เที่ยวญี่ปุ่นภาคกลาง (ตอนบน) ด้วย JR Hokuriku Arch Pass … ครั้งนี้เราขอฉีกแนว “Golden Routes” เส้นทางเดิมๆ ขึ้นเหนือไปดู “Golden Routes” เส้นทางใหม่ๆ ลัดเลาะขอบบนของเกาะฮอนชูกันดูบ้าง เรียกได้ว่าซึ้งเลยทีเดียวว่า Hokuriku Shinkansen พอเชื่อมต่อถึงเมือง Kanazawa แล้ว มันดีงามมากจริงๆ
กลับมาอีกครั้ง กับรีวิวทริปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ครั้งนี้เราจะขอแนะนำเส้นทาง Golden Route ตัวใหม่ให้กับเพื่อนๆ ค่ะ

เพื่อนๆ หลายคนคงคุ้นเคยกับเส้นทาง “GOLDEN ROUTES” ของญี่ปุ่น อย่างเช่น Tokyo – Mt. Fuji หรือไม่ก็ Tokyo – Osaka – Nara – Kyoto ซึ่งเป็นเส้นทางเลาะเลียบทางตอนล่างของเกาะฮอนชูกันมาบ้างแล้ว ครั้งนี้เราขอฉีกแนวขึ้นไปทางเหนือ ท่องเที่ยวลัดเลาะขอบบนของเกาะฮอนชูกันดูบ้างนะคะ ถือเป็นการฉลองเส้นทางใหม่ของชิงกันเซนญี่ปุ่นกัน นั่นก็คือ Hokuriku Shinkansen โดยเฟสแรกของเส้นทางนี้ คือเส้นทางเชื่อมต่อจากเมือง Takasaki ถึง Nagano โดยเรียกกันไปก่อนว่า Nagano Shinkansen (เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1997) แต่เมื่อส่วนต่อขยายถึงจังหวัดโทยามะและจังหวัดอิชิกาวะ (ทางภาคกลางตอนบนของเกาะฮอนชู) ได้รับการเชื่อมต่อสำเร็จเสร็จสิ้น แล้วก็ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนมีนาคมปี 2015 จากนั้นทางบริษัท JR (เส้นทางนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง JR East และ JR West) จึงได้ออกบัตรรถไฟตัวใหม่ เพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศขึ้นมาตัวหนึ่ง นั่นก็คือ JR Hokuriku Arch Pass นี่แหล่ะตัวช่วยสำคัญของทริปนี้ … ไปติดตามกันเลยค่ะ
*สำหรับ Hokuriku Shinkansen นั้น ยังเหลืออีกสองเฟสที่กำลังก่อสร้างอยู่นะคะ คือเส้นทางมุ่งสู่จังหวัด Fukui และเฟสสุดท้ายคือเส้นทางมุ่งลงใต้สู่ Shin-Osaka คาดว่าเส้นทาง Hokuriku Shinkansen รวมทั้งหมด 4 เฟสนี้จะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2030 ค่ะ
JR Hokuriku Arch Pass
ราคา : 24,000 เยน (25,000 เยน หากซื้อในญี่ปุ่น) / เด็กครึ่งราคา
เงื่อนไขเบื้องต้น : สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น (ต้องแสดงพาสปอร์ต)
เว็บไซต์ : http://hokuriku-arch-pass.com/en/
เราออกเดินทางกันในช่วงปลายฤดูร้อน เข้าหน้ามรสุมญี่ปุ่นเต็มๆ (เดือนกันยายน) ก็มีความท้องฟ้าอึมครึมบ้าง แดดร้อนตับแล่บบ้าง แต่สำหรับเรื่อง “เที่ยว” นั้น ไม่มีอะไรมาขวางเราได้!! เอิ่ม.. ถ้าไม่ใช้แผ่นดินไหวใหญ่ หรือไต้ฝุ่นระดับห้า อะไรอย่างนั้นอ่ะนะ … อย่าได้เจอะเจอกันเลยน๊าาาา สาธุ

เราใช้บริการสายการบินไทยไฟล์ดึก บินตรงลงสนามบินนาริตะ ลงเครื่องแล้วก็มีเวลาชิลเบาๆ เพราะเพื่อนจากมาเลเซียยังเดินทางมาไม่ถึง … ไปกดตู้กาจาปองแก้ง่วงรอสิคะ มีความกระเป๋าเหรียญฉีกแต่เช้า แถวนี้ก็ไม่น่ามีตู้ตั้งอยู่อะไรเยอะแยะอะไรเบอร์นี้เล้ยยยย หุๆ

เมื่อสมาชิกครบองค์ เราก็ไปแลกบัตร JR Hokuriku Arch Pass กันที่เคาน์เตอร์ชั้นล่างสิคะ (บัตรนี้ซื้อในญี่ปุ่นก็สะดวก แต่ซื้อในไทยก็จะประหยัดกว่านะคะ อย่างไรก็ตาม ต้องเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ ดังนั้นต้องโชว์พาสปอร์ตตอนแลกเป็นบัตรจริง)




แล้วเราก็เริ่มใช้ความเบ่งของบัตร Hokuriku Arch Pass ด้วยการ reserved ที่นั่งตลอดทั้งเส้นทางที่เราจะไปในทริปนี้ไว้ก่อนก่อน เพื่อความสะดวก ไม่ต้องไปจองทุกครั้งที่จะใช้ Shinkansen หรือ Limited Express เพียงแต่เก็บบัตรที่เราจองที่นั่งแต่ละเที่ยวเอาไว้ให้ดี แต่ถ้าหาย ก็จองที่นั่งใหม่หรือไม่ก็นั่งตู้ Non-reserved ได้ มิต้องกังวลไป .. แต่ไม่หายจะดีที่ซู๊ดดดด
*การจองที่นั่ง (reserved seat) ล่วงหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีตารางการเดินทางที่วางแผนไว้แล้วเป็นอย่างดี และไม่คิดว่าจะเปลี่ยนเส้นทางไปทางอื่น ที่สำคัญควรมีความแม่นยำเรื่องเวลา มิฉะนั้นอาจจะตกรถไฟที่จองที่นั่งไว้ได้ อย่างไรก็ตาม หากต้องการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการเดินทาง หรือพลาดรถไฟขบวนที่จองที่นั่งไว้ ก็นั่งขบวนอื่นก็ได้ เงื่อนไขการใช้ตั๋วไม่ได้เข้มงวดขนาดน๊านนน ชีวิตย่อมมีความยีดหยุ่นอยู่เสมอ 😉

หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการต่างๆ กับ JR EAST Travel Service Center ที่สนามบินนาริตะแล้ว เราก็เริ่มต้นใช้บัตรจองที่นั่งใบแรกกันด้วยรถไฟ JR Limited Express สายที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้จักกันดี นั่นก็คือ NEX หรือ Narita Express นั่นเอง มุ่งหน้าสู่สถานีโตเกียวกันก่อนสิคะ
แวะซื้อเสบียง (ข้าวกล่อง หรือ Ekiben) ไปกินกันบนรถ เดี๋ยวเราจะนั่ง Hokuriku Shinkansen (Hakutaka 565) สองชั่วโมงนิดๆ ข้าวเที่ยงก็ต้องจัดบนรถสิคะ




มุ่งหน้าสู่จังหวัดโทยามะกันเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่ง เดินออกประตูสถานีมาแค่ตึกข้างๆ เราก็ไปเช็คอินที่ Toyama Chitetsu Hotel … แล้วก็ได้เวลาทัวร์จังหวัดโทยามะกันแล้วค่ะ
*ในตึกเดียวกันกับโรงแรมนั้น มีห้างสรรพสินค้า แบรนด์เนม ร้านรวงต่างๆ มากมาย รวมไปถึงร้าน 100 เยน ด้วยนะเออ ถ้าใครจะมาพักที่นี่ ก็เผื่อเวลาเดินช้อปนิดนึงนะ



Toyama Chitetsu Hotel
ที่ตั้ง : 1-1-1 Sakuramachi, Toyama, Japan
การเดินทาง : ติดสถานีโทยาม่า
เว็บไซต์ : http://chitetsu-hotel.com/

จุดหมายแรกของเราในวันนี้ก็คือ Toyama Prefectural Museum fo Art and Design ที่ญี่ปุ่นเนี่ยเป็นสวรรค์ของคนรักงานศิลปะเลยนะคะ มีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะโบราณ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยอยู่เพียบเลยค่ะ และนี่คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2017 นี่เอง











การจัดแสดงงานศิลป์ต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สะท้อนความเป็นโทยามะอยู่ไม่น้อยเชียวค่ะ ทำให้มีผู้คนในท้องถิ่นมาเยี่ยมชมที่นี่อย่างสม่ำเสมอ จุดสำคัญที่ดึงดูดคนท้องถิ่นให้มาเยือนที่นี่ก็คือบริเวณดาดฟ้า ที่ถือว่าเป็นงานศิลปะที่สัมผัสได้ ผู้คนสามารถมาพักผ่อน ชมวิว เดินเล่น ฯลฯ กันได้อย่างสบายใจ ดังนั้นช่วงบ่ายถึงค่ำ ดาดฟ้าแห่งนี้จะมีผู้คนมาจับจองมุมต่างๆ อยู่ไม่น้อย







Toyama Prefectural Museum fo Art and Design
ที่ตั้ง : 3-20 Kibamachi, Toyama 930-0806 Japan
วัน-เวลา : 9.30 – 18.00 น. (ปิดวันพุธ) / Onomatopoeia Rooftop (ดาดฟ้า) 08.00 – 22.00 น. (ปิด 1 ธ.ค. – 15 มี.ค.)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กมัธยน 240 เยน
การเดินทาง : นั่ง Chitetsu Bus (ป้าย No. 7) จากสถานีชิงกันเซนโทยามะ ไปลงที่ป้าย Toyama-ken Bijutsukan-mae (Toyama Prefectural Museum of Art and Design) ได้เลย
เว็บไซต์ : http://tad-toyama.jp/en/
แดดร่มลมตกอย่างนี้ เราก็เดินข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้ามสิคะ บรรยากาศดีงามมาก ที่นี่คือ Kansui Park สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่ถือว่าเป็นปอดของคนโทยามะเลยทีเดียว สระน้ำขนาดใหญ่ สะพานไม้ที่ออกแบบได้สะดุดตา และ Starbucks สาขาที่ถูกขนานนามว่า “สวยที่สุดในโลก” สาขาหนึ่ง เป็นสิ่งจูงใจนักท่องเที่ยวให้มาเยือนสวนแห่งนี้ไม่น้อย




Fugan Canal Kansui Park (ชื่อเต็มๆ) มีพื้นที่ทั้งหมด 9.7 เฮคเตอร์ ประกอบด้วย
1) Toyama Prefectural Museum of Art and Design ที่ไปมาเมื่อกี้ไง มีห้องแสดงงานเก๋ๆ เพียบเลย แต่ที่น่าจะโดนใจทุกคนคงเป็นลานศิลป์บนดาดฟ้าแน่ๆ
2) Promenade แนวทางเดินต้นไม้ (ซากุระพันปี) และม้านั่งซึ่งถือเป็นงานช่างฝีมืออย่างหนึ่ง
3) Spring and Waterfall Plaza สวนสวยๆ จะขาดน้ำพุ กับน้ำตกได้ไง ^^
4) Tenmon Bridge อันนี้เด่นมาก ตั้งตระหง่านกลางสวน สมกับที่เขาตั้งใจจะให้เป็นสัญลักษณ์ของสวนแห่งนี้ และที่จริงแล้วประกอบด้วยสะพาน ถึง 3 สะพาน โดยมีไฮไลท์คือเชือกแดงๆ ด้านบน (เปรียบเสมือนโทรศัพท์เชือกที่เด็กๆ เกือบทุกคนคงจะเคยได้เล่นกันมาบ้าง) โดยเค้าอยากเปรียบให้เหมือนคู่รัก บอกรักกันถึงอีกฝ่ายที่อยู่อีกฟาก ไอเดียน่ารัก สร้างสรรสร้างสถาปัตกรรมได้ยิ่งใหญ่ปานนี้เชียว
5) Fugan Suijo Line ล่องเรือในสวนก็ได้นะเออ
6) Bird watcher’s House มาส่องนกก็ได้
พิพิธภัณฑ์ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่นี้ ในสวนมีทั้งงานอาร์ต มีน้ำพุ มีน้ำตก มีสะพานเทนมง (Tenmon Bridge) และสวนนก เป็นสถานที่สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ทางทะเลของจังหวัดโทยามะ (ทั้งอ่าวโทยามะและทะเลญี่ปุ่น)
Kansui Park
ที่ตั้ง : Minato Irifune-cho, Toyama-shi, Toyama 930-0805
วัน-เวลา : ตลอดปี
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : เดินจาก North Gate สถานีโทยามะ (JR Hokuriku Main Line) ประมาณ 9 นาที
เว็บไซต์ : http://www.kansui-park.jp/
จากนั้นเราก็เดินทางกลับไปที่สถานี Toyama จะเดินก็ได้ แค่ไม่กี่นาที ถือว่าเดินชมสวนไปในตัว หรือจะนั่งแท็กซี่กลับไปก็ไม่ไกลเลย ไม่ไกลจากที่พักของเรานั้น มีร้านซูชิที่คัดเลือกวัตถุดิบอย่างดีของอ่าวโทยามะและแถบนี้มาเสิร์ฟ เราก็ต้องขอลองชิมความสดอร่อยกันหน่อยสิคะ กับเซ็ตซูชิรวมของร้าน Ozashiki Toyama Sushi




อาหารเรียกน้ำย่อยก็ว่ารสชาติดีแล้ว พอซูชิมาเสิร์ฟเท่านั้นแหล่ะ สังเกตได้ทันทีว่ามีซูชิที่ใช้เนื้อปลาที่เราไม่ค่อยได้เห็นภูมิภาคอื่นๆ ใช้สักเท่าไรอยู่หลายคำ ที่โดดเด่นก็คือซูชิเรือรบ (ที่ใช้สาหร่ายห่อเป็นคำน่ะ) ใช้สาหร่ายท้องถิ่นที่มีสีสรรแปลกตา แถมรสชาติเบา กลิ่นก็ไม่รุนแรงเหมือนสาหร่ายปกติที่ใช้ทำซูชิกัน อร่อยดี แต่ตัวท๊อปต้องยกให้ซูชิหน้ากุ้งขาว อยากจะยกนิ้วให้กับความปราณีตในการแกะกุ้งขาวน้อยๆ ทีละตัวๆ ของพ่อครัวเป็นอย่างมาก และความที่ไม่มีเปลือกกุ้งเลยสักนิด ซูชิคำนี้ แทบจะละลายในปากเลยค่ะ แถมยังหวาน สมกับที่เป็นวัตถุดิบท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของโทยามะเลยทีเดียว ฟินเฟ่อ…


Ozashiki Toyama Sushi
ที่ตั้ง : Sakuramachi Toyama Toyama 1-4-9 2F
วัน-เวลา : เปิด 11.30 -13.30 น. / 17.00-22.00 น.
ราคาอาหาร : คอร์สประมาณ 3,000 – 4,000 เยน
การเดินทาง : 46 เมตรจากสถานีโทยามะ
เว็บไซต์ : http://www.toyamawan-sushi.jp/english/shop/toyama/ozashiki-toyamazushi.html
ด้วยความอ่อนเพลียในการเดินทางข้ามคืนข้ามวัน แม้จะสนุกมากก็ตาม เราก็เดินข้ามถนนกลับโรงแรม สลบไสลไปตามๆ กัน (แต่ก็ยังอุตส่าห์แวะ 7/11 ชมสินค้าสไตล์ญี่ปุ่นในร้านสะดวกซื้อกันแป๊บนึง ฮะ ฮะ)
ช่วงเช้าวันถัดมา เรากินข้าวและเช็คเอ้าท์ แต่ก็ยังฝากสัมภาระไว้ที่โรงแรมก่อน เพราะยังเที่ยวโทยามะยังไม่จุใจ ลองไปเยี่ยมร้านขายยาโบราณที่มีชื่อเสียงทั้งในจังหวัด และรู้จักกันดีในญี่ปุ่นกัน ที่นี่คือร้าน Ikeda Yasubei Shoten มีความเชียวชาญเรื่องยาลูกกลอนเป็นอย่างมาก ปัจจุบันก็ยังผลิตกันอยู่ (ยาเด่นๆ ของร้านนี้ก็แก้ปัญหากระเพาะ อย่าพวกจุก เฉียด แน่น ไม่สบายท้อง เป็นต้น รวมไปถึงยาแก้อาหารระคายคอ มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดลม หลอดอาหาร) นอกจากนี้ก็ยังมีการคิดค้นยารูปแบบใหม่ๆ ที่ยังคงใช้ส่วนผสมแบบดั้งเดิมอยู่ด้วย ทางร้านนอกจากจะขายยาแล้ว ก็ยังขายส่วนผสมในการปรุงยา จำพวกสมุนไพรต่างๆ และด้านบนก็ยังมีร้านอาหารอยู่ด้วยนะ เมนูของร้านขายยาจะเป็นอย่างไร ต้องไปลองชิมกันดูเอาเองนะจ้ะ (^^)







สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นยาสมุนไพร ชาเพื่อสุขภาพ และวัตถุดิบในการปรุงอาหารเพื่อสุขภาพต่างๆ (เน้นไปในทางยานะ)
ส่วนของร้านอาหารชื่อว่า Cafe “Healthy meal restaruant YAKUTO” (เปิด 11.30 – 14.00 น. เฉพาะมื้อเที่ยงเท่านั้น)
บริการคอร์สเพื่อสุขภาพ มีไอศกรีมสมุนไพรป่า ชาสมุนไพร ชาสมุนไพรป่า เป็นต้นค่ะ
Ikeda Yasubei Shoten
ที่ตั้ง : 1-3-5 Tsutsumicho-dori, Toyama-shi, Toyama 930-0046
วัน-เวลา : เปิด 09.00 – 18.00 น. (ร้านอาหารเปิด 11.30-14.00 น.)
การเดินทาง : นั่ง Toyama City Tram จากสถานีโทยามะ ที่มุ่งหน้าไปยัง Minamitoyamaeki-mae ไปลงป้าย Nishichō เดินต่อไปยังร้านประมาณ 2 นาที
เว็บไซต์ : http://www.hangontan.co.jp/sp/en/
พอมีเวลานิดหน่อย ตอนกลับมาถึงสถานีโทยามะ เราก็เลยเอ้อระเหยลอยชายอยู่ตามร้านช้อป ทั้งในส่วนด้านบนของสถานี และในตึกโรงแรม




ช้อปปิ้งเบาๆ ก่อนจะจับ JR Hokuriku Shinkansen (Tsurugi 713) มุ่งหน้าสู่สถานี Shin-Takaoka ซึ่งถือว่าเป็นสถานี interchange สถานีหนึ่งบนสาย Hokuriku Shikansen นั่งไปไม่ถึง 10 นาที แต่ก็ยังอุตส่าห์ทำ reserved seat ไว้ ฮ่าๆๆๆๆ
เราแวะสถานีนี้เพราะอยู่ไม่ไกลจากวัด Zuiryuji วัดสำคัญของจังหวัดโทยามะ เราเคยมาแล้วหนนึงตอนหน้าหนาว หิมะปกคลุมสวยงามมาก แม้จะเสี่ยงชีวิตเบาๆ ตอนเดินผ่านซุ้มประตู้ แล้วต้องคอยระวังหิมะหนักๆ บนหลังคาถล่มลงมาใส่หัว เหอๆ


… มาครั้งนี้ แดดจัดเต็ม!! (แต่ฟ้าก็ขะมุกขะมัวไปตามเรื่อง) เจ้าอาวาสก็ยังใจดีมาเล่าประวัติศาสตร์และตำนาน (อันยาวนาน) ของวัดแห่งนี้ให้ฟังอีกครั้ง วัดนี้ นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านมาก แม้จะเป็นวัดดัง สงบ สวยงาม ทรงคุณค่า (ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชาติ) มาเหอะ คือดี …









Zuiryuji
ที่ตั้ง : Sekihon-machi 35 Takaoka, Toyama 933-0863
วัน-เวลา : 9.00 – 16.40 น. (ฤดูร้อน) / 09.00-16.00 น. (ฤดูหนาว)
ค่าเข้าชม : 500 เยน ใช้บัตร JR Hokuriku Arch Pass ได้ส่วนลด
การเดินทาง : เดินจากสถานี Takaoka โดยออกทางประตู South ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เว็บไซต์ : http://www.zuiryuji.jp/
มื้อเช้าเริ่มสลาย ท้องเริ่มร้อง เราต้องหาของกิน!!
ตอนแรกเราแพลนว่าจะไปต่อกันที่ Shin Minato Fisherman’s Wharf เพื่อดูการประมูลอาหารทะเลภาคกลางวัน แต่วันนี้อากาศไม่ค่อยดี เดี๋ยวแดด เดี๋ยวฝน สลับกันทุกห้านาที จากการอัพเดตข้อมูลล่าสุด จึงได้ทราบว่า…
วันนี้ไม่มีการประมูลค่ะ (T_T) โอเค! งั้นไปกินกลางวันกันที่ Shin Minato Kitokito Market ตลาดขายของสด ที่สะอาดสะอ้าน เหมาะกับนักท่องเที่ยวมากกกก แต่เรามาแค่ดูของสด เป้าประสงค์เรานั้นคือ ร้านอาหารกลางวัน มีเป็นเซ็ตน่าสนใจหลากหลายเชียว พวกเราก็เลือกสั่งกันตามชอบเลยค่ะ



แล้วที่ตลาดนี้ยังมีชอฟท์ครีมหน้ากุ้งขาวด้วยนะ เนื้ออาจจะไม่ถึงกับนุ่มละลายในปาก มีความเป็นเกล็ดน้ำแข็งคล้ายๆ เชอเบทนิดหน่อย แต่ก็ถือว่านุ่มใช้ได้ ความเจ๋งของมันคือนี่เป็นซอฟท์ครีมรสกุ้งขาว (เฮ้ย คิดได้ไง!!) มันคือดีอ่ะ มีความเค็มๆ มันๆ มีกลิ่นกุ้งแห้งเบาๆ แล้วก็ได้รสหวานละมุนแบบซอฟท์ครีม มันอร่อยมากจริงๆ ไม่ได้อวยด้วย ไม่มีใครเลี้ยง จัดเองคนเดียวเลย เพราะไม่มีใครกล้าลอง ส่วนตัวแล้วถือว่าเป็น 300 เยนที่คุ้มค่า ถ้าใครมา ก็อยากให้ลองชิมมากๆ เผื่อจะชอบเหมือนกัน ^^
Shin Minato Kitokito Market
ที่ตั้ง : 1 Kaiomachi, Imizu, Toyama, 934-0023
วัน-เวลา : 09.00-17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี JR Takaoka มาประมาณ 40 นาที ลงที่สถานี Toei Shinminato เดินต่อประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์ : http://kittokito-ichiba.co.jp/
และเพราะวันนี้เราไม่ดูการประมูลปลาตอนกลางวัน จึงมีเวลาไปเที่ยวกันต่อที่ Kaiwo Maru Park เป็นสวนสาธารณะริมอ่าวโทยามะ เป็นสถานที่ที่ดูจะอบอวลไปในเรื่องของความรัก มีอนุสาวรีย์ความรักอยู่ที่ริมอ่าว แล้วบนเรือยังมีจุดคล้องกุญแจคู่รักอีก ที่อ่าวมีเรือของทางการญี่ปุ่นประจำการอยู่ และพวกเรายังมีโอกาสได้ขึ้นชมเรือ Kaiwo Maru ที่จัดพื้นที่บางส่วนเป็นพิพิธภัณฑ์ด้วยล่ะ เจ้าหน้าที่ก็ทำงานกันไป พวกเราก็เดินเข้าออกเคบินนู้นนี้กันสนุกเชียว ฮะ ฮะ






Kaiwo Maru Park
ที่ตั้ง : อ่าวโทยามะ
วัน-เวลา : เรือเปิด 09.30-17.00 น. (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล) ปิดวันจันทร์
ค่าเข้าชม : 400 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟท้องถิ่นจากสถานี JR Takaoka ประมาณ 40 นาทีบนสาย Manyosen Line ลงที่สถานี Kaiwomaru เดินต่ออีก 5 นาที
เว็บไซต์ : http://www.kaiwomaru.jp/en/
จุดสุดท้ายในโทยามะ ที่เราไปกันก่อนที่จะจับรถไฟไปจังหวัดอิชิคาว่า ก็คือ Kanayamachi Old Houses


Kanayamachi เป็นต้นกำเนิดอุตสาหกรรมทางด้านโลหะของเมือง Takaoka ซึ่งย้อนไปได้ถึงยุคท่าน Toshinaga Maeda (ในตระกูลผู้ก่อตั้งเมือง Takaoka) ในยุคก่อน ถนนสายหลักของย่านนี้จึงสร้างด้วยแผ่นหิน (สะดวกในการขนส่งกระมัง) และอบอวลไปด้วยบรรยากาศของการผู้คนที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมการทำโลหะ โดยเฉพาะทองแดง ถือว่าที่นี่เป็นเมืองเก่าชองญี่ปุ่นที่มีประวัติแปลก แตกต่างจากที่อื่นๆ ที่มักจะอยู่ในเมืองปราสาท และเน้นเป็นย่านที่พัก หรือแหล่งบันเทิงเริงใจซะมากกว่า แน่นอนว่าที่ Kanayamachi นี้ เป็นหนึ่งจุดในจังหวัดโทยามะที่ได้รับการอนุรักษ์ในฐานะที่เป็นอาคารบ้านเรือนที่สะท้อนประวัติศาสตร์ไว้ได้เป็นอย่างดี



Kanayamachi Old Houses
ที่ตั้ง : Kanayama-machi Honcho, Takaoka, Toyama, 933-0945
วัน-เวลา : ตลอดปี
การเดินทาง : เดินประมาณ 20 จากสถานี Takaoka
ด้วยความที่ร้านค้าส่วนใหญ่ในย่านนี้ก็ปิดกันหมดแล้ว เราจึงได้เดินเล่นกันแป๊บนึง ก่อนจะกลับไปที่สถานี Shin-Takaoka จับรถไฟ JR Hokuriku Shinkansen (Tsurugi 721) มุ่งหน้าสู่เมือง Kanazawa เมืองใหญ่อันดับหนึ่งของจังหวัดอิชิคาว่า
เราจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างในจังหวัดอิชิคาว่า … โปรดติดตามต่อตอนหน้า รับรองว่าจัดมาแต่แหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์ของจังหวัด เพื่อให้สมกับเป็น Golden Route เส้นทางแนะนำใหม่ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเราเลยล่ะคะ
สำหรับตอนนี้ สวัสดีค่ะ (^0^)/
เรื่องแนะนำ :
– เที่ยวญี่ปุ่นภาคกลาง (ตอนบน) ด้วย JR Hokuriku Arch Pass ตอน “เที่ยว Fukui”
– เที่ยวญี่ปุ่นภาคกลาง (ตอนบน) ด้วย JR Hokuriku Arch Pass ตอน “เที่ยว Kanazawa”
ขอบคุณข้อมูล :
http://hokuriku-arch-pass.com/en/
http://chitetsu-hotel.com/
http://www.kansui-park.jp/
http://www.toyamawan-sushi.jp/english/shop/toyama/ozashiki-toyamazushi.html
http://www.hangontan.co.jp/sp/en/
http://www.zuiryuji.jp/
http://kittokito-ichiba.co.jp/
http://www.kaiwomaru.jp/en/