ทริปนี้..เราก็ไปเยี่ยมสถานีรถไฟที่เรียกได้เจ๋งที่สุดในใจเราในชั่วโมงนี้ Osaka Station City หรือสถานี JR Osaka Station นั่นเอง เนื่องจากที่ Osaka Station City นี่มีอะไรน่าสนใจหลายอย่างเลยทีเดียว ที่นี่เป็นมากกว่าแค่…สถานีรถไฟ
สองวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว มาดูกันต่อเลยดีกว่า… ว่าโอซาก้าในทริปนี้ของพวกเรา มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง^^



เช้านี้ที่ปราสาทโอซาก้า คึกคัก เพราะเห็นหนูๆ น้องๆ มาทัศนศึกษากันเพียบ มีทุกรุ่นเลย ประถม มัธยมต้น มัธยมปลาย ตัวเล็กตัวโตมากันเป็นหมู่คณะ พร้อมผู้ดูแล ดูเป็นระเบียบมากๆ



มาชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดโอซาก้ากันแล้ว ก็ได้เวลาไปหาของอร่อยๆ กิน มาถึงจังหวัดนี้ก็ต้อง “ทาโกะยากิ” หรือที่คนไทยเรียกกันจนติดปากว่า “ขนมครกญี่ปุ่น” สิ วันนี้มาเดินเล่นที่ Universal Citywalk ใครที่เคยไปเที่ยว Universal Studios Japan (USJ) ด้วยตัวเองแล้วละก็ต้องคุ้นเคยกับแถวนี้กันมาบ้าง เพราะเป็นเส้นทางเดินกิน เที่ยว ช้อป (ประมาณ.. Shopping Complex น่ะแหล่ะ) ที่ต้องเดินผ่านจากสถานีรถไฟแล้วเดินมาเที่ยวที่ USJ ไงล่ะ
เรามาหยุดยั้งความหิวกันที่ Osaka Takoyaki Museum เป็นที่รวมร้านทาโกะยากิแสนอร่อย หลายร้านเลย พวกเลือกร้านได้แล้ว เราก็สั่งเครื่องดื่มกันก่อนเลย … สารภาพว่ากินอะไรที่มีแป้งเยอะๆ มากๆ ไม่ค่อยได้ (แพ้อะไรแปลกๆ กินน้อยๆ ก็อร่อยนะ แต่กินมากๆ ออกแนวจะเกิดอาการวิงเวียน ฮะ ฮะ) ดังนั้นขอโคล่ามากินประกบกับทาโกะยากิซะหน่อย จะได้เจริญอาหาร … พอเห็นถาดทาโกะยากิที่เค้ามาเสิร์ฟเท่านั้นแหล่ะ น้ำลายย้อยเลย น่ากินฝุดๆ ฮิ ฮิ

ทาโกะยากิเซ็ตนี้นะ เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่เลยทีเดียว มีให้เราลองกินกัน 3 แบบในเซ็ตเดียว (แต่ว่าแบบละ 4 ลูกเลย เยอะจัด.. ขนาดลูกไม่ใหญ่มากนะเนี่ย.. ยังกินไม่หมดเลย ฮือ ฮือ เสียดาย!) แบบแรกเป็นรสดั้งเดิม (plain) ออกจะเป็นรสเกลือ เพราะเค็มนิดๆ แบบที่สองเป็นแบบที่เราคุ้นเคยกัน คือราดซอสแล้วก็ปลาแห้งขูดฝอย ‘คัตสึโอะบุชิ’ ส่วนแบบที่สาม เป็นการเอาแบบแรกมาใส่ในถ้วยซุปที่เค้าเสิร์ฟมาพร้อมกัน ก็อร่อยแตกต่างกันไป ใครชอบกินทาโกะยากิขอแนะนำให้ลองแวะเวียนมาหากินกันที่นี่เลย Osaka Takoyaki Museum ชั้น 2 ของ Universal Citywalk



Spiderman ปรับปรุงใหม่ ภาพคมชัด ไม่ค่อยมึนหัวเหมือนสมัยก่อน แนะนำเพื่อนๆ ที่เคยไม่ชอบเครื่องเล่นตัวนี้ มาลองดูใหม่อีกซักทีนะ เผื่อจะชอบมากขึ้น สำหรับ JAWs นั้น ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป แต่มาครั้งใดก็ชอบทุกที ฮะ ฮะ แล้วก็โซนที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่นาน คือโซนน่ารักๆ สำหรับเด็กน้อย และผู้ใหญ่หัวใจแหวว ถ้าอย่างได้ภาพสวยๆ น่ารักๆ มาโซนนี้ไม่มีผิดหวัง Universal Wonderland นั่นเอง
หลังจากไปเล่นนู่น นี่ นั่น มาหลายเครื่องเล่นอยู่เหมือนกัน … เราก็มุ่งหน้าไปยังเครื่องเล่นที่ตั้งใจว่าต้องเล่นให้ได้ (ครั้งที่แล้วมาแล้วไม่สามารถรอคิวไหวจริงๆ เลยอด!)

เจ้า Hollywood Dream เป็น Roller Coaster ที่ไม่หวาดเสียวจนเกินไป ขึ้นๆ ลงๆ เป็นคลื่นไปเรื่อยๆ พร้อมกับมีเพลงให้เราฟังไปตลอดทาง ถ้าเลือกเพลงมันๆ หน่อย ก็จะยิ่งเร้าใจนะ ส่วน Backdrop ก็คือเจ้า Hollywood Dream นั่นแหล่ะ แต่เป็นแบบกลับหลัง แค่คิดก็เสียวไส้แล้ว ฮะ ฮะ

ดูคิวความฮ็อตของเครื่องเล่นตัวนี้สิ นี่ตอนจะเข้าไปนะ Dream 110 นาที ส่วน Backdrop 180 นาที แต่เราเข้าช่องทางด่วน (Universal Express) อิ อิ ไม่ต้องรอคิวทั้งสิ้น เข้าไปเลย .. ไม่ต้องทำใจใดๆ ทั้งสิ้น เข้าไปปุ๊บ เล่นปั๊บ … สุดๆ อ่ะ เชื่อมั้ยตอนเดินออกมา คิวรถไฟเหาะทั้งสองประเภทนานเกิน 200 นาทีไปไกลทีเดียว เหอ เหอ

หลังจากนั้นเราก็ไปเยี่ยมสถานีรถไฟที่เรียกได้เจ๋งที่สุดในใจเราในชั่วโมงนี้ Osaka Station City หรือสถานี JR Osaka Station นั่นเอง เนื่องจากที่ Osaka Station City นี่มีอะไรน่าสนใจหลายอย่างเลยทีเดียว ที่นี่เป็นมากกว่าแค่…สถานีรถไฟ





ขึ้นไปที่สวนดาดฟ้าด้านบนสิ… โห แทบกรี๊ด ไม่ใช่เพราะมันหนาว และลมแรง (ซึ่งก็จริงอยู่) แต่เพราะเป็นสวนบนดาดฟ้าที่กว้างขวาง มีคอนเซ็ปต์ความหมายดีๆ แทรกซึมอยู่แทบทุกอณู (แล้วจะมาเล่าให้ฟังในโอกาสต่อๆ ไป) วิวพระอาทิตย์อัสดงก็ดูดี โรแมนติก มิน่าคนถึงมารวมตัวกันอยู่บนนี้ไม่น้อย แล้วยังมีคู่รักมานั่งจู๋จี๋ให้เราอิจฉาตาร้อนอีกหลายคู่ นั่นแหล่ะที่อยากจะกรี๊ด

เพื่อจะลงบันไดผ่านห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ไปที่ชั้นหนึ่ง ณ ที่นี้มีนาฬิกาน้ำให้เราดูกันอย่างเพลิดเพลิน อ้อ! ลืมบอกไปว่า ที่ Osaka Station City แห่งนี้ มีนาฬิกาซ่อนอยู่ทั่วทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นที่เสา มุมสวน โคมไฟ แล้วก็ในน้ำนี่แหล่ะ

ตอนอยู่บนสวนดาดฟ้าของ Osaka City Station เห็นตึกสูงสะท้อนแสงอาทิตย์ตกอยู่ไม่ไกล เราจึงออกเดินเท้ามุ่งหน้าไปที่ตึกแห่งนั้น เดินชิลๆ ท่ามกลางอากาศเย็นๆ กับวิวยามโพล้เพล้สวยๆ ประมาณ 10 นาทีก็ถึง





เย็นย่ำค่ำแล้ว เราก็ท้องร้องจ๊อกๆๆๆ นั่งรถบัสออกจาก Floating Garden กันเพียงไม่นาน พวกเราก็กลับมาถึงย่านชินไซบาฉิ ที่เราพักกันนั่นเอง แต่ แต่ แต่.. ต้องกินข้าวกันก่อนสิ
เรามุ่งหน้าไปแถวๆ สะพานที่เราเรียกกันจนติดปากว่าสะพานกูลิโกะ ด้านหลังตึกที่มีโลโก้กูลิโกะอยู่นั้น มีร้านอาหารญี่ปุ่นซ่อนตัวอยู่ชั้นใต้ดิน ชื่อว่า Tachibana เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่น่าสนใจมากๆ อยู่ย่านช้อปปิ้ง อาหารก็อร่อย มีความเป็นญี่ปุ้น ญี่ปุ่น
ทางร้านต้อนรับด้วยเหล้าบ๊วย ช็อทเล็กๆ เพียวๆ … ผ่อนคลายได้ดีทีเดียว จากนั้นก็ทยอยเสิร์ฟอาหาร




พักผ่อนในญี่ปุ่นกันคืนสุดท้ายสำหรับทริปนี้ ยังคงนอนกันที่ Nikko Osaka Hotel จัดกระเป๋าเรียบร้อย… สลบเหมือน
ตื่นเช้ามาเราก็ออกจากตัวเมือง ไปเที่ยวกันไม่ไกลจากสนามบินคันไซมากนัก จุดแรกคือพิพิธภัณฑ์เทศกาลดันจิริ เป็นเทศกาลที่เพิ่งเคยรู้จักเหมือนกัน เก๋ทีเดียว แต่ละเมือง แต่ละย่าน ส่งตัวแทนมาร่วมเทศกาลนี้ มีผู้นำยืนอยู่บนรถแห่ โบกพัดทางไหน ก็เลี้ยวรถทางนั้น แต่เค้าก็ไม่ไปกันช้าๆ นะ ไปกันเร็วปรื๋อ อย่างกับแก้งค์เด็กแว้น ฮะ ฮะ เป็นเทศกาลเก่าแก่ที่น่าสนุกดีทีเดียว วันหลังจะมาเล่าเรื่องเทศกาลนี้ให้ฟังละกันนะ












แล้วก็แวะไปชม KIX Airport Lounge กันหน่อย ความเจ๋งของที่เล้าจ์แห่งนี้ก็คือ ไม่ต้องมีบัตรสมาชิกโน่น นี่ นั่น ให้วุ่นวาย มีตังค์ไม่กี่ร้อยเยนก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้แล้ว ถ้าต้องการอาบน้ำให้สบายตัวก็จ่ายเพิ่มอีกนิดเดียว ข้างในมีมุมเครื่องดื่มและของว่างให้บริการ มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ มีหนังสือการ์ตูนเพียบ ใครใคร่นอนก็พักผ่อน เป็นมุมส่วนตัว หลับตาพักผ่อนได้อย่างสบายใจ หรือถ้ามากันหลายคน อยากมีห้องส่วนตัว เค้าก็จัดให้ได้ เจ๋งใช่มั้ยละ ^^

แต่ถ้าขึ้นไปด้านบน เพื่อนๆ หลายคนอาจจะหนาว เพราะบางคนอาจจะเคยใช้บริการสนามบินคันไซออกบ่อย แต่พอเช็คอินได้ Boarding Pass เสร็จแล้วก็เข้าไปช้อปปิ้ง Duty Free ด้านไหนกันหมด ขอบอกว่าด้านนอกนั้น ราวกับ Shopping Complex มีร้านร้อยเยน มีร้านขายยา มีร้านอาหาร มี Muji มี Uniqlo (รู้สึกพลาดมากๆ ที่ไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ย)


แถมผ่านต.ม. เข้าไปข้างในแล้ว ยังมีของให้ช้อปปิ้งครบครันอีกนะ ใครใคร่พักผ่อนในเล้าจ์ก็ยังได้ ใครอยากซื้อของฝาก แนะนำที่ร้าน Yorozu ร้านนี้มีของฝากยอดฮิตจากเกือบทุกเกาะในญี่ปุ่นเลย อยากได้ Royce ก็มี ใครอยากได้ Tokyo Banana เดี๋ยวนี้ก็มีแล้ว (แต่ก่อนสนามบินนี้ไม่มีอ่ะ) ใครลืมซื้อของจากร้านขายยาที่เป็นของเหลว แต่เช็คอินแล้ว เลยอดซื้อ พอผ่านต.ม. แล้วก็เข้ามาซื้อข้างใน Duty Free นี้ได้นะ ยังมีร้านขายยาให้ซื้ออยู่ อยากได้ของเหลวเท่าไรก็จัดไปเลย เพราะไม่ต้องผ่านการตรวจเช็คเรื่องของเหลวอีกแล้วนี่นะ ฮะ ฮะ




พบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ ^^
สนับสนุนการเดินทางการเดินทางโดย :
Okinawa Convention & Visitors Bureau (www.visitokinawa.jp)
Nara Prefectural Government (www.pref.nara.jp)
Osaka Prefectural Government (www.pref.osaka.jp/)
เรื่องที่เกี่ยวข้อง>>
-รีวิวทริปเดียวเที่ยวทั้งโอซาก้า-นารา-โอกินาว่า : Ishigaki
– รีวิวทริปเดียวเที่ยวทั้งโอซาก้า-นารา-โอกินาว่า : Iriomote
– รีวิวทริปเดียวเที่ยวทั้งโอซาก้า-นารา-โอกินาว่า : Nara