ถ้าจะพูดถึงตำนาน ความเชื่อและความศรัทธา…ในแต่ละประเทศก็ล้วนมีความเชื่อที่แตกต่างกันไป รวมถึงความเชื่อในเรื่องของเทพเจ้า ที่มีมากมายหลากหลายองค์ ไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศญี่ปุ่น
ถ้าจะพูดถึงตำนาน ความเชื่อและความศรัทธา…ในแต่ละประเทศก็ล้วนมีความเชื่อที่แตกต่างกันไป รวมถึงความเชื่อในเรื่องของเทพเจ้า ที่มีมากมายหลากหลายองค์ ไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศญี่ปุ่นที่นิยมกราบไหว้บูชาเทพเจ้าซึ่งเทพเจ้าที่ชาวญี่ปุ่นให้ความนับถือและนิยมกราบไหว้กันก็มีอยู่เป็นจำนวนมากแล้วแต่ความต้องการ ความปรารถนาถึงสิ่งที่อยากได้ แต่ถ้าจะนับถึงความนิยมแล้วนั้นเทพเจ้าที่คนญี่ปุ่นให้ความนับถือและนิยมกราบไหว้ขอพรก็คงหนีไม่พ้น 7 เทพเจ้าแห่งโชคลาภหรือชิจิฟุกุยิน (Shichi Fukujin) นั้นเอง
https://www.kusuyama.jp/wp-content/uploads/c0072801_3355281.jpg
กำเนิด 7 เทพ
7 เทพเจ้าแห่งโชคลาภหรือชิจิฟุกุยิน (Shichi Fukujin) นั้นประกอบไปด้วยเทพเจ้าจากทั้ง อินเดีย จีน และญี่ปุ่น เข้าด้วยกัน ได้แก่
1.เทพอิบิสุ (Ebisu)
2.เทพไดโกะคุเตน (Daikokuten)
3.เทพีเบ็นเท็นหรือเบนไซเตน (Benzaiten)
4.เทพโฮเตอิ (Hotei)
5.เทพฟุคุโระคุจู (Fukurokuju)
6.เทพจูโรจิน (Jurojin)
7.เทพบิชะมงเตน (Bishamonten)
ตามตำนานกล่าวว่า 7 เทพเจ้านี้ได้ถือกำเนิดขึ้นจากนักบวชชาวญี่ปุ่นนามว่า เท็นเคอิ (Tenkei) ที่ตอนนั้นเป็นเหมือนที่ปรึกษาของท่านโชกุนโทะกุงะวะ อิเอะยะซุ (Tokugawa Ieyasu) ซึ่งนักบวชเท็นเคอินี้เป็นผู้คัดเลือกเทพเจ้าองค์ต่างๆ ที่ได้รับความนับถือจากชาวญี่ปุ่นในขณะนั้นมาถวายแก่ท่านโชกุน เพื่อเป็นเหมือนตัวแทนของคุณธรรมทั้งเจ็ดประการที่จะต้องประกอบได้ด้วย 7 สิ่งคือ อายุยืน, โชคลาภ, ความนิยม, ความเอื้อเฟื้อ, ความจริงใจ, ความมีเกียรติและไม่เห็นแก่ตัว ที่ผู้ปกครองควรจะมีและปฏิบัติต่อราษฎร เพื่อให้ท่านโชกุนได้ทรงทำความเข้าใจและนำไปปฏิบัติ ดังเช่นที่นักบวชเท็นเคอิ ได้เคยแสดงปรัชญาเอาไว้ให้กับท่านโชกุน
ท่านโชกุนได้ทรงชื่นชอบและพอพระทัยเป็นอย่างมากจึงทรงให้จิตรกรในสมัยนั้นนามว่าคาโนะ (Kano Yasunobu) วาดภาพของเทพเจ้าทั้ง 7 องค์ให้รวมกันอยู่ในภาพเดียวกัน และหลังจากนั้นภาพของเทพเจ้าทั้ง 7 ก็แพร่หลาย และได้รับความนิยมอย่างมากสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนั้นเอง
ความเชื่อแห่ง 7 เทพ
ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า 7 เทพแห่งความโชคดีนั้นจะลงมายังโลกมนุษย์ด้วยเรือแห่งมหาสมบัติหรือทาคาระบุเนะ ( Takarabune ) และจะมาเทียบท่าและเยี่ยมเยือนเหล่ามนุษย์ในวันส่งท้ายปีเพื่อแจกจ่ายความสุขให้กับผู้ที่ศรัทธา โดยเด็กๆ และชาวบ้านนิยมนำภาพเรือ Takarabune หรือภาพของบากุ (BAKU หรือตัวกินฝันร้าย) นี้วางเอาไว้ใต้หมอน ในคืนระหว่างวันที่ 1 และ 2 ของเดือนมกราคม โดยมีความเชื่อว่าหากพวกเค้ามีฝันที่ดีในคืนนี้ จะส่งผลให้พวกเค้าโชคดีตลอดทั้งปี แต่มีข้อแม้ว่าห้ามเล่าความฝันนั้นให้คนอื่นฟังเด็ดขาด เพราะถ้าเล่าไปแล้วก็เท่ากับสูญเสียพรที่ได้รับมา แต่ถ้าหากคนไหนฝันร้ายก็ให้อธิษฐานแก่บากุ หรือเอาภาพเรือ Takarabune ไปลอยน้ำเพื่อปัดเป่าให้โชคร้ายหายไป
https://thumbnail.image.rakuten.co.jp
เรือแห่งมหาสมบัติ (Takarabune 宝船)
ในช่วงปีใหม่นั้นเทพเจ้าทั้ง 7 จะลงมายังโลกมนุษย์ด้วยเรือแห่งมหาสมบัติ สาเหตุที่เรือลำนี้ถูกเรียกว่าเรือแห่งมหาสมบัติก็เพราะว่าเทพทั้ง 7 องค์จะนำของวิเศษต่างๆ ใส่ลงมายังเรือลำนี้ด้วย ซึ่งสมบัติต่างๆ เหล่านี้มีอะไรบ้างเราไปดูกันค่ะ
1. หมวกล่องหน (Kakuregasa) และผ้าคลุมล่องหน หรือเสื้อกันฝนแห่งความโชคดี (Kakuremino) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำความดีได้โดยไม่ถูกพบเห็น
2. ผ้าคลุมขนนก (Hagoromo) ผ้าคลุมไหล่ที่จะได้รับเมื่อ ได้รับชัยชนะ
3. ค้อนวิเศษ หรือ ค้อนแห่งความโชคดี (Uchide no Kozuchi) เมื่อเขย่าแล้วจะมีเงินทองไหลมาเทมา
4. กระเป๋าแห่งโชคลาภ (Nunobukuro) กระเป๋าที่สามารถเนรมิตความอุดมสมบูรณ์เช่นน้ำและอาหารได้อย่างไม่สิ้นสุด
5. กระเป๋าเงินไม่สิ้นสุด (Kanabukuro) กระเป๋าแห่งความมั่งคั่ง มีเงินทองเต็มกระเป๋าตลอดเวลาไม่มีวันหมด
6. กุญแจหีบสมบัติแห่งเทพเจ้า (Kagi) กุญแจที่สามารถเปิดประตูสู่คลังสมบัติของเทพเจ้าได้
7. ม้วนผ้าวิเศษ (Orimono) ประกอบไปด้วยผ้าพันคอและเสื้อผ้าที่มีความงดงามวิจิตรที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่โบราณมีความเชื่อว่าช่วยให้ผู้ที่ครอบครองได้รับความเคารพและมีกินมีใช้ตลอดไป
8. คัมภีร์แห่งชีวิตและสติปัญญา (Makimono) หนังสือแห่งสติปัญหาและอายุที่ยืนยาว
ในช่วงปีใหม่แผ่นภาพของเรือมหาสมบัติจะได้รับการตีพิมพ์ขึ้นเป็นจำนวนมากเพื่อให้ชาวบ้านและผู้ที่มีความเชื่อนำไปวางไว้ใต้หมอนเพื่อให้พรแก่ตนเองถ้าหากพวกเค้านั้นฝันดี แต่ถ้าหากเกิดฝันร้ายรูปภาพเหล่านี้ก็จะถูกนำไปลอยน้ำทิ้งนั้นเองค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆ กับตำนานของ 7 เทพแห่งโชคลาภ เทพเจ้าที่ได้รับความนับถือจากชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ตำนานของแต่ละประเทศ แต่ละอย่างก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันไป มันคือเสน่ห์ที่ไอซึคิดว่าหลายๆคนก็คงชอบที่จะอ่านและค้นคว้า ไอซึหวังว่าเพื่อนๆจะได้รับสิ่งที่เป็นประโยชน์จากบทความนี้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ สำหรับวันนี้ไอซึขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ
เรื่องแนะนำ :
– ไม่อยากหมดไฟ อย่าลืมใส่ใจกับปลั๊กไฟในประเทศญี่ปุ่น
– “Huis Ten Bosch” ฮอลแลนด์จิ๋ว in คิวชู
– กลับมาอีกครั้งกับไอเทมสุดแรร์ TRAVELER’S notebook Blue Edition เหล่าสาวกห้ามพลาด!!
– Mamuang Masking Tape น่ารักขนาดนี้ ไม่มีไม่ได้แล้ว
– PUMA x HELLO KITTY คอลเลคชั่นนี้ที่สาวกคิตตี้ไม่ควรพลาด!!
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :
http://www.onmarkproductions.com
https://en.wikipedia.org/wiki/Takarabune