ในปัจจุบัน “Sunrise Seto・Izumo” หรือ “Sunrise Seto และ Sunrise Izumo” กลายเป็นรถไฟตู้นอนซึ่งวิ่งให้บริการเป็นประจำขบวนเดียวในญี่ปุ่น และยังมีไฮไลท์คือเราสามารถชมบรรยากาศการแยกขบวนรถไฟของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิดด้วยนั่นเอง ซึ่งแม้แค่คนญี่ปุ่นเองยังมีโอกาสได้ชมไม่มาก
รถไฟตู้นอนในญี่ปุ่นมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ในช่วงกลาง สมัยเมจิ เครือข่ายสายรถไฟสร้างเสร็จจนเกือบครบสมบูรณ์และเกิดการพัฒนารถไฟกลางคืนซึ่งวิ่งให้บริการเส้นทางไกลในตอนกลางคืนขึ้นมา
รถไฟตู้นอนขบวนแรกของญี่ปุ่นเกิดขึ้นภายใต้การบริหารของบริษัทรถไฟเอกชน Sanyo Electric Railway ในปี 1900 ยุครุ่งเรืองสูงสุดของรถไฟตู้นอนอยู่ในช่วงปี 1960 แต่หลังจากปี 1975 เป็นต้นมาก็เกิดการพัฒนาชินคันเซ็นและเครื่องบินขึ้นมามากมายจนทำให้รถไฟตู้นอนไม่ได้ใช้กันอีกต่อไป
ในปัจจุบัน “Sunrise Seto・Izumo” หรือ “Sunrise Seto and Sunrise Izumo” กลายเป็นรถไฟตู้นอนซึ่งวิ่งให้บริการเป็นประจำขบวนเดียวในญี่ปุ่น (ไม่นับรถไฟตู้นอนสุดหรูซึ่งวิ่งให้บริการในช่วงเวลาจำกัด)

“Hokutosei” และ “Cassiopeia” รถไฟตู้นอนซึ่งวิ่งให้บริการระหว่างคันโต – ฮอกไกโดได้หยุดวิ่งให้บริการในปี 2015 หลังจากนั้นก็เปิดเส้นทางฮอกไกโดชินคันเซ็นในปี 2016 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ “ซันไรส์เซะโตะ・อิซุโมะ” กลายเป็นรถไฟตู้นอนด่วนพิเศษซึ่งวิ่งให้บริการเป็นประจำในญี่ปุ่นเพียงขบวนเดียวไปโดยปริยาย
เนื่องจาก “ซันไรส์เซะโตะ・อิซุโมะ” ใช้เส้นทางรถไฟของ Tōkaidō Main Line ดังนั้น ชานชาลาขึ้นรถไฟของ สถานีโตเกียว จึงอยู่ที่หมายเลข 9 และ 10 เมื่อเช็คข้อมูลชานชาลาจากป้ายอิเล็กทรอนิกส์แล้วก็อย่าลืมเช็คตำแหน่งขบวนรถไฟที่ตัวเองนั่งจากป้าย SUNRISE EXPRESS ที่ติดเอาไว้ด้านบนชานชาลากันด้วยนะจ๊ะ… จากนั้นก็ไปยืนต่อแถวรอรถไฟตามหมายเลขของตัวเองได้เลยค่ะ
รถไฟ “ซันไรส์เซะโตะ・อิซุโมะ” จะแยกขบวนจากกันที่สถานีโอกายาม่า ซันไรส์เซะโตะ (Sunrise Seto) มุ่งหน้าไปยัง ทาคามัตสึ ใน ภูมิภาคชิโกกุ ส่วนซันไรส์อิซุโมะ (Sunrise Izumo) มุ่งหน้าสู่ อิซุโมะ ใน ภูมิภาคจูโกกุ ตอนซื้อตั๋วทางระบบจะเลือกขบวนรถไฟให้ตามจุดหมายปลายทางของเราอยู่แล้วก็จริง แต่ถึงยังไงก่อนขึ้นรถไฟก็ควรเช็คจุดหมายปลายทางที่ระบุเอาไว้บนขบวนรถไฟให้ดีก่อนเสมอ

ภายในรถไฟตู้นอนมีการจัดเตรียมเตียงนอนเอาไว้ไม่กี่แบบ จากหน้าต่างด้านนอกเราจะเห็นเป็นเตียงนอน 2 ชั้นข้างล่างและข้างบน แต่ข้างในแต่ละเตียงจะแยกจากกัน เตียงนอนบางประเภทมีพื้นที่กว้างขวางแสนสบาย แถมบางประเภทก็ยังมีโต๊ะขนาดเล็กตั้งเอาไว้ให้บริการด้วยนะเออ…
ห้องนอนครบครันไปด้วยอุปกรณ์จำเป็นทั้งไม้แขวนเสื้อ, ชุดนอน, หมอน, รองเท้าสลิปเปอร์อย่างง่ายๆ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่เนื่องจากแปรงสีฟันและสบู่มีให้บริการเฉพาะเตียงนอนแบบซิงเกิลดีลักซ์เท่านั้น จึงควรเช็คล่วงหน้าให้ดีก่อน

“โซโล่” คือ ห้องส่วนตัวโซน B ซึ่งเป็นประเภทที่มีพื้นที่แคบที่สุดในบรรดาเตียงนอนทั้งหมดก็จริง แต่ก็ยังมีพื้นที่สำหรับวางกระเป๋าเดินทางและรองเท้าอยู่ ทุกห้องจะมีเต้ารับติดตั้งเอาไว้ให้บริการเหมือนกันทั้งหมด แถมประตูเข้า-ออกก็ยังต้องใส่หมายเลขพาสเวิร์ดอีกด้วย จึงบอกเลยว่าสบายใจหายห่วงจ้า…



เตียง “ซิงเกิลทวิน” โซน B เป็นเตียง 2 ชั้นซึ่งติดตั้งสายรัดเอาไว้ด้านบน จึงหมดปัญหาเรื่องการกลิ้งตกลงมาด้านล่างได้เลย ส่วนผ้าม่านด้านบนสามารถควบคุมได้จากชั้นล่าง

สำหรับข้อเสียของเตียงนอนประเภทนี้ก็คือมีเต้ารับเพียงอันเดียวนี่แหละ ดังนั้น ถ้าเกิดใครจำเป็นต้องชาร์จสมาร์ทโฟนหรือกล้องถ่ายรูป จึงควรเตรียมปลั๊กพ่วงมาด้วยจะดีที่สุด
ประตูทางเข้าห้อง “โซโล่” “ซิงเกิล” และ “ซิงเกิลทวิน” กว้างเพียงสำหรับ 1 ท่านเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์ที่ติดอยู่ตรงประตูก็คือปุ่มกดพาสเวิร์ดสำหรับเข้าห้องแต่ละห้อง

ส่วนโซนนี้เป็นห้องที่มีราคาถูกที่สุดเรียกว่า “โนบิโนบิซาเซกิ” โดยแบ่งออกเป็น 2 ชั้นบน-ล่าง ฝั่งทางเดินมีผ้าม่านติดเอาไว้ให้ก็จริง แต่ไม่มีผ้าม่านกั้นระหว่างเตียงข้างๆนะจ๊ะ… เนื่องจากไม่ใช่โซนส่วนตัว เราจึงสามารถพบปะพูดคุยกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ หรือใช้เวลาเพลิดเพลินร่วมกับเพื่อนๆ ได้อย่างสบายๆ
แน่นอนว่าห้องประเภทนี้ไม่มีชุดนอนและหมอนให้บริการ แต่ด้วยราคาไม่แพงจึงทำให้มันเป็นที่นิยมมากเลยทีเดียว
สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการความหรูหราสะดวกสบายขอแนะนำเตียง “ซันไรส์ทวิน” และ “ซิงเกิลดีลักซ์”!
นอกจากนี้ก็ยังมี “ซันไรส์ทวิน” โซน B และ “ซิงเกิลดีลักซ์” โซน A ด้วย “ซันไรส์ทวิน” เป็นห้องกว้างใหญ่ซึ่งติดตั้งเตียงนอนเอาไว้ทั้งสองฝั่งของห้อง (ไม่ใช่เตียงสองชั้น)
ส่วน “ซิงเกิลดีลักซ์” คือ เตียงนอนที่มีความหรูหราและสะดวกสบายที่สุดในขบวนรถไฟแล้ว แถมยังมีการจัดเตรียมห้องอาบน้ำเอาไว้สำหรับผู้โดยสาร “ซิงเกิลดีลักซ์” โดยเฉพาะด้วย แต่ก็แน่นอนว่าด้วยบริการระดับสูงก็มาพร้อมกับราคาที่สูงตามไปด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากทั้งขบวนรถไฟ “เซะโตะ” และ “อิซุโมะ” มีเพียง 6 ห้องเท่านั้น จึงควรรีบจองเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆดีกว่า

ขบวนรถไฟหมายเลข 3 และหมายเลข 10 ของ “ซันไรส์เซะโตะ・อิซุโมะ” เป็นที่ตั้งของมินิเลาจน์สำหรับให้ผู้โดยสารผ่อนคลายและรับประทานอาหาร โดยเราสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของทั้งภูเขาและทะเลจากหน้าต่างภายในเลาจน์ได้เลย

ห้องอาบน้ำตั้งอยู่ภายในขบวนรถไฟหมายเลข 3, 4, 10 และ 11 ห้องอาบน้ำของขบวนรถไฟหมายเลข 4 และ 10 จำกัดเฉพาะผู้โดยสาร “ซิงเกิลดีลักซ์” เท่านั้น สำหรับใครที่ใช้บริการเตียงนอนประเภทอื่นๆ จึงจำเป็นต้องใช้บริการห้องอาบน้ำของขบวนรถไฟหมายเลข 3 และ 11 แทน
ภายในห้องอาบน้ำมีทั้งตะกร้าใส่ผ้า ไดร์เป่าผม สบู่อาบน้ำ และแชมพูสระผม บัตรอาบน้ำ 1 ใบสามารถใช้บริการได้ 6 นาที หลังใช้บริการเสร็จให้กดปุ่มทำความสะอาดตรงแผงควบคุมแล้วถังความดันสูงก็จะทำการขจัดความชื้นภายในห้องออกไปเพื่อให้ผู้ใช้บริการคนถัดไปสามารถอาบน้ำได้อย่างสบายใจ

นอกจากเราจะได้เพลิดเพลินกับขบวนรถไฟตู้นอนแล้วก็ยังมีไฮไลท์แนะนำอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน นั่นก็คือการชมบรรยากาศการแยกขบวนรถไฟของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิดนั่นเอง
เมื่อขบวนรถไฟใกล้จะเดินทางมาถึงโอกายาม่า บรรดาแฟนๆ ผู้ชื่นชอบรถไฟทั้งหลายก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ สำหรับใครที่อยากชมการแยกขบวนรถไฟก็รีบมุ่งหน้าไประหว่างขบวนหมายเลข 7 และหมายเลข 8 ทันทีที่รถไฟแล่นมาถึงสถานีโอกายาม่าเลยจ้า… ขั้นตอนการแยกและเชื่อมต่อขบวนรถไฟเป็นภาพที่หาชมได้ยากมากถึงขนาดว่าแม้กระทั่งแฟนๆ ผู้ชื่นชอบรถไฟที่อาศัยอยู่ในโอกายาม่าอยู่แล้วต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปกันเลยทีเดียว
ขบวนรถไฟที่ถูกแยกออกจะถูกเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟพับส่วนเชื่อมต่อเข้าไปข้างในและปิดประตูหลัง หลังจากนั้นขบวนรถไฟ “ซันไรส์เซะโตะ” และ “ซันไรส์อิซุโมะ” ซึ่งแยกเป็นอิสระจากกันต่างก็มุ่งหน้าไปสู่จุดหมายปลายทางของตัวเองต่อไป
ส่วนขบวนรถไฟขากลับโตเกียวจากอิซุโมะและทาคามัตสึก็จะมาเชื่อมขบวนกันที่โอกายาม่าเช่นเดียวกันและออกเดินทางสู่โตเกียว ขั้นตอนการแยกขบวนรถไฟใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น เราจึงจะได้สัมผัสกับความเชี่ยวชาญซึ่งเกิดจากการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจากการทำงานอันรวดเร็วของเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟ
เนื่องจากเราสามารถเดินทางจากโตเกียวไปยังชิโกกุและจูโกกุได้แม้ในขณะนอนหลับด้วย “ซันไรส์เซะโตะ・อิซุโมะ” จึงทำให้เราสามารถใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น
ว่ากันว่าทางบริษัทตั้งชื่อขบวนรถไฟ “ซันไรส์” ด้วยความปรารถนาให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับ “การเริ่มต้นของวันใหม่ เช้าอันแสนสดใส” เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาจากการนั่งรถไฟมาจากโตเกียวก็จะพบกับทัศนียภาพอันงดงามของทะเลเซะโตะในข้างนอกหน้าต่าง รับรองว่า “ซันไรส์เซะโตะ・อิซุโมะ” ขบวนนี้จะช่วยยกระดับการเดินทางให้สนุกสนานเพลิดเพลินและสะดวกสบายมากขึ้นอย่างแน่นอน! ^^
เว็บไซต์หลัก:http://www.jr-odekake.net/train/sunriseseto_izumo/ (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : MATCHA http://mcha-th.com
เรื่องแนะนำ :
– ONOMICHI U2 จุดสตาร์ทเอาใจนักปั่นจักรยานเส้นทางชิมะนามิไคโด
– แนะนำ 5 ร้านซูชิในตลาดปลาซึคิจิที่ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้
– เที่ยว Kanazawa : แนะนำเส้นทางจักรยาน (Machi-nori)
– 5 แหล่งชมซากุระคนน้อย ใจกลางโตเกียว
– ปราสาทมัตสึเอะ ความงดงามในทุกฤดูกาล