เที่ยวคันไซ…หลังจากได้ไปลุยญี่ปุ่นแบบเที่ยวเอง พึ่งพาทั้งสองขา รถเมล์ และรถไฟแบบหัวหกก้นขวิดกันมา ทั้งที่จังหวัดไอจิ (นาโงย่า) จนมาถึงการล่องเรือเที่ยวที่อาราชิยามะ จังหวัดเกียวโตแล้ว ในที่สุดพวกเราสองสาวก็เที่ยวขำๆ แบบหอบๆ แต่ก็รอดตัวมาถึงโอซาก้า จังหวัดสุดท้ายของทริปนี้กันจนได้
หลังจากได้ไปลุยญี่ปุ่นแบบเที่ยวเอง พึ่งพาทั้งสองขา รถเมล์ และรถไฟแบบหัวหกก้นขวิดกันมา ทั้งที่จังหวัดไอจิ (นาโงย่า) จนมาถึงการล่องเรือเที่ยวที่อาราชิยามะ จังหวัดเกียวโตแล้ว ในที่สุดพวกเราสองสาวก็เที่ยวขำๆ แบบหอบๆ แต่ก็รอดตัวมาถึงโอซาก้า จังหวัดสุดท้ายของทริปนี้กันจนได้

จากเกียวโตเราก็นั่งรถไฟแบบธรรมดาๆ ไปที่สถานีอุเมะดะ เพื่อต่อรถไฟออกนอกเมืองไปทางจังหวัดเฮียวโกะกันนิดนึง เพราะว่าคืนแรกในโอซาก้า เราจะไปพักกันใกล้ๆ กับสนามกีฬาโคชิเอ็ง สถานที่สุดฝันใฝ่ของนักกีฬาเบสบอลญี่ปุ่น (แฟนๆ การ์ตูนญี่ปุ่น..น่าจะรู้จักกันดี) เหตุเพราะคืนนี้เรามีบัตร Complimentary ของ Accor ซึ่งก็ทำให้เราได้นอนฟรีที่โรงแรม Novotel Koshien หนึ่งคืน รอบๆ ย่านโคชิเองนี้ก็มีแต่บรรยากาศของกีฬาเบสบอลเต็มไปหมด แถมคืนที่เราไปพักก็มีการแข่งขันเบสบอลในสนามโคชิเอ็งซะด้วย คึกคักกันมากๆ อยากมีโอกาสเข้าไปดูในสนามบ้างจริงๆ เลย


พอเราแหมะกระเป๋าไว้ที่โรงแรมเรียบร้อย เราก็เดินตัวปลิวนั่งรถไฟไปเที่ยวกันในตัวเมืองโอซาก้า ถ่ายรูปยามเย็นที่สะพานกูลิโกะ ที่ย่านช้อปปิ้งชินไซบาฉิ กินทาโกะยากิแสนอร่อยของโอซาก้า แล้วก็ช้อปปิ้ง (Window Shopping …ไปตามระเบียบ โชคดีจริงๆ ที่พวกเราไม่ใช่นักช้อป เป็นนักชมอย่างเดียว ฮิ ฮิ) น่าเสียดายที่แม้จะมีเวลาอยู่ที่ย่านช้อปปิ้งแถบนี้เยอะ แต่หมดไปกับการเดินหลบฝนซะมาก เลยไม่ค่อยได้เดินดูอะไรกันสักเท่าไร สุดท้ายก็หนีฝนกลับไปแอ้งแม้งที่โรงแรมดีกว่า…



วันรุ่งขึ้น.. เราต้องย้ายโรงแรม เพราะนอนฟรีที่ Novotel Koshien แค่คืนเดียว จึงขอย้ายมานอนในเมืองแถบโดทมโบริ ใกล้ๆ ย่านชินไชบาชิซะเลย จ่ายถูกกว่านอนที่โนโวเทลต่ออีกคืนแน่ๆ แถมยังเดินทางสะดวก ใกล้ย่านช้อปปิ้งแบบสุดๆ อีกด้วย


พอทิ้งกระเป๋าไว้ที่โรงแรมใหม่เรียบร้อยแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่สวนสนุกแห่งโอซาก้า Universal Studios Japan หรือ USJ กันทันที เพราะตั้งใจอยากจะเล่นเครื่องเล่นให้ได้หลายๆ อย่าง … (แต่ก็ผิดหวัง ฮะ ฮะ เพราะวันที่ไป คนเยอะมหาศาลจริงๆ)

อุตส่าห์รีบไปต่อคิวซื้อตั๋วตั้งแต่ไก่โห่ แต่คิวก็ยาวได้ใจอยู่ดี ไม่เป็นไร… คุณเพื่อนเราเป็นคนใจเย็น ก็เลยพลอยทำให้เราชิลๆ ไม่ซีเครียดอะไรมากมายนัก (โชคดี.. ว่าเป็นค่าตั๋วราคาเก่า เพราะรู้สึกว่าวันรุ่งขึ้นเขาจะปรับราคาใหม่ แพงกว่าเดิม… ยิ่งทำให้ชิลหนักเลยทีนี้ ^^)


พอเข้าไปก็ประเดิมด้วยเครื่องเล่นตัวแรกกันเลย นั่นคือ Space Fantasy The Ride ถือเป็นเครื่องเล่นใหม่ เพิ่งเปิดได้ไม่กี่วันเองในตอนนั้น ต้องฝากสัมภาระในตู้ล็อกเกอร์ด้วย เหวี่ยงๆ นิดหน่อยสนุกดี จากนั้นก็พาคุณเพื่อนไปเล่นสไปเดอร์แมนกัน… พอออกมา คุณเพื่อนก็ถามว่าที่ USJ นี่ มีเครื่องเล่นแบบนี้เยอะหรือเปล่า (พวกซิมมูเลเตอร์น่ะ) พอบอกว่า ก็มีที่อยากจะพาไปอย่าง Back to the Future ด้วย นางก็บอกว่า… ไม่เอาแล้วนะ แบบนี้ เวียนหัว ฮะ ฮะ ฮะ จบกัน…



และเพราะคนเยอะด้วยแหล่ะ เลยทำให้ได้เข้าเครื่องเล่นไม่กี่อัน คือได้เข้า JAW ได้เข้า Waterworld ได้ดูโชว์กลางน้ำ (Peter Pan’s Neverland) แล้วก็ได้กินขาไก่งวงอบ (อยากมานาน.. ได้กินเสียที) จากนั้นก็หมดตังค์ไปกับของฝากจาก USJ นั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นของฝากให้ตัวเองทั้งนั้น เหอ เหอ




พอกลับโรงแรม เช็คอินเสร็จก็มุ่งหน้าไปหาของกินกันที่ย่านชินไซบาชิ ซื้อของที่ร้านดองกี้ (ดองกิโฮเต) ก่อนกลับมานอนเล่นกันที่โรงแรม แพ็คกระเป๋า เตรียมกลับกรุงเทพฯ กันในวันรุ่งขึ้น

เช้าตรู่ก็ไปเดินเล่นกันแถวๆ โรงแรม ซึ่งมีตลาดที่ชาวโอซาก้าแถวนั้นไปซื้อผักสด ผลไม้ ของสด ของแห้ง มาทำกับข้าวกับปลากินกัน เราก็ไปเดินๆ ดูบรรยากาศกัน เพลินดี มีซุปเปอร์มาร์เก็ตแบบชาวบ้านๆ ไม่ได้อยู่ในห้างอะไร แต่ผู้คนเนืองแน่น คึกคักกันสุดๆ ได้ของที่เพื่อนๆ ฝากซื้อหลายอย่าง ที่แน่ๆ ก็คือกาแฟแม็กซิมนั่นเอง นอกจากนี้ก็ยังมีร้านร้อยเยนให้เราได้เสียตังค์กันอีกโข สุดท้ายก็ต้องกลับโรงแรมไปแพ็คกระเป๋ากันใหม่ ฮะ ฮะ จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่สนามบินคันไซ



เช็คอินที่สายการบินเจแปนแอร์ไลน์สเรียบร้อย ตัวเบาไม่มีกระเป๋าใหญ่ให้เป็นภาระ เราจึงนั่งรถเมล์ไปช้อปปิ้งกันต่อที่ AEON Kansai ไปกินซูชิจานเวียนกันหน่อยนึงด้วย (ซึ่งเสียเวลารอรถตั้งนาน ลงผิดป้ายอีกต่างหาก… สุดท้ายก็ต้องใช้บริการแท็กซี่ไปยังจุดหมายปลายทาง) แล้วขากลับเราก็ไม่อยากเสี่ยงกับการรอรถเมล์ ไม่อยากเสียประวัติด้วยการตกเครื่องบิน จึงตัดสินใจนั่งแท็กซี่แทนการรอรถเมล์ โก๊ะกันยันวันสุดท้ายจริงๆ

อย่างไรก็ตามพวกเราสองสาวก็สามารถพาตัวเองไปเยือนนาโงย่า นั่งรถเมล์ข้ามจังหวัดไปยังเกียวโต ล่องเรือในแม่น้ำที่อาราชิยามะ แถมด้วยการนั่งรถไฟโรแมนติกสายซากาโนะ ไปสนุกกันที่ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอเจแปน แห่งโอซาก้า จนกลับมาถึงเมืองไทยอย่างครบ 32 กันได้ … ตลอดทริป ก็มี (เกือบ) หลง มีลำบาก มีสบาย มีปรึกษา มีถกเถียง กันบ้าง แต่กลับมาก็ยังรักกันดีอยู่นะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่สนุกดี และนี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายสำหรับพวกเราสองคนที่จะไปโก๊ะกันที่ญี่ปุ่นแน่ๆ (เริ่มวางแผนทริปถัดไปกันแล้ว) แล้วพบกันใหม่ทริปหน้านะจ้ะ (^^)/
ภาพโดย : Pellin & The 8th Ronin www.marumura.com
เรื่องแนะนำ :
– รีวิวเที่ยวคันไซ (นาโงย่า-เกียวโต-โอซาก้า) ตอน: หนีเที่ยวนาโงย่า
– รีวิวเที่ยวคันไซ (นาโงย่า-เกียวโต-โอซาก้า) ตอน: Arashiyama