ แล้วก็วิ่งติดจรวดไปอีกทางหนึ่ง
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดในใจแบบยาวๆๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรดีเลยค่ะ
เวลาผ่านไปจริงๆ แล้วไม่น่าจะนาน แต่โปรดเข้าใจสภาพ ณ ตอนนั้นนะคะ เหมือนนานมากกกก คิดในใจสารพัดว่าเราสื่อสารคำใบ้ที่หนุ่มคนนั้นบอกได้ถูกหรือผิด ชะโงกมองในรางก็ไม่เห็นอะไร กลัวอีกข้างตกลงไปอีกตะหาก ไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้มากนัก ป้ายบนสถานีก็เขียนอยู่เต็มไปหมดว่าถ้าของตกให้เรียกพนักงาน …. ในมือก็คว้าโทรศัพท์เมล์หาคุณสามีแบบรัวๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
และแล้วพนักงานก็เดินมาค่ะ แต่พ่อหนุ่มน้อยคนนั้นหายไปไหนก็ไม่รู้แล้ว จะขอบคุณซะหน่อยก็ไม่มีโอกาสซะแล้ว
พอพนักงานมาถึงก็อธิบายค่ะ ว่าอะไรของเราหล่นไป บริเวณไหน เขาก็ส่องดูนะคะ แต่เหมือนว่ายังไม่เห็นเพราะมืดแล้วด้วย เขาเลยบอกว่าให้รอรถไฟขบวนถัดไปก่อนแล้วค่อยดูกันใหม่นะ ใจเย็นๆ (รถไฟสาย Yamanote มาถี่ซะด้วย ประมาณ 3-5 นาทีต่อ 1 ขบวน )

สรุปว่าขบวนแรกผ่านไปก็ยังหาไม่เจอค่ะ เพราะรองเท้าเจ้ากรรมดันสีดำอีก แล้วเหมือนจะกระเด็นเข้าไปซ่อนอยู่ด้านในลึกด้วย พนักงานคนที่ 2 เดินตามมาดูลาดเลาพร้อมกับเอาไม้คีบยาวๆ มาด้วย ส่องๆ กันอยู่สักพัก จริงๆ ต้องผลุบๆ โผล่ๆ กันค่ะ พนักงานก็กดเปิดปิดประตูบนชานชลาเฉพาะช่องที่ของตกลงไปเหมือนในรูปนี้ค่ะ

สุดท้ายก็เจอรองเท้าเจ้ากรรมค่ะ สภาพตอนที่คีบขึ้นมาเหมือนรูปข้างล่างนี้เลยค่ะ ดีใจมากค่ะที่ได้รองเท้าคืน สามารถกลับบ้านได้แบบครบคู่ทั้งสองข้าง และรู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่พนักงานมากที่ช่วยกันส่องหา และสุดท้ายรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องเดือดร้อนกันค่ะ (ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดตัวเองก็เถอะ ทั้งๆ ที่โดนใครก็ไม่รู้เตะก็เถอะ) โค้งขอบคุณกันหลายต่อหลายครั้งเลยค่ะ

อยู่ญี่ปุ่นมาเป็น 10 ปีแล้ว เพิ่งจะเคยมีประสบการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก และคงจะเป็นครั้งสุดท้ายค่ะ เพราะตอนนี้เวลาขึ้นลงรถไฟจะระวังมากๆๆๆ เกร็งเท้ากันแบบว่าตะคริวแทบจะกินเลยทีเดียวค่ะ
พุงโกะไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก ระวังกันหน่อยนะคะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเสียความรู้สึกที่ทำความเดือดร้อนให้คนอื่น และเสียหน้าด้วยค่ะ พูดตามตรงอายค่ะ
ในกรณีที่ไม่ใช่เหตุการณ์ฉุกเฉินหรือเร่งด่วนเป็นอันตรายต่อชีวิต อย่างเช่น เห็นคนพลัดตกลงไปในรางรถไฟหรืออะไรทำนองนี้ อย่าไปกดปุ่มฉุกเฉินที่อยู่บนชานชลาทีเดียวนะคะ เพราะจะทำให้รถไฟที่จะวิ่งๆ เข้าสู่สถานีต้องเบรคกระทันหัน คนที่อยู่บนรถไฟอาจจะล้มกันระเนระนาด ได้รับบาดเจ็บก็เป็นได้ค่ะ และห้ามลงไปในรางรถไฟอย่างเด็ดขาดนะคะ อันตรายมากๆๆๆค่ะ เราควรแจ้งพนักงานบนสถานีก่อนนะคะ เดี๋ยวเขาจะหาทางดำเนินการช่วยเหลือเราเองค่ะ
(^_____พุงโกะ_____^)
ทักทายพูดคุยกับพุงโกะ ได้ที่ >>> Tokyo’s LifeStyle by พุงโกะ-สะใภ้ปลาดิบ
เรื่องแนะนำ :
– รูปถ่ายภายใต้ซากปรักหักพังกับการพบเจอแบบปาฏิหาริย์
– 5+1 อันดับของฝากเด็ดๆ ที่มีขายแค่เฉพาะสถานีโตเกียวเท่านั้น
– ของฝากคนญี่ปุ่นจากเมืองไทย selected by พุงโกะ
– เรื่องน่ารู้โรงเรียนประถมของญี่ปุ่น ตอนอาหารกลางวัน
– เรื่องน่ารู้โรงเรียนประถมในญี่ปุ่น ตอนเรื่องทั่วไป