วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
(เรื่องแทรก ด่วนพิเศษ) เมื่อผมได้พบกับ “มือดาบซามูไร” ในลานประลองยูยิตสู SIAM CUP BJJ 2020
“อยากรู้จักความพ่ายแพ้เหรอ ไปงานแข่ง SIAM CUP BJJ สิ”
นี่ไม่ใช่เรื่องบากินะครับ (ฮา) แหมเปิดหัวมา มันใช่มาก ครับท่านผู้อ่าน ผมขอสต๊อปการเล่าเรื่องชีวิตนักเรียนที่ญี่ปุ่นปี 2004 ไว้ก่อนนะครับ ขอตัดภาพมาที่ ณ ปัจจุบันปี 2020 ณ งานแข่ง SIAM CUP BJJ 2020 ที่เพิ่งผ่านไปสดๆ ร้อนๆ เลยละกันนะครับ
ณ ปัจจุบัน ผมเรียนบราซิลเลียนยูยิตสูมาได้สองปี (รวมช่วงที่ต้องล๊อคดาวน์ด้วย และก็มีช่วงที่หยุดไปหนึ่งเดือน เพราะพักฟื้นจากการผ่าตัดตา) ก็ยังเป็นสายขาวสองแถบ ก๊อบๆ แก๊บๆ อยู่ครับ มาถึงตรงนี้มีคนถามแน่นอนว่า บราซิลเลียนยูยิตสู (จากนี้ไปขอเรียกย่อๆ ว่า บีเจเจ) มีกี่สาย ผมขี้เกียจเขียนเยอะ ขอเล่าด้วยรูปละกันนะครับ บอกได้แค่ว่าหนทางชีวิตของบีเจเจจากสายขาวไปหาสายดำนั้น เอาลองคิดดูผมยังอยู่ขาวสองแถบ ทางจากนี้ไปจะอีกไกลแค่ไหนก็ถามใจเธอดู
หนทางชีวิตจากนี้ไปก็จะ ยาวไป ยาวไป ที่มา https://www.jiujitsutimes.com
โอเค จากภาพที่เห็น สิ่งที่รู้อย่างหนึ่งคือ บีเจเจ ไม่ได้ใช้ระบบ สิบกิ้ว 級 คือไต่จากระดับสิบกิ้วขึ้นไปๆ จนถึงหนึ่งกิ้ว แล้วถึงค่อยขึ้นโชดั้ง 初段 ขั้นแรกของสายดำแล้วก็ยาวไปๆ ต่อ พูดแบบบ้านๆ ในบีเจเจ กว่าคุณจะไปถึงสายดำ มีขั้นบันใดที่ต้องขึ้น 20 ขั้น
ความยากอีกอย่างของการเลื่อนขั้น เลื่อนสายของบีเจเจก็คือ ในขณะที่สายวิชาต่างๆ ของญี่ปุ่น เขาจะกำหนดเป็นขั้นๆ เหมือนหลักสูตรการเรียนว่า จากสายนี้เป็นสายนี้ ต้องทำท่าอะไรได้บ้าง (ต้องจ่ายค่าสอบด้วยนะ) อารมณ์เหมือนการสอบไล่ตามหลักสูตรการเรียนในโรงเรียนว่าโอเค ป.1 ต้องบวกลบเลขสองหลักได้อะไรประมาณนี้ ตอบข้อสอบได้สอบผ่านก็จบ
แต่บีเจเจการเลื่อนชั้นเลื่อนสายดูจาก การแสดงสมรรถนะ (Performance) (ดูจากการซ้อมประลองในชั้นเรียน มีการพัฒนาไหม ลีลาเป็นอย่างไร ทำท่าที่ไม่เคยทำได้ไหม) การตั้งใจเข้ามาเรียน เข้ามาฝึกที่ยิม (มาเป็นประจำไหม ไม่ใช่มาเรียนครั้งหนึ่งแล้วหายหัวไปสองสัปดาห์) (Attendance) และผลงาน (Achievement) (วัดจากการไปแข่งขัน ผลงานเป็นไง ชนะไหม ได้เป็นแชมป์ไหม) มากกว่าอารมณ์เหมือนการประเมินพนักงานบริษัท แนวคิดมันต่างกันตรงนี้
และก็เพราะอย่างนี้แหละ ผมก็เลยต้องโดดเข้ามาลงแข่ง ทีแรกกะว่าต้องรอถึงปีหน้า 2021 แต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับการจัดงานแข่ง SIAM CUP BJJ ก็เลยอ่ะ ในยิมก็ถามกันว่าใครสนใจจะลงบ้าง ผมก็เลยอ่ะ ลองดูก็ได้ เผื่อเป็นโปรไฟล์ด้วยว่าอย่างน้อยก็มีประสบการณ์ลงแข่งนะ และก็อยากลองไปเปิดหูเปิดตาดูว่าการแข่งบรรยากาศนั้นเป็นอย่างไร
หลังจากที่ลงทะเบียนสมัครแข่งในระบบ เนื่องจากดูท่าการแข่งในพิกัดน้ำหนัก / อายุ / สีสาย เดียวกัน น่าจะหาคนลงไม่ค่อยมี ก็เลยลองลงรุ่นแบบอายุเดียวกันสีสายเดียวกันแบบไม่จำกัดน้ำหนักด้วย พอดูชื่อคนลงดิวิชั่นเดียวกัน (ไม่จำกัดน้ำหนัก) แล้ว มีชื่อ David Sutthaluang (เดวิด สุทธาหลวง จากนี้ไปจะขอเรียกสั้นๆ ว่า อ.เดวิด) ด้วย ชื่อแปลกดี แต่ เอ๊ะๆ คุ้นๆ นะ ลองเสิร์ช โอ้ เป็นคนดังในด้าน Self-defense ด้วย เรื่องดาบซามูไรด้วย รายละเอียดถามอากู๋ได้นะครับ มีทั้งออกรายการทีวี บทสัมภาษณ์ ทั้งในบทความในเว็บและยูทูป อ.เดวิดเห็นว่าเป็นอาจารย์สอนดาบสายชินคาเงะริว ใครสนใจเรื่องศิลปะการต่อสู้โบราณของญี่ปุ่นก็เชิญเข้าไปชมกันได้นะครับที่เพจ Shinkage Ryu Thailand https://www.facebook.com/Shinkage-Ryu-Thailand-104464317564433
…โอว ว้าว ผมเจอกับมือดาบซามูไร ไหวไหม ตัวฉัน…(ฮา)
แต่เดี๋ยวนะ อาตมาจะไหวไหมเนี่ย ลงแข่งครั้งแรกก็เจอซะขนาดนี้แล้ว อ้อ ลืมบอกไป อ.เดวิดเป็นแชมป์ SIAM CUP BJJ 2019 ด้วย
…เป็นแชมป์ปีที่แล้วด้วยเหรอ เดี๋ยวนะ พักหายใจแป๊บ…(ฮา)
ทีนี้มาถึงเรื่องการเตรียมตัว ซึ่งผมก็ไม่ได้เตรียมอะไรเลย ยังฝึกซ้อมตามปกติคือรักษาความถี่ของการไปยิมให้ได้สามครั้งต่อสัปดาห์ (วันธรรมดา) เสาร์ไหนไม่ได้ทำงานก็ไปซ้อมวันเสาร์กลางวันเพิ่ม แต่บอกตรงๆ ซ้อมวันเสาร์กลางวันนี่ นรกชัดๆ ร้อน เหงื่อแตก หมดแรง ตายคาเบาะ (ไม่ขนาดนั้น) พยายามซ้อมท่ายืนมากขึ้นเพราะว่าตอนแรกๆ เรียนแต่ท่านอนอย่างเดียว พื้นฐานท่ายืนไม่มี (บีเจเจนี่ ใครเป็นยูโดเก่าหรือมวยปล้ำเก่า มาเรียนจะได้เปรียบมาก) ก็ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่
….ตัดภาพมาที่งานแข่ง…
กำหนดการตอนแรกจะจัดที่ ม.รังสิต แต่มีการเปลี่ยนแปลงในสองอาทิตย์สุดท้ายที่เล่นเอาผมเงิบ คือเปลี่ยนไปจัดที่ SHOW DC แทน ตายละ ผมจองเที่ยวบินลงดอนเมืองเพราะเข้าใจว่าจัดที่ ม.รังสิตนะเนี่ย โอย SHOW DC ไปทำไมเนี่ย ไป ม.รังสิตดีกว่าไปชมดู นศ.สาวๆ ไม่ใช่ครับๆ อย่าเข้าใจผมผิด คือเที่ยวบินน่ะ ถ้าเป็นเที่ยวบินที่ลงสุวรรณภูมิ ราคาตั๋วมันจะถูกกว่า แล้วดอนเมือง ณ ตอนที่พูดถึงตอนนี้ รถไฟฟ้ามันยังไม่มี การเดินทางไม่ใคร่สะดวก แต่เอาเถอะ ถึงกระนั้นก็ตาม การแข่งก็ยังคึกคัก มีคนเข้าร่วมการแข่งขันตั้งสี่ร้อยกว่าคนแน่ะ จำนวนนี้รวมหมดแล้วทั้ง “บุรุษสตรีชราเยาว์วัย” (นันเนียวโรโย 男女老幼) มีตั้งแต่เด็กน้อยไม่ถึงแปดขวบจนถึงวัยดึก
เท่าที่สำรวจที่วัยดึกสุดคือ 55 ปี ชื่อว่า Speed-san ชาวญี่ปุ่น ตามโปรไฟล์ว่าเป็นบีเจเจสายขาวแต่เป็นอดีตยูโดสายดำ (ว้าว) ซึ่งไม่ได้มาตัวเปล่า แต่มาพร้อมบะหมี่นิชชินแจกฟรีคนละกระป๋องและบะหมี่นิชชินเอาไปเลยหนึ่งลังสำหรับแชมเปี้ยน (พ่อครับ ผมจะสู้เพื่อบะหมี่ ไม่ใช่ละ 55) นอกจากนี้สปอนเซอร์ต่างๆ ทั้งมีของมาขาย และมีของมาแจกฟรีเช่น ชานมฟรีก็มีกันมา สนุกสนานมาก ใครสนใจดูกันได้ที่นี่นะครับ https://www.facebook.com/SIAM-CUP-BJJ-102015804544408/
…วันแข่งขัน…
ผมเดินทางมาโดย MRT มาลงสถานีเพชรบุรี โบกมือบอกพี่วินพาผมไป SHOW DC หน่อย สามสิบบาท มาตรงที่จัดคือส่วน STUDIO 9 คนมากันแต่เช้า ผมมาถึงตอนเจ็ดโมงกว่าๆ มาก็มาชั่งน้ำหนัก โอเคผ่าน แล้วก็เจอกับทีมเมทสุดหล่อ Ruwando ซึ่งวันนี้ Ruwando ก็ลุยไปถึงรองรองสุดท้ายได้เหรียญทองแดง ผมก็อยู่ดูเชียร์ช่วงเช้าถึงสายลุ้นกันสนุก
รูปสนามแข่งก่อนถึงเวลาแข่ง อันนี้ผมถ่ายเองครับ ส่วนบรรยากาศการแข่งเขิญชมที่เพจของ SIAM CUP BJJ นะครับ
สำหรับผม ผมรอบบ่ายสองโมง อารมณ์แบบว่ารอบผู้สูงวัย (ฮา) เนื่องจากพิกัดน้ำหนักเดียวกัน อายุระดับเดียวกันไม่มีคนลง เลยถูกจับให้ไปพบกับพิกัดน้ำหนักเดียวกัน สายขาวเหมือนกัน แต่ระดับอายุน้อยกว่า
เท่ากับผมต้องเจอกับคนอายุน้อยกว่าเป็นเกือบสิบปี คู่แรกผมโดนหนุ่มรัสเซียช่วงสุดยาวสูง 186 ซม. เปิดมาก็คว้าหลังคอเสื้อจับเหวี่ยงลงพื้นขึ้นคร่อมเลย จะสะพานโค้งหนีก็ไม่สำเร็จแถมยื่นมือมากไปโดนจับล๊อคอีก จบเกม แล้วก็กระโดดไปสนามต่อไปอย่างเร็ว คู่ที่สอง ผมโดนคร่อมอีกแล้ว แต่ Sweep พลิกล่างเป็นบนจนได้แต่ก็โดน Close guard พยายามจะแก้ให้หลุดแต่ไม่หลุด สุดท้ายโดนไทรแองเกิ้ลโช้ค (Triangle choke 三角締め ซันคาคุจิเมะ) จบเกม
Triangle choke หรือในยูโดเรียกว่า ซันคาคุจิเมะ 三角締め ที่มา https://www.judo-ch.jp
เป็นอันว่าในรุ่นพิกัดน้ำหนักเดียวกันก็จบเกมแต่เพียงเท่านี้ ต่อไปเป็นรุ่นไม่จำกัดน้ำหนัก ซึ่ง อ.เดวิดไปนั่งรอนอนรออยู่แล้วครับที่รอบไฟนอล เนื่องจากผมแข่งติดกันสองสนามแล้วโดยไม่ได้พัก เขาจึงให้พักได้สิบนาที ผมจะต้องพบกับผู้เข้าแข่งขันอีกคนหนึ่งก่อน แต่เดี๋ยวนะ อะไรนะ คู่แข่งขันบอกกรรมการสนามว่าขอบาย ห๊า แล้วกรรมการสนามก็เรียกผมไปกลางเวทีแล้วจับมือผมชู อ่าว มีแบบนี้ด้วย อะไรเนี่ยๆๆๆ (หน่านี๊ なにィ~~~~)สรุปผมเข้ารอบชิงไปพบกับ อ.เดวิด แบบงงๆ
ตัดมาถึงคู่สุดท้ายรอบชิงฯ ผมกับอ.เดวิด เปิดมาผมพยายาม Pull guard ดึงลงแล้วใช้ขาและเท้าช่วย แต่เนื่องจากผมบื้อเกินไปที่จะหาช่องที่จะ “กวาด” Sweep ลงพื้นเพื่อหาจุดพลิกล่างเป็นบนได้ สุดท้ายก็โดน Side control ไปๆ มาๆ สุดท้ายโดนท่า Americana แพ้ไป
Americana ที่มา https://www.bjjsuccess.com
โอเค สำหรับวันนี้การแข่งของผมก็มีเพียงเท่านี้ ความรู้สึกของผมมันก็สนุกดี ถ้าเปรียบการซ้อมในยิมคือการขับรถแบบปกติ การแข่งมันก็คือรถซิ่งดีๆ นี่เอง มันรวดเร็ว รุนแรง อันตราย แต่มันก็เร้าใจดี
แต่สิ่งที่ผมว่าน่าดีใจที่สุดในวันงานแข่งก็คือการที่ได้เจอกับหลายคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา ที่เคยพบกันเพราะบางคนก็เคยเป็นแขกมาเยือนมาซ้อมที่ยิมที่ผมอยู่ บางคนเคยเห็นหน้าค่าตากันในงานสัมมนาบางงานซึ่งก็ได้มีโอกาสทักทายกัน และก็สุดท้ายนี้ก็คือ อ.เดวิด ที่ได้มีโอกาสสนทนากันเพราะผมเองก็สนใจเรื่องแนวๆ ดาบญี่ปุ่น ด้วยความที่ว่าเมื่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว (ปี 2004 – 2006) ผมเองก็เคยเรียนดาบอิไอที่ญี่ปุ่น (ซึ่งตอนหน้าผมจะพาทุกท่านย้อนกลับไปปี 2004 อีกครั้งว่าด้วยการตามหาวิชาดาบอิไอ) แล้วก็ขออนุญาต อ.เดวิด นำเรื่องราววันนี้มาลงที่ marumura.com สุดท้ายของสุดท้ายคือการรับเหรียญ ซึ่งก็ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกดังนี้ (อ.เดวิด เอื้อเฟื้อรูปภาพ)
เรื่องราวหลักๆ ของงานแข่งก็มีเพียงเท่านี้ ก็สนุกสนานสมกับที่เมื่อวันก่อนแข่งกับวันแข่งต้องควบคุมการกินเล็กน้อย วันก่อนแข่งไม่กินข้าวเย็นเยอะเพราะกลัวน้ำหนักไม่ผ่าน วันแข่งไม่กล้ากินไรมากมากนอกจากข้าวปั้นสามเหลี่ยมเพราะกลัวกินมากแน่นท้อง ชากาแฟก็ไม่กล้ากินกลัวหัวใจเต้นเร็ว เย็นหลังจากแข่งก็ขอจัดเต็มกับเฮียก๊อบและเฮียน้ำ เพื่อนสมัยป.ตรี ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเข้ามาสู่วงการวิชาต่อสู้ ดังรูปข้างล่างนี้
อย่าตกใจ ผมไม่ได้กินคนเดียว
ตอนหน้าผมจะพาทุกท่านย้อนอดีตปี 2004 เดินไปหาที่ฝึกดาบอิไอด้วยกัน พร้อมกับเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ส่วนเรื่องของบีเจเจว่าทำไมถึงจับพลัดจับผลูมาเรียนอะไรแบบนี้ได้ ก็จะหาโอกาสมาเขียนเล่าให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันสนุกๆ ต่อไปครับ สำหรับวันนี้ขอตัวก่อน บอกตรงๆ กลับมาถึงบ้าน ตอนบ่ายๆ ของอีกวันหลังจากแข่ง ขอนอนยาวๆ เลยครับ คร่อก…
เรื่องแนะนำ :
– ปราสาทโอซาก้า วันแดดจ้า และไคยูคัง 20 กุมภาพันธ์ 2004 (2)
– ปราสาทโอซาก้า วันแดดจ้า และไคยูคัง 20 กุมภาพันธ์ 2004 (1)
– ไหว้พระธาตุ ชมตลาดนัด ที่วัดชิเทนโนจิ 21 มกราคม 2004
– คั่นรายการ : ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ร้องไห้หนักมาก
– คั่นรายการ : ไปเดินเที่ยวอุเมะดะ กับ Senri China Town กันสักนิดไหม
#เมื่อผมได้พบกับ “มือดาบซามูไร” ในลานประลองยูยิตสู SIAM CUP BJJ 2020