เกมไคอะวาเซะ (Kai-awase) กิจกรรมที่สร้างความบันเทิงให้กับขุนนางญี่ปุ่นในช่วงยุคสมัยเฮอัน เป็นหนึ่งในการละเล่นเพื่อฝึกความจำและไหวพริบ ปัจจุบันเกมไคอะวาเซะ ไม่ค่อยถูกพบเห็นได้ทั่วไปเพราะการทำที่ยากและใช้เวลานาน
หากเราลองจินตนาการนึกย้อนว่าตัวเองเป็นขุนนางญี่ปุ่นในช่วงยุคสมัยเฮอัน (คศ. 794 – คศ.1185) และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการว่าราชการ พบปะขุนนางท่านอื่น คุยสัพเพเหระ เขียน ท่อง และอ่านบทกวี หรือสร้างความสำราญให้กับชนชั้นสูงหรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ชื่นชมความงามของเสื้อผ้าอาภรณ์ หรือดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของธรรมชาติโดยรอบ แล้วเราจะทำอะไรได้อีกนะ? อะไรที่เหล่าขุนนางจะใช้เพื่อสร้างความบันเทิงให้แก่พวกเขา? เกมไคอะวาเซะคือหนึ่งในคำตอบเหล่านั้นค่ะ
เกมไคอะวาเซะ (Kai-awase) เกิดขึ้นครั้งแรกในยุคสมัยเฮอัน ถูกสร้างขึ้นโดยขุนนางในยุคสมัยนั้น เกมไคอะวาเซะเป็นการละเล่นเพื่อฝึกความจำและไหวพริบ โดยใช้วิธีจับคู่ภาพวาดที่ถูกวาดขึ้นด้านในของเปลือกหอยโดยรูปภาพและคำกลอนที่นิยมนำมาใช้วาดมักนำมาจากตอน GENJI MONOGATARI ส่วนหนึ่งในหนังสือเรื่อง The Tale of Genji ซึ่งเปลือกหอยจะถูกเก็บไว้ในกล่องไม้หกเหลี่ยมที่เรียกว่าไคโอเกะ (kaioke) ซึ่งต่อมาในสมัยเอโดะนั้นเปลือกหอยจะถูกทาด้วยสีเงินหรือสีทองเพื่อเพิ่มความสวยงามอีกด้วยค่ะ
โดยส่วนมากเกมไคอะวาเซะจะนิยมเล่นกันตั้งแต่ 2-4 คน โดยจะวางเปลือกหอยบนเสื่อทาทามิหรือบนโต๊ะ จากนั้นจะทำการคว่ำเปลือกหอยลง ผู้เล่นคนแรกจะทำการพลิกเปลือกหอยและจับคู่กับเปลือกหอยอีกอัน หากจับคู่ได้ถูกต้องก็สามารถเล่นต่อไปได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะพลาดแล้วจึงผลัดให้ผู้เล่นคนอื่นเล่นต่อไป วนลูปไปแบบนี้จนกว่าเปลือกหอยจะหมดหรือว่าไม่สามารถจับคู่ได้อีก จากนั้นจะมานับคะแนนกันว่าใครสามารถจับคู่ได้มากที่สุดก็จะชนะไปนั้นเองค่ะ
ซึ่งหากมองดูแล้วเกมไคอะวาเซะก็คือเกมจับคู่ที่ใช้ทั้งสมาธิและความสามารถในการจดจำแบบที่พวกเราคุ้นเคยและถ้าหากอยากเพิ่มความตื่นเต้นลงไปในเกมให้มากขึ้น บรรดาขุนนางในสมัยก่อนก็จะหยิบยกเอาบทกวีต่างๆ มาเขียนลงบนเปลือกหอยโดยหน้าที่ของผู้เล่นก็คือการจับคู่บทกวีระหว่างวรรคแรกและวรรคสองให้ถูกต้อง ซึ่งการละเล่นไคอะวาเซะแบบจับคู่คำกลอนนี้ก็ถือเป็นต้นแบบของการละเล่นไพ่คารุตะนั้นเองค่ะ
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 11 ในยุคสมัยเฮอันมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและลักษณะของเกมมากขึ้น โดยปกติเกมนี้จะมีเปลือกหอยทั้งหมด 360 คู่ ถูกจับคู่โดยภาพวาดด้านในของเปลือกหอย ส่วนภายนอกเปลือกหอยถูกขัดจนเป็นมันเรียบและลื่น ซึ่งจุดประสงค์ของการเปลี่ยนแปลงหลักๆ ก็คือวิธีการเล่นจากการจับคู่ภาพวาดด้านในเปลือกหอย เป็นการจับคู่ลักษณะโดยธรรมชาติของเปลือกหอยนั้นเองค่ะ
ซึ่งวิธีการเล่นก็จะมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยผู้เล่นจะทำการแยกเปลือกหอยออกจากกันส่วนแรกเรียกว่า จิไก (jigai) จะถูกวางคว่ำลงบนเสื่อทาทามิ ส่วนที่สองเรียกว่าดาชิไก (dashigai) จะถูกใส่ไว้ในกล่องหกเหลี่ยมหรือถุงผ้า ซึ่งในสมัยมูโรมาจิ (คศ.1333 – คศ.1568) สำหรับชนชั้นสูงนิยมใส่เปลือกหอยลงในภาชนะที่ทำจากไม้ ส่วนบรรดาขุนนางที่มียศต่ำกว่าส่วนมากก็จะเก็บเปลือกหอยเอาไว้ในถุงผ้าธรรมดาเท่านั้นค่ะ
หลังจากแยกเปลือกหอยทั้งหมดออกจากกันแล้วผู้เล่นจะทำการสุ่มหยิบเปลือกหอยส่วนที่สองหรือดาชิไก (dashigai) ขึ้นมาจากภาชนะจากนั้นจึงนำมาจับคู่กับเปลือกหอยในส่วนที่หนึ่งหรือจิไก (jigai) ซึ่งหลังจากผู้เล่นคนแรกทำการสุ่มเปลือกหอยขึ้นมาแล้ว ผู้เล่นคนต่อไปก็สามารถทำการสุ่มหยิบเปลือกหอยจากภาชนะขึ้นมาต่อได้ทันทีนะคะ วิธีการเล่นแบบใหม่นี้จะเป็นการเริ่มเล่นไปพร้อมกัน ใครจับคู่ได้มากกว่าในตอนสุดท้ายก็ถือว่าชนะไป ซึ่งถ้าหากไม่มั่นใจว่าเปลือกหอยที่เราทำการจับคู่นั้นจะถูกต้องหรือไม่ ก็สามารถพลิกดูรูปวาดด้านในของเปลือกหอยเพื่อเป็นการยืนยัน และเนื่องจากจำนวนของเปลือกหอยที่มีมากถึง 360 คู่ ทำให้หากเล่นกันเพียงแค่สองคนจะต้องใช้เวลานานมากกว่าจะจบหนึ่งเกม ดังนั้นเกมไคอะวาเซะในยุคสมัยนี้จึงนิยมเล่นกันเป็นกลุ่มใหญ่ขึ้นมากกว่าแต่ก่อนนั้นเองค่ะ
ในช่วงสมัยยุคเฮอัน เกมไคอะวาเซะจะถูกทำขึ้นจากเปลือกหอยกาบ โดยเริ่มจากแยกเปลือกหอยออกจากกัน ล้างทำความสะอาด และนำมาขัดผิวของเปลือกหอยให้เรียบ ลื่น เป็นมันเงา ในสมัยก่อนเราสามารถพบหอยกาบได้ทั่วไป โดยมีขนาดตั้งแต่ 1.5 นิ้ว ไปจนถึง 3 นิ้ว เมื่อทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย เปลือกหอยจะถูกจับคู่เอาไว้ตามเดิม เพื่อป้องกันการสับสน จากนั้นก็มีจะการวาดรูป หรือเขียนคำกลอนลงไปในด้านในของเปลือกหอย ยิ่งเวลาไปผ่าน รายละเอียดของภาพวาดก็ยิ่งมากขึ้น มีความสวยงามมากขึ้น ทำให้นอกจากจะมีไว้เพื่อสร้างความบันเทิงแล้วเกมไคอะวาเซะ ยังถือว่าเป็นของสะสมที่มีค่ายิ่งเพราะด้วยรูปวาด และบทกวีที่ถูกแต่งเติมลงไปต้องใช้ฝีมือและความพยายามเป็นอย่างมาก
ปัจจุบันเกมไคอะวาเซะ ไม่ค่อยถูกพบเห็นได้ทั่วไปเพราะการทำที่ยากและใช้เวลานาน แต่เรายังคงสามารถพบเห็นเกมไคอะวาเซะ ได้ตามพิพิธภัณฑ์หรือถูกทำเพื่อจำหน่ายเป็นของที่ระลึกและของสะสม ซึ่งจำนวนของเปลือกหอยก็จะถูกลดจำนวนลงเพื่อให้ง่ายต่อการเก็บสะสมนั้นเองค่ะ
เรื่องแนะนำ :
– ไพ่คารุตะ การละเล่น กีฬา และศิลปะ
– ยอดดาวน์โหลดแรงแซงโค้ง Mario Kart Tour ทะยานขึ้นอันดับ 1 ทั้งระบบ iOS และ Android
– Sanrio X Reebok Instapump Fury OG คอลเลกชั่นพิเศษเอาใจสายแบ๊วกับลายกุเดะทามะและเฮลโลคิตตี้
– ยาคุมิ (Yakumi) หนึ่งส่วนประกอบสำคัญที่เป็นมากกว่าแค่ของประดับ?
– ไขข้อสงสัย…ผักที่เสิร์ฟมาพร้อมกับซาชิมิเรียกว่าอะไร? กินได้ไหม? มีประโยชน์อะไรนอกจากความสวยงาม?
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :
-https://ja.wikipedia.org/wiki/貝合わせ
-https://en.wikipedia.org/wiki/Kai-awase
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_traditional_Japanese_games
-https://www.pinterest.com/paperfaberge/japanese-kai-awase/