วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
(เรื่องแทรก ส่งท้ายปี) SIAM CUP (2022 WINTER EDITION) สยามใจ เสร็จแล้วไป SIAMDOL CAFE!!
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ในวันที่บทความนี้ลงเว็บ ก็คงจะเป็นวันสุดท้ายของปี 31 ธันวาคม แล้วนะครับ วันนี้ขอเล่าเรื่องการไป กทม. เพื่อลงแข่ง SIAM CUP BJJ 2022 WINTER EDITION เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมานะครับ ไม่พูดเยอะละเข้าเรื่องเลยดีกว่า 5555
2 ธันวาคม (เดินทางมากรุงเทพฯ)
คราวนี้ผมนั่งสายการบิน THAI LION AIR ซึ่งโอเคดีครับ ไม่ตกหลุมอากาศ 555 แต่ก็ยังเป็นโรคกลัวเครื่องบินอยู่เพราะคราวที่แล้วนั่งนกแอร์ แล้วมาเจอหน้าฝน แบบว่า เอิ่ม มาก เครื่องงี้สั่นเลย แถมมีข่าวเรื่องไถลที่สนามบินเชียงรายอีก มาถึงกรุงเทพฯ ท้องฟ้าแจ่มใสดี แวะกินข้าวหมกปลา (ที่ไม่อร่อย) ที่ศูนย์อาหารตรงทางเดินผ่านไปสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง
แล้วก็นั่งต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมาถึงโรงแรมที่แยกสุทธิสาร (Double DD House ทำเลดีมาก เดินจากสถานี MRT สุทธิสารแป๊บเดียวถึง มีเซเว่นใกล้ๆ แถวนั้นของกินมีเยอะ) แต่สงสัยมาถึงเร็วไป (เกือบเที่ยง) เลยยังเช็กอินโรงแรมไม่ได้ (ห้องยังไม่เคลียร์) โอ้ว เลยไปนั่งกินของว่างเล็กๆ น้อยๆ จิบชาอู่หลง (รีฟิล) ร้าน SMILE อาหารไต้หวันแยกสุทธิสารรัชดา
พอนั่งๆ จนแบบลูกค้าในร้านเริ่มมีมากันเยอะแล้ว เลยมูฟไปที่ร้าน HINATA ที่อยู่ติดกัน กินพวกเสียบไม้ย่างๆ ทอดๆ กับไวน์แดงหนึ่งแก้ว (เนี่ยนะ)
เสร็จแล้วก็นอนๆ งีบๆ รู้สึกว่าชั่วโมงนั้นอยากจะล้างความตึงเครียดในใจให้หายไป (ซึงการได้จิบน้ำชาชิลๆ ก็ทำให้รู้สึกดีจริงๆ) ตื่นมาอีกทีบ่ายสามสี่โมง แล้วก็ไปทำภารกิจมิชชั่นของวันนี้คือ การไปเยี่ยม “ครูเก่ง” ที่จิตติยิมครับ ก็ใส่ชุดเช่าซ้อมดริลและก็โรลเบาๆ พอให้เหงื่อออกและลดความตึงเครียดได้ เสร็จแล้วก็ขอครูเก่งถ่ายรูปที่ระลึกหน่อย
จริงๆ ผมเป็นสายขาวน๊ะ 555
และก็อะไรจะบังเอิญปานนั้น วันนั้นลูกศิษย์ครูเก่งก็มาเซอร์ไพรส์วันเกิดครูเก่ง 555 สุขสันต์วันเกิด นะครับผม ในคราวนี้ผมได้เจอและได้โรลกับหนุ่มเกาหลีสายน้ำเงิน (สี่แถบ) หน้าตาหล่อเหลาน่ารัก แกบอกว่าปีใหม่จะขึ้นไปเที่ยวเชียงใหม่พอดี ผมรีบบอกเลยว่า อย่าลืมมา PURE GRAPPLING นาค๊าบ และก็ยังได้คุยกับหนุ่มอีกคนนึงที่เขาชอบปรัชญามูซาชิ เขาบอกเคยอ่านที่ผมเขียนรายสัปดาห์ใน marumura ด้วย เจอคนเขียนตัวจริงแล้ว ตกใจไหมฮ๊า 5555
เสร็จแล้วก็กลับไปอาบน้ำที่ห้อง เปิดทีวีไปมา เจอเรื่อง THE LAST SAMURAI ดูแล้วอินมากแบบว่าถ้าไม่ใช่พรุ่งนี้แข่ง จะดูให้จบเรื่องเลย 555 แต่ ไม่ไหวละ เที่ยงคืน พอก่อนเหอะ
3 ธันวาคม (วันแข่ง)
วันนี้ผมตื่นไม่เช้ามาก ประมาณเจ็ดโมงกว่า เตรียมชุดเตรียมอะไรใส่กระเป๋าแล้วแต่เมื่อคืน นั่งรถไฟฟ้าจากสุทธิสารไป (สถานี) เพชรบุรี แวะซื้อของกิน น้ำดื่ม ที่ลอว์สันในสถานีนั่นแหละ มีแซนวิช ข้าวกล่องปลาซาบะ นมอัลมอนด์ แล้วก็ซื้อปากหม้อญวนไส้ผักจากร้านเวียดนามเอ็กซ์เพรส (ก็ในสถานีนั่นแหละ)
สูตรการกินเพื่อเตรียมตัวก่อนแข่งและวันแข่งไม่มีไรซับซ้อนครับ แค่กินผัก กินอะไรที่เบาหน่อย หลีกเลี่ยงเนื้อที่ย่อยยากๆ อย่างเนื้อหมู (ไก่ ปลา เนื้อ กินได้บ้าง) ไม่กินของรสจัด (เค็มหรือเปรี้ยวเผ็ดจัดๆ) ดื่มน้ำเปล่ามากๆ และก็ หลังออกแรงหนักๆ ถ้าหาได้ กินน้ำมะพร้าว ครับ
ผมไปถึง SHOW DC ตอนแปดโมงกว่า ก็วางกระเป๋าอยู่กับพวกทีมเดียวกันข้างสนามแหละครับ ไปชั่งน้ำหนัก โล่งเลยไม่มีคนไม่ต้องต่อคิว ปีนี้คนแข่งหกร้อยกว่าคน จัดสนามไว้ห้าสนาม สิ่งทีดีของคราวนี้ (ต้องขอชมเชยผู้จัด) คือ มีจัดเบาะสนามไว้สำหรับ “อุ่นเครื่อง” โดยเฉพาะ จะยืดเส้นยืดสาย ซ้อมเข้าคู่ ก็ได้เลยโดยเสรี ผมก็เป็นคู่ซ้อมให้กับน้องที่จะลงแข่งสิบโมง แต่…
…เกิดเจ็บตรงแข้งซ้าย อาการเก่ากำเริบครับ (ฮา) โชคดีที่ข้างสนามมีอุปกรณ์ปฐมพญาบาล เอ๊ย พยาบาล พร้อม เลยขอสเปรย์เขาฉีดใส่หน้าแข้งหน่อยนึง ปีนี้ไม่มีแม่บ้านญี่ปุ่นมาขายโอนิกิรินะครับ แต่มีแซนวิชบาแก็ตขายแทน อันเบ้งๆ ผมสั่งทูน่า 99 บาท ใหญ่กว่าซับเวย์ เย๊อออออ
ช่วงสิบโมงถึงบ่ายนี่แหละอุตลุดเพราะทีมผมลงในรุ่น ADULT รุ่นคนหนุ่มสาวกันหลายคน (ตอนเช้าก็เป็นเด็กๆ) ซึ่งหลายคนทำผลงานได้แบบว่าก้าวกระโดด ที่สุดๆ ไปเลยก็คือ SAKAN LAM ครูฝึกวิชาต่อสู้จาก CORE COMBAT CHIANG MAI ที่ได้มาฝึกบีเจเจกับยิมผม และก็ทำผลงานได้เหรียญทอง ก็เอาสายน้ำเงินที่หน้างานกันไปเลยค่าาาา (เย่ๆๆ)
ส่วนแมตช์ของผมเริ่มบ่ายสามโมงครึ่ง (ราวๆ นั้น) ชนกับหนุ่มใหญ่รัสเซียจากยิม TEMPLE BJJ (ที่มีอาจารย์ OLAVO ABREU เป็นโค้ช) ผลคือ…
ผมโดน jumping closed guard -> back take -> bow and arrow choke จบ
…ต้องขออภัยจริงๆ ที่มันจบเร็วเกินไป
…แฮ่…
พอมาอีกดิวิชั่นหนึ่งคือรุ่น OPEN WEIGHT ผมรอเจอกับผู้ชนะจากอีกแมตช์หนึ่งที่รอบเซมิไฟนัล น่าเสียใจจริงๆ ที่การดวลวิชาขาของผมนั่นไม่สามารถ sweep คู่แข่งได้สำเร็จ (ashi garami -> single leg x) แถมโดนล็อคข้อเท้ากลับอีก เวรกำ (กลับไปฝึกมาใหม่ไป๊)
ก็เลยต้องมาชิงเหรียญทองแดงกับ อาจารย์เดวิด สุทธาหลวง ซึ่งอยากจะบอกว่า นี่คือการ rematch ครั้งแรกของผมในรอบสองปี (นับจากที่เจอกันครั้งแรกเมื่อปี 2020 ใครอยากอ่าน คลิกที่นี่ เลยครับ) ซึ่งผลก็คือผมถูกดักกระบวนท่าแล้วพาสการ์ดแล้วสุดท้ายก็จบที่ americana ชวดเหรียญทองแดงไปเลยครับ
ครับ วันนี้ถ้าพูดถึง performance เพียวๆ ผมทำได้แย่กว่าคราวที่แล้วอีก (เพราะคราวที่แล้วยังสู้จนครบยกทั้งสองยกและจริงๆ เข้าการ์ดได้ควรจะซับมิชชั่นได้ด้วยซ้ำแต่ก็ทำโอกาสหลุดลอยไป แต่คราวนี้แพ้แบบโดนซับมิชชั่นครบทั้งคอ เท้า แขนเลย) แต่สำหรับทีม PURE GRAPPLING CHIANG MAI วันนี้นับเป็นวันดีเป็นศรีวัน เพราะทุกคนที่ลงแข่ง ได้เหรียญกันหมดเลย (ห๊า)
ส่วนผมกับอาจารย์เดวิดนั้น ก็บอกความในใจเลยว่า ผมจะมาประลองด้วยไปเรื่อยๆ จนกว่าจะขึ้นสายดำ (ตอนสูงวัย) กันทั้งคู่ ไปเล๊ย 5555
โอเค ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกเสร็จแล้ว ก็แยกย้ายครับ เห็นว่าทีมงานคนหนุ่มสาวเขาไปเที่ยวกันถึงเยาวราช เลยทีเดียว ส่วนผมเองมีนัดกับ “เฮียน้ำ” ที่ DONKI MALL ครับ พากันไปที่ SIAMDOL CAFE ชั้นสาม ซึ่งเมื่อมาถึงหน้าร้านจะพบกับน้อง Porpor Euphonie อยู่หน้าร้าน แบบนี้ 555
…ห้ามขโมยน๊ะ…555
คือไหนๆ ก็มากรุงเทพฯ และก็นะ ได้รับฟาม เจ็บช้ำจาย จากการแข่งมาแล้ว ก็เลย อ่ะ มาเยือนที่นี่หน่อยเผื่อจะเยียวยาจิตใจได้ 555 แต่ แต่ แต่ วันนี้น้องๆ ในร้านส่วนใหญ่ไปออกอีเวนท์ข้างนอกกันหมดครับ (อ้าว) เลยเหลือน้อง CAST ที่ดูแลในร้านไม่กี่คน (แป่ว) เนื่องจากสภาพหลังการแข่งขันทำให้ผมไม่ค่อยอยากกินอะไรที่มันหนักเกินไปนัก เลยสั่งซีซาร์สลัดกับปลาหมึกชุบแป้งทอดกับเบียร์สดแก้วเล็กหนึ่ง ส่วนเฮียน้ำเล่นเมนูซิกเนเจอร์เลยครับ “ข้าวห่อไข่” โดยมีน้อง CAST เขียนรูปด้วยซอสมะเขือเทศให้ตามนี้ครับ
เสร็จแล้วน้อง CAST (ชื่อน้องเนโกะ) ก็มาชวนคุยถามไถ่ว่าเป็นไงมาไงถึงมาร้านนี้ได้ (ก็เฮียน้ำแหละครับ 555) อะไรประมาณนี้ แล้วพอได้เวลาอันสมควรก็เช็กบิล ครับผม (ถ้ามีอีเวนท์ที่นั่น ณ วันนั้นบรรยากาศน่าจะสนุกกว่านี้นะเนี่ย แง่งๆ) เสร็จแล้วเฮียน้ำก็ส่งผมไปสถานี BTS เอกมัย ผมก็นั่งบีทีเอสมาลงสถานีอโศก (เพื่อต่อ MRT) แล้วก็มาเจอกับร้านนี้ Pala Pizza Romana ซึ่งผมไม่ได้กินมาหลายปีละ (ครั้งสุดท้ายกินกับเมียตอนมาเที่ยวกรุงเทพฯ ปี 2018 หรือเปล่าหว่า?) มาวันนี้ร้านยังคึกคักคนแน่นเหมือนเดิม ดีใจที่ได้เจอเลยขอกินเล็กๆ น้อยๆ พอเป็นที่ระลึก พิซซ่าหนึ่งชิ้น ไวน์ขาวหนึ่งแก้ว ชมบรรยากาศร้านไปพลาง คนแน่นจริงๆ
เสร็จแล้วพอถึงที่พัก ก็ “ซักผ้า” ครับ ซักชุดแข่งนี่แหละ เพื่ออนามัย แล้วก็ นอนเหอะ ๕๕๕
4 ธันวาคม (กลับเชียงใหม่)
วันนี้ผมตื่นมากว่าจะเช็กเอาท์ก็แปดโมงกว่าๆ เลยตัดสินใจไม่แวะร้านมังสวิรัติที่จตุจักรเพราะเกรงจะไม่ทันเวลาไปรอขึ้นเครื่อง (เครื่องออกสิบเอ็ดโมง) สุดท้ายไปถึงสนามบินได้กินข้าวกล่องกระเพราะไก่ไข่ดาว ๖๙ บาท ร้าน Dao Coffee (ใครนั่งเครื่องบินจากดอนเมืองก็ลองนะครับร้านนี้ราคาไม่แรง เทียบกับร้านทั้งหลายในเกท) นั่งเครื่องบินขากลับ อากาศดี เสียอย่างเดียวตอนบินเข้าก้อนเมฆนี่ หลุมอากาศ บึกๆๆ แล้วก็มาถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ ทันไปดูลูกชายสอบสายเทควันโด ผ่าน ได้สายฟ้าหนึ่งละ (ครึ่งแรกของเส้นทางสู่สายดำ) เขาสามารถเอาชนะความกลัวความไม่มั่นใจในตัวเอง และทำท่าสอบต่อหน้าอาจารย์ใหญ่เจ็ดดั้งได้ ผมถือว่าลูกชายผมคือ THE WINNER ในวันนี้ ครับ
ปัจฉิมลิขิต
…ถ้าการไปแข่งรอบที่แล้ว (SUMMER EDITION) เป็นการ “วัดใจ” ล่ะก็…
การแข่งในคราวนี้ (WINTER EDITION) ก็ถือเป็นการ “ล้างใจ” ครับ
ก่อนช่วงที่ไปแข่ง มันมีความอะไรหลายอย่าง บอกไม่ถูก ที่ทำให้ใจมัน ไงไม่รู้ ไม่ใส ไม่เคลียร์
แต่พอแข่งเสร็จแล้ว จิตใจรู้สึก โล่ง
รู้สึกได้ว่า ที่ผ่านมาชีวิตคนเราอาจเก็บ “สิ่งที่ไม่จำเป็น” เข้ามาในจิตใจเรา มากไป การมาแข่งคราวนี้ทำให้ผมมีช่วงเวลาที่แบบ แวบขึ้นมาในหัวว่า อะไรที่มันมากไป เยอะไป ก็ควรปล่อยๆ วางๆ เสียบ้าง
ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกแบบนั้นได้นะครับ ผมเองยังอธิบายไม่ค่อยถูก แต่เอาเป็นว่าในหัวผม ณ ตอนนี้คือ
…มีเวลาอยู่กับครอบครัว ให้มากๆ…
…กลับไปตั้งใจฝึกซ้อม…(ฝึกต่อไป)
…พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ…
…กินอาหารให้พอมีความสุขบ้าง…(ไม่น้อยแต่ก็ไม่เยอะไป)
อีกอย่างนึงที่ผมรู้สึก (ซึ่งมันก็ทำให้ผมรู้สึกดี) ก็คือ วงการนี้พออยู่ๆ ไปได้เจออะไรมากมาย ได้เจอผู้คนมากขึ้น รู้สึกเหมือนท่องในยุทธภพอย่างในนิยายกำลังภายใน มีคู่แข่ง มีมิตรภาพ ผู้คนมารวมกันมากขึ้น สนุกขึ้นเรื่อยๆ มันไม่ใช่แค่กีฬาหรือออกกำลังกายแล้วครับสำหรับผม มันกลายเป็นไลฟ์สไตล์ กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมไปละ ดีไม่ดีถึงจุดหนึ่งมันอาจเป็น “อิคิไก” (生き甲斐) ไปก็ได้ใครจะไปรู้ว
ณ วันนี้ที่ท่านผู้อ่านได้อ่าน ก็ขอให้ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ด้วยจิตใจที่เบิกบานและผ่อนคลายกันนะครับ ไม่รู้ว่าเพราะร่างกายดีขึ้นหรือแพ้เร็วเกินไป อาการ DOMS ปวดไหล่ปวดอะไรไม่เป็นเลยครับ แค่เมื่อยก้นกับต้นขาคืนวันแข่งแต่นอนตื่นมาก็หายครับ ปีใหม่นี้ก็ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านดูแลสุขภาพกายและจิตให้ดีๆ นะครับ สวัสดีปีใหม่ ขึ้นปี ๒๕๖๖ มาเรามาต่อที่ “คัมภีร์แห่งเตโช” (ไฟ) กันต่อนะครับ ขอตัวไปพักก่อนครับ บ๊ายบาย ซียูอะเกน 2023 นะครับ
เรื่องแนะนำ :
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (48) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบแปด ปัจฉิมลิขิต
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (47) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบเจ็ด สิ่งที่เรียกว่าตำแหน่งสื่อตรง
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (46) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบหก สิ่งที่เรียกว่าการตีอันหนึ่ง
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (45) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบห้า เรื่องของประโยชน์ของการตีประสาน
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (44) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบสี่ เรื่องของตำแหน่งของหลายศัตรู
#(เรื่องแทรก ส่งท้ายปี) SIAM CUP (2022 WINTER EDITION) สยามใจ เสร็จแล้วไป SIAMDOL CAFE!!