เหตุไฉนคนญี่ปุ่นหลายคนจึงพูดไทยได้แต่อ่านภาษาไทยไม่ได้ เพราะภาษาไทย “อ่านยาก” คำถามคือ ยากยังไง? ตรงไหน?
เพื่อนๆ สังเกตไหมคะว่า คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่พอจะเข้าใจภาษาไทยได้ มักจะพูดได้อย่างเดียวแต่อ่านตัวอักษรไทยไม่ได้ นอกเสียจากว่าเขาจะเรียนภาษาไทยอย่างจริงจังตั้งใจมาก
บางคนเป็นนักศึกษาวิชาเอกภาษาไทย ก็จะเก่งทั้งฟังพูดอ่านเขียนแต่สำหรับคนญี่ปุ่นทั่วๆ ไปนั้น มักไม่เรียนภาษาไทยระดับลึกซึ้งขนาดอ่านได้อย่างคล่องแคล่ว เลือกที่จะเรียนแค่พูดพอสื่อสารได้ โดยให้เหตุผลว่าตัวอักษรไทย “อ่านยาก เข้าใจยาก”
ตัวผู้เขียนเองก็ได้ลองไปค้นหาดูว่าในมุมมองของคนญี่ปุ่นนั้น ที่ว่าภาษาไทยอ่านยาก มันยากยังไงกันแน่ อยากได้คำตอบแบบมีรูปธรรม มีตัวอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่บอกว่า “ยาก” เฉยๆ แบบไม่มีเหตุผลรองรับ
ในที่สุดก็พบบทความชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจ จากเว็บไซต์ thaigo.link ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยโดยผู้ดูแลเว็บคือคุณ Denichi ซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นซึ่งเป็นนักแปลภาษาไทยที่ใช้ชีวิตอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทยเป็นระยะเวลาหลายสิบปี ผู้เขียนได้ให้เหตุผล 5 ข้อดังต่อไปนี้ ว่าทำไมภาษาไทยจึงอ่านแล้วเข้าใจยาก
1. วรรณยุกต์ไทยนั้นไม่ได้อ่านออกเสียงแบบเดียวกันเสมอไปในทุกกรณี
ฟังแล้วอาจงง แต่ถ้ายกตัวอย่างก็จะหายงง เช่น คำว่า “ท้า” กับ “ถ้า” ออกเสียงไม่เหมือนกัน ทั้งที่มีไม้โทอยู่ข้างบนเหมือนกัน
2. ภาษาไทยไม่มีการเว้นช่องไฟเหมือนภาษาอังกฤษ
ทำให้พอไม่รู้คำศัพท์คำใดคำหนึ่งก็ไม่รู้ว่าจะแบ่งประโยคยังไง ในบทความมีการยกตัวอย่างเนื้อเพลง Live and Learn ของคุณบอย โกสิยพงษ์ด้วย
[quote arrow=”yes”] “มีสุขสมมีผิดหวังหัวเราะหรือหวั่นไหวเกิดขึ้นได้ทุกวัน”[/quote]
นี่บอกเลยว่าถ้าไม่รู้คำศัพท์จะเห็นเป็นประโยคเรียงพรืดเล่นเอามึน ไม่เหมือนภาษาอังกฤษที่อย่างน้อยก็สับแบ่งมาให้เรียบร้อยเป็นคำๆ โดยการเว้นช่องไฟ เช่น I love you ยังเปิดดิกหาความหมายแต่ละคำง่ายหน่อย
3. รูปพยัญชนะที่ออกเสียงคล้ายกันมีจำนวนมาก
เช่น รูปพยัญชนะที่ออกเสียงคล้าย th ในความคิดของคนญี่ปุ่นมีมากถึง 6 ตัว ได้แก่ ฐ ฑ ฒ ถ ท ธ เป็นต้น พอคนญี่ปุ่นได้ยินเสียง th ก็จะเริ่มคิดแล้วว่า เอ เสียงนี้คือเสียงของรูปพยัญชนะตัวไหนหว่า?
4. นอกจากมีสระเดี่ยวแล้วยังมีสระประสม สระเกิน
ทำให้เกิดเสียงสระขึ้นอีกจำนวนมาก เช่น คำว่า “เก” พอเติมรูปสระอา กลายเป็น “เกา” ออกเสียงเป็นสระเอา สุดท้ายเลยจำเสียงสระทั้งหมดที่มีไม่ไหว
5. ภาษาพูดของไทยนั้นง่ายมากเมื่อเทียบกับภาษาเขียน
เช่น พูดว่า “อร่อย อร่อย” “สวย สวย” ก็สื่อความหมายให้คนไทยรู้ได้แล้ว
ในขณะที่ภาษาเขียนและภาษาพูดของหลายๆ ประเทศนั้นมีระดับความยากใกล้เคียงกัน ทำให้นักเรียนเรียนควบคู่กันไปทั้งสองอย่าง แต่ภาษาไทยนั้นกลับมีภาษาเขียนที่ซับซ้อนมาก เรียนสนทนาสักเดือนนึงก็พูดสื่อสารได้เยอะแล้ว แต่เรียนภาษาเขียนต้องใช้เวลาเป็นปี ทำให้ผู้เรียนถอดใจหมดแรงกระตุ้น หมดไฟที่จะเรียนภาษาเขียน อยากจะแค่พูดสื่อสารให้ได้อย่างเดียวมากกว่า
ความเห็นของคุณคนนี้อาจไม่ใช่ตัวแทนความคิดเห็นของคนญี่ปุ่นทั้งประเทศ แต่ก็น่าคิดนะคะ ว่าจริงไหม?
ทักทายพูดคุยกับ คอลัมน์นิจ ได้ที่ >>> Facebook คอลัมน์นิจคิดandไรท์
เรื่องแนะนำ :
– คนญี่ปุ่นทำไมเวลาแก้ผ้าเข้าออนเซ็นเค้าไม่อาย แล้วรู้ได้ยังไงว่าเค้าไม่อาย หือ?
– Omatsuri Nail คอลเลคชั่นเล็บงานดอกไม้ไฟฤดูร้อนของสาวญี่ปุ่น สายชอบทำเล็บไม่ควรพลาด
– ฤาสังคมญี่ปุ่นจะกลายเป็นสังคมไร้งานอดิเรก มนุษย์อยู่ได้โดยไม่ต้องมีงานอดิเรกจริงหรือ?
– Magnet เตือนความจำน่ารักๆ ที่ฝรั่งคิดแต่คนญี่ปุ่นชอบ ทำไมกันนะ
– ถุงซักผ้าซักได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องทนใส่เสื้อผ้าเหม็นอับ ใส่ซ้ำตอนไปเที่ยว
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://thaigo.link/start/benkyou-4387.html