ฟุกุโอกะ..โด่งดังเรื่องศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง JR HAKATA CITY และ Canal City Hakata รวมถึงอาหารขึ้นชื่ออย่างหม้อไฟมตสึนาเบะ ราเม็งซุปกระดูกหมู ไข่ปลาเมนไทโกะ และไก่ยากิโทริ ในครั้งนี้เราก็ได้รวบรวมเสน่ห์ของ “ฟุกุโอกะ” เมืองแห่งอาหารและช้อปปิ้งมาไว้ที่นี่แล้วล่ะค่ะ ^^
ฟุกุโอกะ คือ จังหวัดที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะคิวชู โดยโด่งดังเรื่องศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง JR HAKATA CITY และ Canal City Hakata รวมถึงอาหารขึ้นชื่ออย่างหม้อไฟมตสึนาเบะ ราเม็งซุปกระดูกหมู ไข่ปลาเมนไทโกะ และไก่ยากิโทริ
แหล่งรวมความบันเทิงที่เรียกว่า “นากาสุ” เขตฮากาตะ เมืองฟุกุโอกะนั้น เมื่อตกกลางคืนจะเต็มไปด้วยร้านอาหารเคลื่อนที่หรือ “ยาไต” (ร้านแผงลอย) มากมาย เราจึงสามารถดื่มด่ำกับอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยอย่างราเม็งและโอเด้งได้
ในครั้งนี้เราก็ได้รวบรวมเสน่ห์ของ “ฟุกุโอกะ” เมืองแห่งอาหารและช้อปปิ้งมาไว้ที่นี่แล้วล่ะค่ะ ^^
วิธีการเดินทางจากโตเกียวไปยังฟุกุโอกะ
การเดินทางจากโตเกียวไปยังฟุกุโอกะมีวิธีดังต่อไปนี้
・นั่งเครื่องบินจากสนามบินฮาเนดะไปยังสนามบินฟุกุโอกะด้วยเที่ยวบินภายในประเทศ
・นั่งชินคันเซ็นจากโตเกียว เช่น Tokyo Station หรือ Shinagawa Station ไปยัง Hakata Station
วิธีการเดินทางจากสนามบินฟุกุโอกะไปยังสถานีฮากาตะ (รถบัส・รถไฟใต้ดิน・รถแท็กซี่)
ในกรณีที่นั่งชินคันเซ็นจะไปลงที่ Hakata Station แต่ในกรณีที่นั่งเครื่องบิน เราจำเป็นต้องนั่งรถไฟหรือรถบัสต่อไปยัง Hakata Station ที่ตั้งอยู่ใกล้กับย่านชุมชน
[ad id=”61″]
การเดินทางจากสนามบินฟุกุโอกะไปยัง Hakata Station มีวิธีดังต่อไปนี้
・นั่งรถบัสมาจากจุดขึ้นรถบัสชั้น 1F ของสนามบินประมาณ 15 – 20 นาที ค่าโดยสาร 260 เยน
・นั่งรถไฟใต้ดิน Kūkō Line (Fukuoka City Subway) For Meinohama / Chikuzen-Maebaru จากชั้นใต้ดินของอาคารเที่ยวบินภายในประเทศเทอมินอลที่ 2 ประมาณ 5 นาที ค่าโดยสาร 260 เยน
นอกจากนี้ ในกรณีที่นั่งแท็กซี่จากสนามบินไปถึง Hakata Station ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารประมาณ 1,300 – 1,400 เยน
รถบัส
นั่งรถบัส For Hakata Station・Tenjin จากจุดขึ้นรถบัสชั้น 1F ของอาคารเที่ยวบินภายในประเทศและอาคารเที่ยวบินระหว่างประเทศ
อาคารเที่ยวบินภายในประเทศ → Hakata Station บัสเทอมินอล Hakata Station:ประมาณ 15 นาที ค่าโดยสาร 260 เยน
อาคารเที่ยวบินระหว่างประเทศ → Hakata Station ประตูฝั่ง Tsukushi : ประมาณ 15 นาที 260 เยน / ประตูฝั่ง Hakata : ประมาณ 20 นาที 260 เยน
รถไฟใต้ดิน
นั่งรถไฟใต้ดินมาจาก Fukuoka Airport Station ชั้นใต้ดินของอาคารเที่ยวบินภายในประเทศเทอมินอลที่ 2 เพียง 2 สถานีเท่านั้น
ในกรณีที่ย้ายจากอาคารเที่ยวบินระหว่างประเทศมายังอาคารเที่ยวบินภายในประเทศให้ใช้รถบัสฟรี
เดินทางมาถึง Hakata Station:ประมาณ 5 นาที ค่าโดยสาร 260 เยน
รถแท็กซี่
เดินทางมาจากอาคารเที่ยวบินภายในประเทศใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารประมาณ 1,400 เยน
เดินทางมาจากอาคารเที่ยวบินระหว่างประเทศใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารประมาณ 1,300 เยน
เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรของแต่ละวัน
ข้อมูลเพิ่มเติม >> http://www.fuk-ab.co.jp/question3/#2
แหล่งท่องเที่ยวในฟุกุโอกะ
ในฟุกุโอกะเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากมายไม่ว่าจะเป็น Tenjin (เท็นจิน) แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะคิวชู Nakasu (นากาสุ) แหล่งอาหารท้องถิ่น และเมือง Dazaifu (ดาไซฟุ) ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวอย่าง Dazaifu Tenman-gū (ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังงู) และ Kyushu National Museum (พิพิธภัณฑ์สถานแห่งขาติคิวชู)
เดี๋ยวเรามาแนะนำเอกลักษณ์และไฮไลท์ของแหล่งท่องเที่ยวแต่ละโซนกันเลยดีกว่าค่ะ ^^
* โซน Hakata Station (JR Hakata City AMU PLAZA HAKATA)
สิ่งแรกที่ต้องตกใจเมื่อเดินทางมาถึง “Hakata Station” เลยก็คือความกว้างใหญ่ของสถานีนั่นเอง
ภายในอาคารขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “JR Hakata City AMU PLAZA HAKATA” แห่งนี้เรียงรายไปด้วยห้างสรรพสินค้า Hakata Hankyu, Tokyu Hands รวมถึงร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น อาหาร ของตกแต่งภายใน และสินค้าจิปาถะกว่า 200 ร้าน
บนดาดฟ้าของ JR HAKATA CITY เป็นที่ตั้งของสวนดาดฟ้าชื่อว่า “ทสึบาเมะโนะโมริฮิโรบะ” จากบนระเบียงชมวิวของที่นี่ เราสามารถชมทัศนียภาพของเมืองฟุกุโอกะได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว
แถมยังมีรถไฟขบวนจิ๋วสำหรับเด็กวิ่งรอบสวนและศาลเจ้ารถไฟที่บันดาลพรให้เดินทางด้วยรถไฟอย่างปลอดภัยด้วยนะเออ… ยังไงก็อย่าลืมพาครอบครัวแวะมาที่ “JR HAKATA CITY” เพื่อเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและพักผ่อนกันนะคะ ^^
นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบสถานีรถไฟก็ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ที่ยังคงหลงเหลือถนนสายเล็กๆบรรยากาศดั้งเดิมและโซนผ่อนคลายจิตใจอย่าง “Rakusui-en (สวนราคุซุย)” และ “Sumiyoshi Shrine (ศาลเจ้าซุมิโยชิ)” ด้วย
* Nakasu (Canal City Hakata และร้านแผงลอย)
“นากาสุ” ในฟุกุโอกะเป็น 1 ใน 3 ย่านรวมความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นพอๆ กับย่านคาบูกิโจในชินจุกุและซูซูกิโนะในซัปโปโรเลยทีเดียว โดยสามารถเดินจาก Hakata Station มายังนากาสุได้โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที เมื่อตกกลางคืน ที่นี่จะเรียงรายไปด้วยร้านแผงลอยจำหน่ายโอเด้ง ราเม็ง และไก่ยากิโทริ ทำให้คึกคักไปด้วยผู้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวมากมาย นอกจากนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์รวมความบันเทิงอย่าง Canal City Hakata (คาแนลฮากาตะซิตี้) ด้วย เอาล่ะ ทุกคนมาชมเสน่ห์แห่ง “นากาสุ” แหล่งเพลิดเพลินกับอาหารและการช้อปปิ้งแห่งนี้กันดีกว่า…
ร้านแผงลอย เมื่อเดินทางมาเที่ยว “นากาสุ” สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “ร้านแผงลอย” นั่นเอง
นากาสุเรียงรายไปด้วยร้านแผงลอยมากมายไม่ว่าจะเป็นเทมปุระ เกี๊ยวซ่า ราเม็ง อุด้ง ยากิโทริ นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารอีกมากมายหลายชนิดอย่างอาหารตะวันตก อาหารไม่มีสัญชาติ ไปจนถึงบาร์เหล้าเลยทีเดียว
ตั๋ว Yatai Ticket ที่สามารถเพลิดเพลินกับยาไตได้ในราคาเพียง 1,050 เยนเท่านั้น
สำหรับใครที่เพิ่งเคยมาเยือนร้านแผงลอยในนากาสุเป็นครั้งแรกก็ขอแนะนำให้ซื้อตั๋ว Yatai Ticket เลยค่ะ โดยเราสามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวภายใน JR Hakata Station, ข้างใต้ Nishitetsu Fukuoka (Tenjin) Station และ Lion Hiroba
ตั๋วราคา 1,050 เยน/ใบ (รวมภาษี) โดยใช้สำหรับเพลิดเพลินกับเมนูอาหารและเครื่องดื่มแนะนำของร้านแผงลอย 1 ร้าน ตั๋ว Yatai Ticket นี้สามารถใช้ได้กับร้านแผงลอยที่ร่วมรายการทั้งหมด 12 ร้านด้วยกัน เพื่อนๆ สามารถซื้อตั๋ว Yatai Ticket หลายๆ ใบเพื่อตระเวนดื่มด่ำกับอาหารของหลายๆ ร้านก็ได้นะเออ…
ร้านแผงลอยที่ร่วมรายการ อาทิ
・Manryu (มันริว) ร้านจำหน่ายโอเด้งในน้ำซุป
・Ahotareno (อาโฮทาเรโนะ) ร้านจำหน่ายอาหารหลายสัญชาติ เช่น อาหารเม็กซิกันอย่างทาโก้
・Haruyoshi Ramen (ฮารุโยชิราเม็ง) ร้านจำหน่ายราเม็งและราเม็งผัด
・Shoukiji ร้านขึ้นชื่อเรื่องเกี๊ยวซ่าแพกรอบอร่อย
รวมทั้งหมด 12 ร้าน
ข้อควรระวังเกี่ยวกับร้านแผงลอย (เวลาเปิดร้านและราคา)
ร้านแผงลอยส่วนใหญ่มักจะเริ่มเปิดให้ทำการตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็นเป็นต้นไป เนื่องจากช่วงประมาณ 3 ทุ่มมักจะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนแทบทุกร้าน จึงขอแนะนำให้เดินทางมาก่อนหน้านั้นจะดีกว่า นอกจากนี้ บางร้านก็คิดราคานักท่องเที่ยวหรือคนเมาแพงกว่าปกติด้วย สำหรับใครที่ไม่สบายใจจึงขอแนะนำให้เลือกใช้บริการร้านที่เขียนราคาเอาไว้ด้านหน้าร้านอย่างชัดเจนหรือร้านที่ร่วมรายการตั๋ว Yatai Ticket จะดีที่สุด
* Canal City Hakata (คาแนลซิตี้ฮากาตะ)
Canal City Hakata (คาแนลซิตี้ฮากาตะ) คือ ศูนย์รวมความบันเทิงในเขตนากาสุ ภายในอาคารเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ร้านค้า และโรงแรม จึงให้อารมณ์ราวกับเป็นเมืองๆ หนึ่งเลยทีเดียว
และไฮไลท์แนะนำของคาแนลซิตี้ฮากาตะเลยก็คือ “ราเม็งสเตเดียม” นั่นเอง เราสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของร้านราเม็งขึ้นชื่อตั้งแต่เหนือจรดใต้ของญี่ปุ่นได้ถึง 9 แห่งในชั้นเดียวกัน และแน่นอนว่ามีร้านจำหน่ายฮากาตะราเม็งถึง 3 – 4 ร้าน ที่นี่ตอบสนองความต้องการทุกอย่างของแฟนๆ ราเม็งตั้งแต่คนที่อยากลิ้มลองราเม็งซุปกระดูกหมูสูตรดั้งเดิมของฟุกุโอกะหรืออยากทานราเม็งจากทั่วญี่ปุ่นเพื่อเปรียบเทียบรสชาติกันเลยล่ะค่ะ
* Hakata Machiya Folk Museum (พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้นบ้านฮากาตะมาจิยะ)
ส่วนอาคารที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ภายในเขตนากาสุแห่งนี้ก็คือ Hakata Machiya Folk Museum (พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้นบ้านฮากาตะมาจิยะ) นั่นเอง ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์แนะนำประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของฮากาตะ รวมถึงศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวฮากาตะในสมัยเมจิและไทโชด้วย ที่โซน Miyagedokoro มีจำหน่ายฮากาตะโจชิและตุ๊กตาฮากาตะที่ทำโดยช่างฝีมือ จึงเหมาะสำหรับการแวะมาหาซื้อของฝากจากฮากาตะสุดๆ
นอกจากนี้ ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้นบ้านฮากาตะมาจิยะก็ยังเป็นที่ตั้งของ Kushida Shrine (ศาลเจ้าคุชิดะ) ที่โด่งดังจากงานเทศกาล Hakata Gion Yamakasa ด้วยนะเออ… สำหรับใครที่อยากเพลิดเพลินกับทั้งช้อปปิ้งมอลล์และสัมผัสอาคารบ้านเมืองดั้งเดิมของฮากาตะก็บอกเลยว่าห้ามพลาดมาเที่ยว “เขตนากาสุ” เด็ดขาด!
* Tenjin (เท็นจิน) แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่สุดในคิวชู ที่เรียงรายไปด้วยห้างสรรพสินค้าและช้อปปิ้งมอลล์มากมาย
・TENJIN CORE ศูนย์การค้าแหล่งรวมร้านค้าแบรนด์แฟชั่นลำลองสำหรับวัยรุ่น สำหรับใครที่กำลังหาซื้อเสื้อผ้าสไตล์แกลหรือน่ารักๆก็ต้องแวะมาให้ได้ค่ะ
・IMS คือ อาคารแหล่งรวมร้านค้าจิปาถะ, ร้านค้าแฟชั่น, คาเฟ่ & เรสเตอรอง และโซนจัดกิจกรรมเอาไว้ในแห่งเดียว ขอแนะนำสำหรับใครที่อยากช้อปปิ้งชิลล์ๆท่ามกลางบรรยากาศเปิดโล่งโปร่งสบายเลยค่ะ
・Solaria Stage ห้างใต้ดินที่เชื่อมต่อกับ Tenjin Station โดยตรง โดยเน้นจำหน่ายเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงเป็นหลัก
* Suikyō Shrine (ศาลเจ้าซุยเคียว) ศาลเจ้าขึ้นชื่อในย่านเท็นจิน โดยสักการะบูชา “สุกาวาระโนะมิจิซาเนะ” เทพเจ้าแห่งการศึกษา ทำให้ในช่วงสอบมักจะมีนักเรียน-นักศึกษาแวะเวียนมากราบไหว้สักการะกันมากมาย
* Fukuoka Akarenga Cultural Center (ศูนย์วัฒนธรรมฟุกุโอกะอาคาเร็งกะ) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1909 ซึ่งนับว่ามีอายุร่วม 100 ปีแล้ว โดยเกิดจากการเปิดรับศิลปะสไตล์ที่ได้รับความนิยมในประเทศอังกฤษเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมจนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์วรรณคดีไปแล้ว ในปัจจุบันได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมตามปกติ
* Dazaifu (ดาไซฟุ) ย่าน Dazaifu (ดาไซฟุ) ตั้งอยู่ห่างจากย่านเท็นจินเล็กน้อย เป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็น Dazaifu Tenman-gū (ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังงู), Kyushu National Museum (พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติคิวชู) และ Kōmyōzen-ji (วัดโคเมียวเซ็นจิ) เป็นต้น
Dazaifu Tenman-gū (ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังงู) คือ ศาลเจ้าที่สักการะบูชา “สุกาวาระโนะมิจิซาเนะ” เทพเจ้าแห่งการศึกษา ในช่วงสอบจึงมีนักเรียน-นักศึกษาทั่วญี่ปุ่นแวะเวียนมากราบไหว้สักการะกันเป็นจำนวนมาก แถมเรายังสามารถหาซื้อขนมญี่ปุ่น “อุเมกาเอโมจิ” หรือโมจิย่างสอดไส้ถั่วแดงได้ตามร้านค้าแถวศาลเจ้าด้วยนะเออ…
* Kyushu National Museum (พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติคิวชู) คือ พิพิธภัณฑ์สถานที่สร้างขึ้นเป็นแห่งที่ 4 ในญี่ปุ่น โดยโด่งดังเรื่องการจัดแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคหินเก่าจนถึงยุคใหม่ (เปิดประเทศ) เลยทีเดียว
* ส่วน Kōmyōzen-ji (วัดโคเมียวเซ็นจิ) แห่งนี้ขอแนะนำให้แวะมาเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงเลยค่ะ วิวใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงภายในวัดที่มีสวนมอสอันงดงามอันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมสุดๆ
* Momochi Seaside ตั้งอยู่ในเขตริมทะเลที่เจริญแล้ว โดยสามารถนั่งรถบัสจาก Hakata Station มาถึงได้โดยใช้เวลาประมาณ 25 นาที บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสัญลักษณ์ของฟุกุโอกะและสวนสาธารณะมากมาย เช่น
・Momochi Seaside Park (สวนสาธารณะริมทะเลโมโมจิ)
・WEDDING ISLAND MARIZON (เวดดิ้งไอร์แลนด์มาริซอน)
・Fukuoka Tower (หอคอยฟุกุโอกะทาวเวอร์)
・Fukuoka City Museum (พิพิธภัณฑ์เมืองฟุกุโอกะ)
・Fukuoka City Public Library (หอสมุดสาธารณะเมืองฟุกุโอกะ)
・Momochi Central Park (สวนกลางโมโมจิ) เป็นต้น
* สวนสาธารณะอันแสนกว้างขวางอย่าง Momochi Central Park (สวนกลางโมโมจิ) และ Momochi Seaside Park (สวนสาธารณะริมทะเลโมโมจิ) นับเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองชั้นดี สำหรับใครที่เหนื่อยล้าจากการท่องเที่ยวก็ต้องแวะมาผ่อนคลายกันให้ได้สักครั้ง
รถบัสท่องเที่ยวแสนสะดวก
การท่องเที่ยวเมืองฟุกุโอกะขอแนะนำให้ใช้「FUKUOKA 1 DAY PASS」ตั๋วขึ้น-ลงรถไฟและรถบัส Nishitetsu แบบไม่จำกัดตลอด 1 วันจะสะดวกที่สุด โดยเป็นตั๋วที่สามารถใช้บริการรถบัส Nishitetsu Group เส้นทางปกติของเขต Fukuoka, Kurume, Saga และ Chikuho รวมถึงรถไฟสาย Nishitetsu Tenjin Omuta Line, ระหว่าง Fukuoka (Tenjin) Station – Yanagawa Station และ Dazaifu Line, Kikko Line ได้ไม่อั้น เพียงแค่ซื้อเอาไว้ 1 ใบ เราก็สามารถตระเวนเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวหลักๆอย่างสถานีฮากาตะ เท็นจิน ดาไซฟุ และอื่นๆ อีกมากมายได้อย่างอิสระแล้วล่ะค่ะ ผู้ใหญ่ราคา 2,060 เยน เด็กเล็ก 1,030 เยน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : MATCHA http://mcha-th.com
เรื่องแนะนำ :
– 5 ลานสกีสุดเจ๋งบนเกาะฮอกไกโด
– สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่คามาคุระ (Kamakura)
– วิธีการรับมือเวลาเกิดการโจรกรรมหรืออาชญากรรมที่ญี่ปุ่น
– ที่พักราคาถูกในญี่ปุ่น : Guesthouse และ Youth Hotel
– ร้องคาราโอเกะที่ญี่ปุ่น