“ซูโม่: ชายร่างใหญ่กับวินัยของเขา”
ภาพที่เห็นแล้วนึกถึงประเทศญี่ปุ่นทันที คือ ภาพ “นักกีฬาซูโม่” ที่เป็นชายร่างใหญ่ (มาก) มีน้ำหนักตัวไม่ต่ำกว่า 75 กิโลกรัม ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า ส่วนท่อนล่างมีการพันผ้าที่เรียกว่า “มาวาชิ” เอาไว้ตรงเอว
การแข่งขันจะมีนักซูโม่ 2 คน ยืนอยู่ในวงกลมที่ใช้เชือกล้อมรอบขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4.55 เมตร กติกาของการเอาชนะเป็นการที่สองฝ่ายต้องพยายามทำให้อีกฝ่ายหนึ่งล้ม ทำให้อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายนอกเหนือจากฝ่าเท้าแตะลงกับพื้น หรือดันคู่ต่อสู้ให้ออกจากวงกลมขนาดเล็ก
การแข่งขันซูโม่ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ก่อนที่จะเริ่มต้นการแข่งจะมีการโรยเกลือในกรอบวงกลมเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ กีฬาชนิดนี้ถือว่ามีเกียรติและได้รับการยกย่องอย่างมาก
“ซูโม่” (相撲) เดิมเป็นการแสดงประกอบพิธีกรรมเคารพเทพเจ้าของชินโต และขอพรให้พืชผลงอกงามในฤดูเก็บเกี่ยว ศตวรรษที่ 8 เริ่มปรับเปลี่ยนซูโม่ให้เป็นกีฬา โดยคัดเลือกทหารในกองทัพที่แข็งแรงมาประลองมวยปล้ำหน้าพระที่นั่งเพื่อสร้างความบันเทิงให้เหล่าขุนนาง ต่อมาศตวรรษที่ 17 ซูโม่ได้เป็นกีฬาอย่างเป็นทางการ มีการจัดการแข่งขันตามศาลเจ้าต่างๆในลัทธิชินโต ทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นเข้าฝึกในสำนักต่าง ๆ วิธีการใช้พละกำลัง พิธีกรรมซับซ้อน ระเบียบความประพฤติ ระบบอาวุโส การฝึกซ้อม และประเพณีในการแข่ง มีการสืบทอดความเชื่อและวิถีปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด โดยมีที่มาจากความเชื่อในศาสนาชินโต
การจะเป็น “นักกีฬาซูโม่” ไม่ใช่เรื่องง่าย มีกระบวนการที่ต้องทานทนให้พ้นผ่านไปให้ได้ นักซูโม่ได้รับเกียรติและการเคารพนับถือ อีกทั้งยังเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของการดำรงชีวิตตามแบบแผนญี่ปุ่นดั้งเดิม ดังนั้นนักซูโม่จึงต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะการฝึกซ้อม การกิน และวิธีการดำรงชีวิต ซึ่งต้องมีกำลังกายและกำลังใจที่เข้มแข็ง เช่น การฝึกซ้อมอย่างหนักแทบจะเกินขีดจำกัดของมนุษย์, อดทนกับการถูกกดขี่ข่มเหง เป็นคนใช้ทำในทุกหน้าที่คอยรับใช้เพื่อแลกกับที่อยู่ที่กิน หากต้องการเงินเดือน ก็ต้องก้าวขึ้นไปอยู่ในชั้นแนวหน้า ดังนั้นการมีวินัยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
สังคมของนักซูโม่มีลำดับชั้นวรรณะ นักซูโม่หน้าใหม่ทุกคนมีความฝันที่จะก้าวขึ้นไปเป็น “เซกิโทริ” หมายถึงนักซูโม่ที่มีฝีมือ 50 อันดับแรกจากนักซูโม่ 600 กว่าคน การที่ขึ้นถึงอันดับ “เซกิโทริ” จะนำมาทั้งชื่อเสียง เงินเดือน สตรี และรุ่นน้องมาบริการรับใช้ ส่วน “โยโคะสึนะ” คือ 2 อันดับแรกจาก 50 คนที่เป็นสุดยอดแห่งนักซูโม่
ฤดูกาลแข่งขันซูโม่ของนักซูโม่อาชีพ เปิดการแข่งขันปีละ 6 ครั้ง แต่ละครั้งใช้เวลานาน 15 วัน อย่างเดือนกันยายนนี้จะมีการแข่งขันซูโม่รอบฤดูใบไม้ร่วง ผู้ชนะเลิศจะได้ครองถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระจักรพรรดิ เงินพระราชทาน เนื้อวัวชั้นดี และข้าวสารปริมาณมาก ได้รับการยกย่องจากผู้คน
กว่าที่ชายคนหนึ่งจะฝึกฝนเข้าแข่งขันจนเป็นนักซูโม่ที่มีชื่อเสียง ต้องมีระเบียบวินัยอย่างมาก อดทนทำในสิ่งที่ยากลำบากและอดใจไม่ทำในสิ่งที่ต้องการเป็นระยะเวลานานหลายปี หากเป็นคนที่ไม่ได้รับการฝึกเรื่องการควบคุมตนเองและระเบียบวินัยตั้งแต่เด็ก พอต้องมาเข้ากระบวนการฝึกที่เข้มงวด อาจทำให้ถอดใจได้
ถึงแม้เมืองไทยจะไม่มีนักซูโม่ แต่หมออยากเล่าเรื่องการสร้างระเบียบวินัยวินัยให้เด็กตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการทำสิ่งต่าง ๆได้สำเร็จ อย่างคนที่อยากเป็นนักซูโม่ต้องมีคุณลักษณะนี้ ถึงจะฟันฝ่าอุปสรรคที่ยากลำบากไปได้
>> ว่าด้วยการฝึกวินัย
_ การฝึกวินัยเป็นการสอนให้เด็กเรียนรู้แยกแยะสิ่งที่ดีและไม่ดี มีพฤติกรรมที่เหมาะสมในสถานการณ์ต่าง ๆ สามารถบังคับตัวเองไม่ให้ทำตามความต้องการตามอารมณ์จนละเลยสิ่งสำคัญที่ต้องทำไป สอนทักษะการอยู่ร่วมกับคนอื่น ให้เด็กเรียนรู้และเข้าใจอารมณ์ของตัวเองและเข้าใจคนอื่น การมีวินัยเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญของการที่จะทำสิ่งใดให้ประสบความสำเร็จ
_ คนสำคัญที่จะฝึกวินัยให้กับเด็ก คือ ผู้ใหญ่ในบ้าน ทุกคนควรมีกฎและแนวทางปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อไม่ให้เด็กเกิดความสับสน
_ การมีกฎต้องไม่มากจนเกินไป บางอย่างที่เด็กทำเพื่อการเรียนรู้ที่ไม่ได้เป็นอันตรายหรือเกิดผลเสียหายร้ายแรง อาจต้องปล่อยให้เด็กได้เจอกับปัญหาและฝึกวิธีการแก้ไข เช่น เด็กทดลองใช้ดินสอวาดผนังบ้าน หากผู้ใหญ่เห็นให้อธิบายว่าเพราะเหตุใดที่ไม่ควรทำแบบนี้ และให้ทางเลือกใหม่กรณีที่เด็กอยากวาดรูปบนผนัง เพราะวิธีการวาดสนุกกว่าการวาดบนโต๊ะ ให้นำกระดาษแผ่นใหญ่ไปติดบนผนังแล้วให้วาดลงในนั้นแทน
_ กฎของแต่ละบ้านมีความแตกต่าง แม้มีเด็กหลายคนอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน กฎบางอย่างไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับวัยและพื้นฐานของเด็กแต่ละคน เช่น บ้านที่มีพี่อายุ 10 ปีกับมีน้องอายุ 3 ปี กฎกติกาเรื่องการทำกิจวัตรประจำวัน (routine) ย่อมแตกต่างกัน อย่างพี่โตสามารถดูนาฬิกาเป็น ดังนั้นให้ผู้ใหญ่คุยเรื่องตารางทำสิ่งต่าง ๆ โดยให้เด็กมีส่วนออกความคิดเห็น (collaborative) เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำสิ่งต่าง ๆ พี่โตต้องบังคับตัวเองไปทำตามที่ตกลงกันไว้ ส่วนน้องเล็ดยังดูนาฬิกาไม่เป็น การช่วยเหลือตัวเองยังทำได้เบื้องต้น ดังนั้นผู้ใหญ่จะเป็นคนพาน้องเล็กทำกิจวัตรและฝึกเรื่องการช่วยเหลือตัวเองให้
_ กฎข้อห้ามครอบจักรวาล คือ ห้ามทำร้ายตัวเอง, ห้ามทำร้ายคนอื่น, ห้ามทำลายข้าวของ
_ การสอนเด็กควรอธิบายด้วยเหตุผลที่เด็กสามารถเข้าใจได้ตามวัย บอกว่าอะไรทำได้ทำไม่ได้ ไม่ใช้วิธีการข่มขู่หรือลงโทษรุนแรงให้เด็กเกิดความหวาดกลัวแล้วหยุดพฤติกรรมนั้น การลงโทษทุกครั้งต้องบอกเหตุผลและชวนให้เด็กคิดวิธีการแก้ไขปัญหาหรือป้องกันไม่ให้ทำผิดซ้ำ
_ สิ่งสำคัญที่สุดในการฝึกให้เด็กมีวินัย คือ ผู้ใหญ่ต้องตัวอย่างที่ดีให้เด็กเห็น เด็กจะเรียนรู้ซึมซับพฤติกรรมเหล่านั้น และปฏิบัติตาม การกระทำมีเสียงดังมากกว่าแค่คำพูด
_ ต้องสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับเด็ก มีเวลาให้เด็กสม่ำเสมอ ทำกิจกรรมที่สนุก เพื่อให้เป็นเวลาคุณภาพ (quality time) มีการให้คำชมในสิ่งที่ทำได้ดี และให้คำแนะนำสิ่งที่ต้องปรับปรุง
ปี 2021 นี้น่าเสียดายที่หมอไม่ได้รับวัคซีนที่ประเทศอื่นรองรับ ทำให้อดไปดูการแข่งขันซูโม่ที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ T__T
ทักทายพูดคุยกับหมอแมวน้ำเล่าเรื่องได้ที่ www.facebook.com/sealpsychiatrist
เรื่องแนะนำ :
– “นักเรียนญี่ปุ่นเรียนออนไลน์: เครียดจนต้องสลายหายไป”
– “เรื่องสยองขวัญในฤดูร้อน: ฉันกลัวผี ทำไงดี?”
– “เทศกาลโอบ้งระลึกถึงบรรพบุรุษ: กตัญญูแค่ไหนกำลังดีย์”
– “โตเกียวโอลิมปิก 1964: ฟื้นคืนจากความสิ้นหวังไปสู่แสงอันเจิดจ้า”
– “การตัดสินใจจัดพิธีเปิดโตเกียวโอลิมปิก: หยุดแค่นี้หรือไปต่อดี”
คลินิก JOY OF MINDS
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะ
https://www.facebook.com/Joyofminds/
Tel: 090-959-9304
#ซูโม่: ชายร่างใหญ่กับวินัยของเขา