พายุไต้ฝุ่น Jebi พัดขึ้นฝั่งทางภาคกลางตอนใต้ของเกาะฮอนชู (ภูมิภาคชิโกกุ และภูมิภาคคันไซ) ก็ส่งผลกระทบรุนแรง
กรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น (Japan Meteorological Agency : JMA) ประกาศเตือนภัยพายุไต้ฝุ่นหมายเลข 21 ของปี 2018 หรือพายุไต้ฝุ่น Jebi (เจบิ) ล่วงหน้าหลายวัน เนื่องจากคาดว่าน่าจะเป็นพายุไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี
และช่วงเช้าของวันที่ 4 กันยายน 2018 ซึ่งพายุไต้ฝุ่น Jebi พัดขึ้นฝั่งทางภาคกลางตอนใต้ของเกาะฮอนชู (ภูมิภาคชิโกกุ และภูมิภาคคันไซ) ก็ส่งผลกระทบรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่นานหลังจากพายุขึ้นฝั่ง สนามบินคันไซ (Kansai International Airport) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนล่างของจังหวัด Osaka ก็กลายเป็นท่าเรือ เนื่องจากพื้นที่รันเวย์ทั้งหมดถูกน้ำท่วมมิด มองไม่พื้นผิวสนามบิน มีเพียงสิ่งก่อสร้างและอาคารที่มีความสูง ที่ยังไม่ถูกน้ำทะเลท่วมสูง ทำให้เที่ยวบินทั้งหมดที่ต้องใช้บริการสนามบินแห่งนี้ ถูกยกเลิกทั้งหมด (รวมทั้งสายการบินจากไทย)

พายุไต้ฝุ่น Jebi ที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมถึง 216 ก.ม./ช.ม. และก่อให้เกิดคลื่นสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1961… เวลาผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง ฝนที่ตกอย่างหนักและลมแรงมากจนยืนไม่อยู่ ก็สามารถทำให้สาธารณูปโภคต่างๆ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง หลายจุดอาจจะต้องใช้เวลาซ่อมแซมหลายเดือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 200 คน และเบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 คน การคมนาคมยุติชะงักอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะที่สนามบินคันไซ มีผู้โดยสารตกค้างอยู่ภายในสนามบินถึงราว 5,000 คน เนื่องจากสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างสนามบินคันไซซึ่งเป็นเกาะกับแผ่นดินใหญ่ถูกเรือบรรทุกน้ำมันที่ลอยลำอยู่ในอ่าวโอซาก้าถูกคลื่นลมทะเลพัดไปชนสะพานจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้ต้องถูกตัดขาดด้านการคมนาคม ก่อนที่ผู้โดยสารที่ตกค้างจะสามารถเดินทางออกนอกพื้นที่สนามบินคันไซได้โดยทางเรือ ในช่วงเช้าของวันถัดมา (5 กันยายน 2018) โดยคาดว่าการบริการเที่ยวบินของสนามบินคันไซอาจจะเริ่มต้นอีกครั้งอย่างเร็วที่สุดคือค่ำของวันที่ 5 กันยายน 2018
นอกจากนี้ พายุไต้ฝุ่น Jebi ยังส่งผลให้ภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศญี่ปุ่นมีสภาพอากาศที่เลวร้าย ทั้งกระแสลมที่รุนแรง และฝนตกที่หนักในหลายพื้นที่ รวมไปถึงกรุงโตเกียว ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกในภูมิภาคคันโตด้วย ทำให้โดยรวมแล้วพายุไต้ฝุ่น Jebi ส่งผลเกือบจะทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดอันตรายจากลมที่รุนแรง ฝนที่ตกหนัก ดินโคลนถล่ม สาธารณูปโภคถูกตัดขาด ฯลฯ ส่งผลให้มีประชากรกว่า 1 ล้านครัวเรือน!! ที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ และราว 1.2 ล้านคนได้รับคำแนะนำให้อพยพ เที่ยวบินเกือบ 800 เที่ยวบินถูกยกเลิก รวมทั้งบริการเรือเฟอรี่และรถไฟชิงคันเซ็น

โดยพายุไต้ฝุ่น Jebi ที่ขึ้นฝั่งทางภาคกลางตอนใต้ของของเกาะฮอนชูนี้ เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วสูงขึ้นไปทางตอนเหนือ และเคลื่อนตัวออกจากเกาะฮอนชู ทางจังหวัด Niigata ภายในวันเดียวกัน (ราว 22.00 น.ของวันที่ 4 กันยายน 2018) คาดว่าจะพัดเลาะเลียบชายฝั่งตะวันตกของภูมิภาคโทโฮขุและเกาะฮอกไกโดขึ้นเหนือต่อไป

Intense winds from Typhoon #Jebi, now the strongest storm on the planet this year, ripped off rooftops and left about 1.6 million households without power in Osaka and surrounding areas as it made landfall in Japan on Tuesday https://t.co/rQcXV1jPc6 pic.twitter.com/WbDDgjhq9f
— The Weather Network (@weathernetwork) September 5, 2018
เรื่องแนะนำ :
– การพยากรณ์รายวันสไตล์ญี่ปุ่น
– พรุ่งนี้อากาศ “น่าจะ” แจ่มใส
– ตระเวนเที่ยวเทศกาลหน้าร้อนของอีสานญี่ปุ่นกันหน่อยไหม
– 10 เทศกาลหิมะยอดนิยมในญี่ปุ่น ประจำปี 2018
– เฉลิมฉลองเทศกาลแห่งสีม่วง-ขาวกับ Sapporo Lilac Festival 2018
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
https://japantoday.com/category/national/7-dead-200-injured-after-typhoon-batters-western-Japan-5-000-stranded-at-Kansai-airport?
https://www.japantimes.co.jp/news/2018/09/04/national/strong-typhoon-poised-make-landfall-shikoku-kii-peninsula-afternoon/#.W48rSegzZPY
https://www.theweathernetwork.com/news/articles/typhoon-jebi-japan/111638/?platform=hootsuite