มาต้นเที่ยวญี่ปุ่นช่วงที่ยังไม่เข้าฤดูใบไม้ร่วงดีซะด้วยซ้ำ) .. ใครจะคาดว่าจะมีพันธุ์ไม้งามให้ได้ยลกันเล่า!! แต่ที่ Tottori Hanakairo Flower Park เป็นหนึ่งในสวนดอกไม้ของญี่ปุ่น ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทุกฤดูกาล!! ดอกไม้สดๆ ก็มี.. ดอกไม้ไฟก็จัด.. Illumination ก็ใช่ย่อย (“Flower Illumination of Winter” เขาจัดราวปลายเดือนพ.ย. ถึงเดือนม.ค. จ้า).. และถึงหน้าหนาวจะขาวโพลนไปทั้งภูเขา แต่ในโดมก็ดูได้ นอกโดมก็ดูดี มีดอกบ๊วยที่จะบานช่วงหน้าหนาวนะคร๊าาาาา แจ่ม ว้าว มั่กๆ
เหมือนเดิม.. ก่อนจะไปล่องนาวาในเส้นทาง Setouchi ขอเก็บตกสถานที่น่ายลในจังหวัด Tottori กันก่อน …คราวที่แล้วเราเพลิดเพลินอยู่ในพิพิธภัณฑ์การ์ตูนของ Gosho Aoyama กับถนนสายปีศาจของนักเขียนคนดังอีกคน Mizuki Shigeru นานไปหน่อย รูปเลยเยอะ … จำเลยจึงขออนุญาตมาจบทริป จ. ทตโทริ กันในตอนนี้เจ้าค่ะ

เราอิ่มกับเซ็ตกลางวันข้าวหน้าด้ง (ดงบุริ) จากร้าน Yumigahama มาแล้ว … เราก็ไปเดินย่อยชมความงามของธรรมชาติที่ Tottori Hanakairo Flower Park ค่ะ เป็นสวนดอกไม้เอกชนที่อยู่บนภูเขา วิวทิวทัศน์ดี บรรยากาศสดชื่น มี Greenhouse ที่สร้างเป็น Dome ไว้เลี้ยงต้นไม้เขตร้อน ทำให้คนญี่ปุ่นได้รู้จักกับต้นไม้จากภูมิภาคอื่นของโลก


ภายใน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนั่งชิล ดื่มด่ำ (เรียกว่าอินเลยดีกว่า) กับมวลหมู่พฤกษา … เงียบค่ะ เงียบกริบ
แต่พอพวกเราเข้าไปวงแตกเลย เสียงขรม กว่าเราจะรู้ตัวกันว่าที่นี่ต้องการความเงียบราวกับห้องสมุด ก็หลายนาทีอยู่ ในโดมนี้เสียงจะก้องมาก ชนิดแค่หายใจเสียงดังก็ได้ยินแล้วอ่ะ (อันนี้ไม่ได้เว่อร์ ขนาดคนอื่นกระซิบกัน เรายังได้ยินเลย)


ดังนั้น หลังจากจัดซอฟท์ครีมไปคนละหนึ่ง (นั่งละเลียดด้วยความเรียบร้อย พร้อมก่อเสียงให้น้อยที่สุด) แล้วจึงรีบออกไปอึกทึก กรี๊ดกร๊าดดอกไม้ด้านนอกแทน บอกเลยว่า..ออกจากโดมมาแล้ว หายใจคล่องขึ้นเยอะ 555 ภายในโดมนั้น เหมาะกับคนรักต้นไม้ที่จะมาดื่มด่ำคนเดียวมากๆ หากมามากกว่า 1 คนอย่างเรา ออกไปเฮฮาด้านนอกดูจะเหมาะกว่า)

ช่วงที่ไปนี่ ดอกไม้หน้าตาประมาณดาวกระจาย (คอสมอส) บานกันเพียบเลย และถึงสวนกุหลาบที่อยู่ใกล้ๆ กันจะเล็กไปหน่อย แต่ก็มีหลายสายพันธุ์ดีนะ รู้สึกเสมือนเจ้าหญิง ฮะ ฮะ และเมื่อเดินตามทางไปเรื่อยๆ จะพบอาคารด้านหลังที่มีกระถางลิลลี่วางเรียงรายอยู่มากมาย (อันนี้ก็คงจะแล้วแต่ Season ละนะ)
แต่เป้าหมายของเราคือทุ่งดอกไม้ที่อยู่ถัดออกไปอีก เดินผ่านอาคารนี้ไป… จะได้วิวภูเขาด้านหลังแบบว่าสะใจมาก เราเริ่มเห็นทิวสนสูงก่อน ด้านหน้าทิวสนจะเป็นทางเดินเล่น ให้ถ่ายรูปไม้พุ่มสีสันน่าสนใจทีเดียว ถัดขึ้นไปจะเป็นแปลงดอกคอสมอสสีหวานๆ โดยมี Background เป็นป่าสนเขียวๆ สีตัดกันดีจริงๆ … แต่พอเลี้ยวไปตามทางเดิน สายตาปะทะกับสีแดงเจิดจ้าเข้าแบบเต็มๆ (เรียกว่า “ผงะ” ค่ะ) ใครจะมาที่นี่แนะนำว่าต้องแต่งตัวสีสันเบาๆ ไม่สีขาว ก็จัดสีสดประชันกันไปเลย ฮะ ฮะ ที่นี่เขาทำให้ดอกไม้เป็นดาราจริงๆ โดดเด่นเว่อร์ๆ
ขากลับก็ขึ้นสะพานลอยชมวิวป่าไม้สูงๆ กลับไปด้านหน้าจ้า (มีทางเชื่อมกลับไปที่โดมกระจกด้วย แต่เราเลือกเดินยาวๆ กลับไปที่ประตูหน้าเลยจ้า) ถึงโครงสร้างจะเป็นเหล็กและกระจก แต่ทางเดินเป็นพื้นไม้ทำให้ดูใกล้ชิดกับธรรมชาติและน่าเดินขึ้นเยอะเลย เดินเพลินๆ แทบไม่รู้ตัวว่าเดินระยอดไม้สูงหลายสิบเมตรอยู่ นึกว่าเดินอยู่บนพื้นราบ และระหว่างทางมีร้านกาแฟให้นั่งชิม + นั่งชมวิวด้วยล่ะ ที่จริงถ้ามีเวลาเที่ยวเยอะๆ อากาศดีๆ แบบนี้ จะอยู่ต่ออีกก็ไม่น่าเบื่อเลยล่ะ

มาต้นฤดูใบไม้ร่วงเยี่ยงนี้ (ยังไม่เข้าฤดูใบไม้ร่วงดีซะด้วยซ้ำ) .. ใครจะคาดว่าจะมีพันธุ์ไม้งามให้ได้ยลกันเล่า!!
แต่ที่ Tottori Hanakairo Flower Park เป็นหนึ่งในสวนดอกไม้ของญี่ปุ่น ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทุกฤดูกาล!! ดอกไม้สดๆ ก็มี.. ดอกไม้ไฟก็จัด.. Illumination ก็ใช่ย่อย (“Flower Illumination of Winter” เขาจัดราวปลายเดือนพ.ย. ถึงเดือนม.ค. จ้า).. และถึงหน้าหนาวจะขาวโพลนไปทั้งภูเขา แต่ในโดมก็ดูได้ นอกโดมก็ดูดี มีดอกบ๊วยที่จะบานช่วงหน้าหนาวนะคร๊าาาาา แจ่ม ว้าว มั่กๆ
Tottori Hanakairo Flower Park >>http://www.tottorihanakairou.or.jp/en/
ค่าเข้าชม : 1,000 เยน (เม.ย. – พ.ย.) / 700 เยน (ธ.ค. – มี.ค.)
การเดินทาง : จากสถานี Yonako มี Free Shuttle Bus (ป้ายหมายเลข 5) ที่ป้ายมีตารางเวลาบอกชัดเจน หรือจะดูตารางเวลาในเว็บไซต์ของเขาเลยก็ได้ นั่งไปประมาณ 25 นาทีจ้า
ณ จุดนี้… ไม่ได้แวะชมปราสาทนะคะ (^^) ที่นี่คือ Kotobuki Castle (ตัวอาคารสร้างเลียนแบบปราสาท Yonago โบราณสถานของจังหวัดทตโทริ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันนี้ ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ฐานหิน T_T ) สำหรับที่ Kotobuki นี่อันที่จริงเป็นโรงงานขนมจ้า เปิดมากว่า 20 ปีแล้ว มีของฝากเพียบ ดังนั้น! ได้เวลา Coffee Break & ช้อปปิ้งสิคะ
นอกจากจะเป็นจุดพักรถที่ดี บนถนน Yonago Highway ซึ่งเราสามารถยืดแข้ง ยืดขา เลือกพักจิบชา จิบกาแฟตามใจชอบ ซื้อของฝากอร่อยๆ ได้อย่างเมามันแล้ว ที่นี่ยังมีจุดชมวิว 360 องศาด้วยล่ะ
มีร้านค้าทาโร่ ที่มีสินค้าจากเรื่องคิทาโร่ แต่ก็มีสินค้าจากการ์ตูนเรื่อง Conan และอื่นๆ ด้วย (หน้าร้านมีศาลเจ้าจำลองของเจ้าหนูผี “Nezumi otoko” เอาไว้เรียกแขกด้วย โดดเด่นมาก ฮะ ฮะ ตอนที่เรากำลังเดินสำรวจปราสาทอยู่ เห็นศาลเจ้านี้.. อย่างแปลกใจ 555)
แล้วที่ชั้นซึ่งเป็นจุดชมวิวก็ยังมีศาลเจ้าเล็กๆ อีก ชื่อว่า Tsuiteru Shrine ว่ากันว่าถ้าใครมาตีระฆังที่นี่ พรที่ขอจะสมหวังอ่ะค่ะ … จัดไปสิคะ (^^)/
Kotobuki Castle >>http://www.kotobukijo.jp/en/

แล้วตอนบ่าย ก็แวะไปดูที่พักแห่งหนึ่ง ชื่อว่า Kaike Grand Hotel Tensui (Yonago Kaike Onsen) ดูไว้เผื่อเพื่อนๆ จะมาพัก ใหญ่โต โอ่อ่า อยู่ริมทะเล เหมาะกับคู่รัก คู่ฮันนีมูน และคนที่มาแบบครอบครัวมากนะ (แต่ถ้ามาเดี่ยวๆ แบบเรา ต้องชอบอารมณ์สันโดนหน่อย ไม่งั้น อิจฉาจนเหงาแย่เลย ฮะ ฮะ) แล้วที่นี่ก็อยู่ห่างจากสถานี Yonago แค่ 15 นาทีเอง (แท็กซี่อ่ะนะ)



ห้องพักของนี่มี ก็มีทั้งแบบตะวันตก แล้วก็แบบญี่ปุ่น ห้องอาหารก็กว้างขวาง มีห้องแบ่งย่อย แบบว่าแก๊งค์ใครแก๊งค์มัน…เป็นส่วนตัวดี หรือจะนั่งรวมกันด้านนอก ใกล้ๆ ไลน์บุฟเฟ่ต์ก็ไม่ผิดกติกาแหล่ะ แถมวิวที่นี่ก็ดี อยู่ตรงไหนของโรงแรมก็เห็นทะเลเกือบทั้งหมด เรียกได้ว่ามาที่นี่คือพักผ่อนกันจริงๆ จังๆ เลยล่ะ
ห้องออนเซนใหญ่มองเห็นทะเลชัดเจน ใครสะดวกใจ จะแช่แบบเอ้าท์ดอร์ก็คงฟินอยู่ ทีเด็ดอยู่ที่โรงแรมนี้เป็นเจ้าของแหล่งน้ำแร่ออนเซนของตัวเองซะด้วย คูลปะล่ะ ^^
Kaike Grand Hotel Tensui >>http://www.kaike-grandhotel.co.jp/foreign/tensui/en/

ตอนค่ำเราย้ายมานอนกันที่เมือง Yonago ที่ Hotel Harvenst Inn Yonago เป็นแนวบิสิเนสโฮเทล สะดวกดี เพราะเดินจากสถานี Yonago มาได้แค่นาทีเดียวเองค่าาาาาา แล้วจากโรงแรมแค่ข้ามถนนก็เจอ Aeon Mall แล้วด้วย ช้อปเพลิน..เกินห้ามใจ 555

ส่วนอาหารค่ำเราจัดที่ร้านอิซากายะ (ร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่น) บนถนนที่ตรงมาจากหน้าสถานีเลย แต่ถ้าใครไม่สะดวกมื้อค่ำ ร้านนี้เขาเปิดตอนมื้อกลางวันด้วยล่ะ


มื้อค่ำแบบว่าจัดเต็มมาก… อิ่ม หลับปุ๋ย แทบลืมตื่นตอนเช้าเลยทีเดียว ^^
แต่ว่าเช้านี้ เราจะต้องไปปิดท้ายทัวร์การ์ตูนที่ Tottori กันสักหน่อย ไปไว้ลายสวยๆ กันที่วัดไดเซน (Daisen-ji) ค่ะ ที่นี่เป็นวัดเล็กๆ เงียบสงบ บรรยากาศคล้ายๆ วัดป่าบ้านเรา ตั้งอยู่บนเขาไดเซน (Daisen) ภูเขาสำคัญของจังหวัด Tottori


หนึ่งในห้าวัดย่อย ของวัด Daisen-ji ชื่อว่าวัด Enryu-In มีวิหารที่เพดานเขียนสีด้วยมือเป็นรูปตัวการ์ตูนของ Mizuki Shigeru เต็มเพดานเลยค่ะ (เป็นภาพปีศาจญี่ปุ่นหรือ Yokai จากเรื่อง GeGeGe no Kitaro รวม 108 ภาพ) ถือเป็นจุดไฮไลท์ของที่นี่เลยนะคะ เพราะเห็นหลวงพี่ท่านว่า Mizuki Shigeru มาวาดไว้ให้ด้วยตัวเองเลยล่ะ ทั้งนี้ก็เพื่ออุทิศให้กับพุทธศาสนา เป็นการใช้ภาพวาดตัวการ์ตูนมาสื่อถึงหลักธรรมคำสอนทางศาสนา ใครจะเข้าถึงคำสอน…ก็ต้องนอนหงายมองเพดานกันไปเรื่อยๆ ล่ะค่ะ ไอ้เรานี่ก็นอนชิลจริงจัง ที่จริงก็ไม่อยากลุก แต่อากาศหนาว พื้นมันเย็นไปหน่อย 555 หลังจากการนอนมองเพดานแล้วใช้สมาธิจดจ่อสักพัก สิ่งที่ได้มาคือความงดงามที่เราเห็นได้ด้วยตาแน่ๆ แต่ความงดงามตามหลักคำสอนทางพุทธ… มันไม่ค่อยซาบซึ้งติดสมองมาสักเท่าไร ฮะ ฮะ สงสัยหนูต้องนอนดูกันเป็นวันๆ ล่ะค่ะ (^^)” ที่ระลึกได้มีเพียงประโยคเดียว “มันคือปีศาจในใจมนุษย์ หรือ กิเลสนั่นเอง”



ใครขาชิล ว่าง ก็ไปเดินขึ้นเขาไปแสวงหาสัจธรรม + วิวงามๆ กันตามอัธยาศัย ด้านบนภูเขามีศาลเจ้าที่เป็นที่พำนักของเทพเจ้าแห่งภูเขา ศาลเจ้า Ogamiyama ส่วนข้าน้อยขอบายค่าาาา
ในส่วนของวัดไดเซน ก็มีชื่อเกี่ยวกับพระจิโซ (พระที่คอยคุ้มครอง ซึ่งเรามักจะเห็นประดิษฐานอยู่ตามทางเดินทั่วไปน่ะ) องค์นี้ หลวงพี่ที่วัด Enryu-in ผูกให้กับมือ ท่านว่าจะช่วยคุ้มครองนักเดินทาง ตั้งแต่ได้มา… ถ้าเป็นไปได้ จึงมักจะใช้กระเป๋ากล้องใบนี้ตลอด รู้สึกอุ่นใจ ฮะ ฮะ
อันที่จริงแล้ววัด Daisen-ji มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เก่าแก่มาก ก่อตั้งขึ้นมากว่า 1,300 ปีแล้ว เป็นวัดที่มีความเชื่อในการบูชาภูเขา และแน่นอนว่าวัดไดเซนนี่แหล่ะ เป็นสถานที่หลักสำหรับบูชาภูเขาไดซัง ภูเขาที่ถือว่ามีความสำคัญต่อคนทตโทริมากๆ อย่างที่บอกไปแล้ว ส่วนวัด Enryu-in ถูกสร้างขึ้นเมื่อกว่า 200 ปีก่อน แต่ในปี 2009 ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ค่ะ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันเก่าไปแล้ว อันตรายน่ะ ^^”
ถ้าใครจะมาที่นี่เอง.. ก็นั่งรถบัส (Nihonkotsu Bus) จากสถานี Yonago มาลงที่ป้าย Daisen-ji นั่งไป 50 นาที ลงรถแล้วเดินไป 15 นาที เริ่มสำรวมกันได้ตั้งแต่ลงจากรถเมล์ไปเลย ^^”
Daisen-ji >>http://www.daisenji.jp/ | http://www.enryuin.jp/
ถ้าใครมีเวลาเที่ยวใน จ. Tottori สัก 2 วันอย่างเรา บอกเลยว่าจุดท่องเที่ยวที่เราไปมาแล้วในทริปนี้ ถือว่าไฮไลท์เลยล่ะค่ะ เวลา 2 วัน ถูกใช้ไปแล้วอย่างคุ้มค่าแน่นอน ลองจัดกันดูนะคะ
หลังจากปันใจจากการไปเที่ยวในแถบ Setouchi …โดยย่องไปเที่ยวที่จังหวัด Tottori ในภูมิภาค Chugoku บนเกาะฮอนชูกันมาแล้วสองวัน ได้เวลากินลม ชมวิวทะเลอย่างจริงๆ จังๆ กันแล้วค่ะ มานั่งเรือเที่ยวในทะเลในเซโตะ (Seto Inland Sea) กันค่ะ
จากเกาะฮอนชู จุดที่เราสามารถลงเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะต่างๆ ในทะเลในเซโตะได้ จุดหนึ่งก็คือที่ท่าเรือ Uno ในจังหวัด Okayama ระหว่างรอเรือ แถวๆ ท่าเรือมีร้านอาหารให้เราพอหาอะไรรองท้องกันได้ด้วย ซึ่งอาหารเช้าจากโรงแรมคงหมดฤทธิ์แล้วล่ะ เพราะตอนเช้าเราไปเยี่ยมวัด Enryu-ji กันมาแต่เช้า แล้วยังนั่งรถบัสยาวๆ กันมาจากทตโทริมาถึงโอคายาม่า คงต้องจัดมื้อกลางวันกันแล้วล่ะ จัดกันไปที่ท่าเรือเนี่ยแหล่ะ ร้าน… เป็นร้านอาหารสไตล์ฝรั่งหน่อยนะ

เดินไปประมาณ 200 เมตร อาคารนี้เป็นจุดรอขึ้นเรือไปยังเกาะ มีพิพิธภัณฑ์ย่อมๆ เล่าเรื่องราวของท่าเรือแห่งนี้นิดนึง แต่ประเด็นคือ… ที่นี่มีร้านอาหารสองร้าน แล้วเราก็จัดอาหารตะวันตกกันที่ร้าน Jacasse


สำหรับตอนสุดท้าย ก่อนกลับไทย … เราจะไปนอนที่จังหวัด Kagawa กัน 2 คืน เพื่อให้สมกับการมาเที่ยวแถบทะเลในเซโตะ หรือละแวก Setouchi นี่ เราจึงจะนั่งเรือกลับไปที่เกาะชิโกกุ และแวะเที่ยวเกาะกันด้วย ติดตามกันได้ในตอนหน้านะคะ (^^)/
เรื่องแนะนำ :
– เที่ยว SETOUCHI (5) : บุกทะเลในเซโตะ และไฮไลท์ในจังหวัด Kagawa (เกาะชิโกกุ)
– เที่ยว SETOUCHI (3) : ท่องโลกแห่งตัวการ์ตูนในจังหวัด Tottori
– เที่ยว SETOUCHI (2) : เที่ยวทะเลทราย Tottori
– เที่ยว SETOUCHI (1) : จากชิโกกุสู่ฮอนชู…จังหวัด Tottori
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูล :
http://www.setouchiweb.jp/en/index.html
http://www.tottorihanakairou.or.jp/en/
http://www.kotobukijo.jp/en/
http://www.kaike-grandhotel.co.jp/foreign/tensui/en/
http://www.daisenji.jp/
http://www.enryuin.jp/