[นิทานฤดูหนาว] ปาฎิหาริย์แห่งโต๊ะจานผี
กาลครั้งหนึ่งที่ไม่นานมากนัก ชายที่ชื่อคอนโดะ เคยคุยกับเพื่อนไว้ราวๆ อายุ 25 ว่าอยากจะทำบริษัทตัวเอง ตอนปี 2000
เพื่อนมันก็แสนดี ก็พูดง่ายๆ ว่า “ทำเลย… ไปบอกให้โลกรู้สิ ว่าเราใฝ่ผันอยากทำอะไร!!”
คอนโดะเริ่มสร้างความฝันในคอนโดขนาดแค่ไม่ถึงสิบตารางเมตร บรรยากาศเดียวกับบริษัท start-up ในปัจจุบัน ที่วัยรุ่นทั่วโลกเริ่มความฝันที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ในห้องเล็กๆ เท่ารูหนู
![[นิทานฤดูหนาว] ปาฎิหาริย์แห่งโต๊ะจานผี](https://www.marumura.com/wp-content/uploads/2020/12/Kimetsu-no-Yaiba6.png)
ในตึกนี้ มีบริษัทที่คอนโดะซังสร้างขึ้นมา
คนในวงการธุรกิจคงรู้ว่า Start-up เกิน 95% หลายๆ คนบอกว่าถ้านับจริงๆ น่าจะถึง 99% จะเจ๋ง แต่ไอ้ 1% ที่เหลือนั่นแหล่ะที่ถูกแสงไฟสาดส่อง เป็นดั่งความหวัง และผู้นำจิตวิญญาณให้แก่หนุ่มสาวรุ่นใหม่ นำทางให้พวกเขาใฝ่ฝัน ถึงความเป็นนิรันดร์
ขอแอบใช้ภาพ ซีรีส์เกาหลีดัง Start-up มาประกอบซักหน่อย ^^
สามปีแรกกับผลงานสามชิ้นแรกของบริษัท… ผลประกอบการคือ เจ๋งสนิท
บริษัทคงใกล้ตายแล้ว แต่บังเอิญดันไดอนิเมเตอร์คนใหม่ชื่อ ทากายูกิ ฮิราโอะ เข้ามา ฮิราโอะถือว่าเป็นคนมีฝืมือ
“งานที่ผ่านมา เราทำอนิเมะที่ดูเด็กมากเลยเฮีย ยังกับการ์ตูนเด็กประถม เราลองทำอะไรที่มันดูลึกขึ้นกว่าเดิมดีไหม”
และนั่นถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ จากอนิเมะที่มีลายเส้นเด็กๆ กลายเป็นลายเส้นที่ดูมีความเป็นฮาเร็มมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงได้เปลี่ยนจากอนิเมะแนวเลิฟคอมเมดี้ให้กลายเป็นแนวบ้าระห่ำ ต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาด
“คนชอบแฮะ ฮิตแล้วว่ะ ความฝันเป็นจริงแล้ว!!”
ท่านผู้อ่านเดาแบบนี้อยู่หรือเปล่า… หึๆ ชีวิตมันไม่ง่ายขนาดนั้นครับ
ด้วยคุณภาพทีมงาน รวมถึงเวลาที่จำกัด ลูกค้าจ้วงจาบบริษัทของคอนโดะ รวมถึงเจ้าฮิราโอะเละ.. “งานลวกมาก”

ผลงานช่วงแรกๆ ของบริษัท
ถึงปี 2007 บริษัทของเขาเข้าสู่ช่วงเคาท์ดาวน์ปิดตัวแน่นอน… ทีมงานขาดคุณภาพ ไม่มีผลงานโดนใจใคร และก็ไม่มีเงินเหลือด้วยแล้ว ที่คือครบทุกองค์ประกอบแห่งความสิ้นหวังจริงๆ
แต่ยังกับหนังดราม่า ที่ปาฎิหาริย์จู่ๆ จะเกิดก็เกิดแบบไม่มีเหตุไม่มีผล บริษัท Aniplex จู่ๆ ก็เอาโปรเจคใหญ่มาให้คอนโดะช่วยทำ และบอกว่ามันเป็นโปรเจคหลายปี ต้องค่อยๆ ทำนะ อย่าทำแบบไฟลนก้น
บริษัทที่ควรจะเจ๊งตั้งแต่หลายปีที่แล้ว แต่วันนี้พวกเขาพอมีเวลา ทีมงานไม่โดนกดดันเรื่องเส้นตายเหมือนทุกครั้ง พวกเขาเริ่มใส่ใจในรายละเอียด พวกเขามีเวลาถึงขนาดกลับเข้าไปถึงการหาจุดเริ่มต้นในการสร้างอนิเมะ
“หนังอนิเมะ… คือการประสาน ตัวละครด้านหน้ากับฉากหลังเข้าด้วยกัน สร้างให้เกิด space แต่งแสงสี ราวกับให้มันมีชิวิตจริงๆ”
มันก็จริงนะ เพราะหลักการสร้างอนิเมะภาพเคลื่อนไหว เบื้องต้นของเบื้องต้นที่สุดคือ ตัวละครจะถูกวาดเป็นร้อยๆ พันๆ รูปโดยให้มันขยับทีละนิด ส่วนฉากหลังจะไม่เปลี่ยนบ่อยๆ (เพราะถ้าเปลี่ยนเยอะอีก.. คนวาดตาย) และก็เอาสองอย่างนี้มาซ้อนกัน
สิ่งที่ฮิราโอะบอกเอาไว้ว่า “ทำให้ลึก” ถูกทีมงานตีความไปว่า เราต้องสร้าง space (ช่องว่าง) ที่ระหว่างตัวละครกับฉากหลัง ให้มันดูมีมิติจริงๆ ราวกับเป็นภาพที่มีชีวิต
อนิเมะเรื่อง Kara no Kyokai ที่บริษัทคอนโดะทำให้เกิดภาพที่มีมิติ สีและแสงทำให้ผู้ชมรู้สึกราวกับดูหนัง 3D ทั้งๆ ที่เป็นหนังการ์ตูน 2D แท้ๆ สร้างความแปลกใหม่ในวงการอย่างมาก…
นี่คือการแจ้งเกิดของบริษัทคุณคอนโดะ บริษัทที่แทบไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟ …เป้าหมายที่บริษัทจะดังระดับโลกน่ะเหรอ … แค่ฝันก็ยังไม่ควรคิดด้วยซ้ำ แต่วันนี้ฝันเริ่มก่อตัวเป็นรูปและเป็นร่าง งานของทีมพวกเขามีเอกลักษณ์ มีโปรเจคเข้ามาเรื่อยๆ
ปัญหาที่บริษัทอนิเมะทั่วโลกเจอเหมือนกันคือ ถ้าจะทำงานภาพให้ดี ให้สวยๆ ก็ต้องใช้เวลามหาศาล บริษัทของคอนโดะก็โดนความท้าทายนี้เช่นกัน บริษัทส่วนใหญ่จะหาทุกวิถีทางว่าทำอนิเมะยังไงก็ได้ ให้สามารถออกงานได้ตรงเวลา และใช้คนให้น้อยที่สุด
แต่พวกเขาได้บทเรียนราคาแพงก่อนหน้านี้มาว่างานลวกๆ ทำให้บริษัทแทบจะล้มละลาย
“แค่ขนนกแต่ละเส้น ก็ต้องใส่ใจวาดให้สวยใส่ความเหมือนจริงเข้าไป”
นี่เลยกลายเป็นจุดขายของบริษัทในยุคใหม่ทันที
ถึงตอนนี้ ผู้อ่านนึกออกไหมครับ ว่าบริษัทนี้คือบริษัทอะไร?
นี่คือเรื่องของบริษัท Ufotable คนไทยในวงการอนิเมะเรียกกันเล่นๆ ว่าบริษัทโต๊ะจานผี
บริษัทนี้แหล่ะที่ทำอนิเมะให้การ์ตูนเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba การ์ตูนสุดโคตรดังประจำปีนี้ ที่กำลังจะก้าวไปเป็นการ์ตูนระดับตำนาน…. ให้เล่าขานกันชั่วนิรันดร์เหมือน ดราก้อนบอล สแลมดังค์ วันพีซ
ยังไม่พอตัวหนังอนิเมะที่ฉายในโรงภาพยนตร์ (Mugen Ressha – ศึกรถไฟสู่นิรันดร์) ก็กำลังจะกลายเป็นภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ที่สร้างรายได้สูงที่สุดเท่าที่มีมาอีกต่างหาก (หนังเรื่องนี้เพิ่งเข้าฉายในไทย 9 ธันวา)
ดังจนมีข่าวว่า บริษัทมีงานยาวๆ ห้าปีเต็มเป็นอย่างน้อย
ว่าแต่… นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ? ผู้เขียนขอแอบใส่ความเห็นตัวเองสักข้อนะครับ
“จงใส่ใจทุกรายละเอียด ในทุกงานที่เราทำ… และความฝันก็จะมาอยู่แทบเท้าเราเอง”
ยิ่งตอนนี้การใส่ใจให้เวลากับงานที่ตัวเองทำ คงเป็นคำตอบที่เหมาะสมกับสถานการณ์โควิดที่สุดด้วยซ้ำ
ใกล้ปีใหม่แล้ว ขอให้มีความสุข สุขสมความฝันกันทุกท่านนะครับ
เรื่องแนะนำ :
– [ทดความคิด] ไม่ถูกต้อง VS ไม่ถูกใจ
– [มีของแจกจ้า] ปลุกความเป็นโคนันในตัวคุณ @วันคนโสด (เพื่ออิหยัง?)
– เรื่องสั้นต่างมิติ – ตำนานพิศวง Kisaragi Station
– [รีวิวหักมุม] หนังสือ โรงเรียน (โหด?) ญี่ปุ่น
– [งงได้ แต่อย่าโกรธกัน] 19 กันยากับคำสาปญี่ปุ่น Version TENET
#[นิทานฤดูหนาว] ปาฎิหาริย์แห่งโต๊ะจานผี