วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
เมื่อผมได้พบกับอาจารย์ดี คำภีร์ล้ำเลิศ (?) วิชาหมัด “เซ็นปูเค็น” 旋風拳 ในสวนสาธารณะ
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ชีวิตนักเรียนในญี่ปุ่นของผมนั้น บางทีก็มีเจอเรื่องแปลกๆ อยู่เหมือนกันนะครับ คราวนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับวิชาการต่อสู้ซะด้วย นั่นก็คือเรื่องที่ผมได้ไปเจอกับสำนักวิชา “หมัดวายุ” (เซ็นปูเค็น 旋風拳) ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งไม่ไกลไม่ใกล้จากที่พักของผมเอง
เรื่องของเรื่องคือ มีอยู่วันหนึ่งผมก็เดินเที่ยวเล่น ออกมาจากหอพักแล้วก็เดินมาเรื่อยๆ ทะลุออกมาทางหลังซูเปอร์ “มารุยาสุ” แล้วก็เลี้ยวขวาเดินไปเรื่อยๆ ผ่านหน้า “อาโอดันจิ” 粟生団地 คือหมู่ตึกแฟลตเคหะของเขา เดินไปเรื่อยๆ ผ่านเลยโรงเรียนมัธยมปลายมิโน่ฮิงาชิ เดินไปทางอาโอเกอิน มันก็จะมีสวนสาธารณะเล็กๆ อยู่แห่งนึงนะครับ ชื่อสวนสาธารณะซาระอิเคะ (皿池公園) อย่าตกใจ ผมไม่ได้ความจำดีขนาดนั้น แค่ผมค้นหาด้วยอากู๋เพื่อฟื้นความจำแค่นั้นเองนะครับ
วันนั้นเป็นวันอากาศปกติตอนบ่ายแก่ๆ ในสวนสาธารณะผมก็ได้เจอกับลุงนักบวชคนหนึ่ง ใส่แว่นตากลม หัวล้านๆ คล้ายๆพระ แกมาก่อร่างสร้างสำนักแบบเพิงๆ ที่อยู่อาศัย แบบตามมีตามเกิด มีป้ายแขวนว่า “เซ็นปูเค็น” 旋風拳 ผมเห็นว่าแปลกดีก็เลยสนใจก็เลยเดินเข้าไปคุยกับแกซึ่งก็นั่งอยู่หน้าบ้านนั่นแหละ ผมก็บอกว่าเออผมเป็นนักเรียนต่างชาติมาจากไทยแลนด์ บลาๆ แกก็บอกเอาลองพูดไทยให้ฟังหน่อย ผมก็พูดไปว่าไรจำไม่ได้ แกคงอยากรู้ว่าภาษาไทยฟังแล้วมันเป็นยังไงกระมัง
พอได้ไต่ถามว่าแกเป็นใครมาจากไหน แกก็บอกว่าแกเคยบวชเรียนอยู่ในสำนักโชรินจิเคมโปนี่หละ นัยว่าแต่ก่อนเป็นนักบวชอยู่ในนั้น แต่คล้ายๆ มีเรื่องอะไรไม่พอใจกันสักอย่างนี่หละก็เลยออกจากสำนักมา
พูดเสร็จแกก็เอาหนังสือมาให้ดู มันก็คือหนังสือตำราวิชามวยโชรินจิเค็มโปนั่นหละ มีคำแปะอยู่บนหนังสือว่า “มอนไกฟุชุตสุ” 門外不出 (ไม่แพร่งพรายออกนอกสำนัก)
ว้าว…คำภีร์วิชาลับเลยนะเนี่ย
แกยังคุยให้ผมฟังอีกว่าแกก็อยู่แถวนี้มาเนี่ย เด็กๆ ก็มีมาเล่นกับแก แต่ผู้ปกครองไม่ยอมให้เด็กๆ เรียนวิชากับแก คงเพราะเห็นว่าแกเป็นพวกโฮมเลส แล้วแกก็พูดกับผมว่าสนใจที่จะมาเข้าเป็นศิษย์สำนักแกไหม จะให้เรียนวิชาหมัดมวย นั่งสมาธิ กวาดลานสนาม
โห นี่มันยังกับหนังจอมยุทธ์กำลังภายในเลยนะเนี่ย อาจารย์ดี คำภีร์ล้ำเลิศ นี่ถ้ามีผลไม้วิเศษเพิ่มพลังละก็ มังกรหยก ชัดๆ เลย (ฮา)
…โดยขอคิดสตางค์เดือนละ 5,000 เยน แล้วก็ขอช่วยจดเขียนชื่อกับที่อยู่ด้วย
เดี๋ยวก่อนนะครับ ขอคิดแป๊บ…
5,000 เยนผมก็ว่าแพงแล้วนะ เทียบกับที่ผมไปเรียนดาบอิไอที่บูโดคังอำเภอมิโน่นี่เดือนละพันเยนเอง แล้วก็จะให้จดชื่อที่อยู่ด้วยนี่ ผมก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ แกเป็นใครก็ไม่รู้ไม่ใช่สมาคมไม่ใช่หน่วยงานอะไร เกิดวันดีคืนดีมาเคาะประตูถึงที่หอผมนี่มันจะยุ่ง
(ขนาดผมอยู่หอพักเล็กๆ ปลายนามีแค่ 12 ห้อง ยังเคยเจอไอ้แบบที่น่ากลัวๆ อย่างในการ์ตูนน่ะ ไอ้ที่มาเคาะประตูห้องรบเร้าให้มาสมัครสมาชิกหนังสือพิมพ์อะไรเทือกนี้ เคยเจออยู่สองครั้งแน่ะในช่วงสองปีกว่าที่ออกมาอยู่หอข้างนอกเนี่ย เวลาอยู่หอพักบางทีไอ้การที่มีใบโฆษณาอะไรบางทีเราก็เหวอได้เหมือนกันนะ ถ้าโฆษณาพิซซ่าเดลิเวอรี่ก็ว่าไปอย่าง ผมเคยเจอโฆษณา เอิ่ม ขายบริการแบบนางทางโทรศัพท์ด้วย สังคมญี่ปุ่นเหมือนสงบสุขแต่แอบมีด้านน่ากลัวนะครับ ผมเป็นนักเรียนต่างชาติอยู่ตัวคนเดียว รักษาตัวไว้ให้ห่างไกลจากอะไรต่างๆ เป็นดีที่สุด)
คิดไปคิดมา ผมก็เลยปฏิเสธแกไป
แกก็โกรธหาว่าผมไม่ไว้ใจแก ไม่เชื่อใจแก บลาๆ แล้วแกก็ทำหน้าปั้นปึ่ง ไล่แขก ผมก็ถอยออกมา
แล้วหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันอีก
แล้วหลังจากนั้นอีกสักพัก ผมเดินไปที่สวนสาธารณะนั้นอีกรอบ เพิงของแก เอ้ย สำนัก “เซ็นปูเค็น” หายไปแล้วครับ (ฮา) คาดว่าคงโดนตำรวจไล่ที่
แล้วหลังจากนั้นของหลังจากนั้นอีกที ผมเจอคนหน้าคล้ายแก (อาจจะเป็นแกก็ได้นะ) ยืนแต่งชุดนักบวชรอรับคนมาบริจาคถวายปัจจัยอยู่ ตรงปากทางเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกมิโน่ นั่นหละครับ ผมมองแก แกก็ไม่มีสัญญาณตอบรับว่ารู้จักหรือเคยเห็นหน้าผม เอาเป็นว่าเราไม่รู้จักกันนะครับ (ฮา)
เป็นอันว่าผมพลาดโอกาสที่จะได้กราบอาจารย์ ฝึกวิชาหมัดวายุ แล้วก็จะเป็นจอมยุทธ์แบบในนิยายกำลังภายในไปแล้วอย่างน่าเสียดาย (หรือเปล่าหนอ)
แต่ถ้าเรียนแค่สองสามเดือนแล้วอาจารย์โดนไล่ที่ผมก็คงไม่เก่งพอจะเป็นจอมยุทธ์อยู่ดีแหละครับ (ฮา)
ยิ่งไปกว่านั้น อันตำราวิชามวยโชรินจิ ที่เขาว่า “ไม่แพร่งพรายออกนอกสำนัก” น่ะ มีขายในเว็บหนังสือมือสองด้วยนะครับ ที่ไปเจอมา ด้วยความที่เป็นวิชาลับน่ะนะครับ เลยขายแพงหน่อย ตั้งหมื่นเยนแน่ะ (ฮา)
ผ่านไปสิบสี่สิบห้าปีต่อมา ณ ปัจจุบันนี้ปี 2021 ไม่รู้จะยังมีใครยังหลงใหลในแฟนตาซีเรื่อง “วิชาลับ” กันอีกไหม แต่ผมเลิกสนใจเรื่องแฟนตาซึพรรค์นี้ละ เรียนบีเจเจสบายใจกว่า แหล่งความรู้จำพวกสาธิตกระบวนท่า สอนกระบวนท่า ช่องยูทูปที่เกี่ยวกับ BJJ และคอนเทนต์มีเยอะแยะมากมายจนดูกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว เลยไม่รู้ว่าจะไปเสาะหา “วิชาลับ” ไปทำไม ค่านิยมของคนสมัยนี้มันกลับด้านไปแล้วตามความเจริญของสื่ออิเล็กโทรนิคส์ ของอะไรยิ่งแพร่หลายนั่นหละคือของดี (อะไรที่ยิ่งมีคนนิยมมากยิ่งดี) ส่วนของลับที่คนไม่รู้จักถ้ายังอยู่กันในวงแคบๆ สุดท้ายก็จะหายไปไม่อยู่ในความรับรู้ของผู้คนละ
ในตอนหน้าผมจะมาเล่าเรื่องที่ผมเรียนไอคิโด และทัศนคติที่มีต่อวิชาดังกล่าวรวมถึงความเปลี่ยนแปลงคลี่คลายในทางกายใจทัศนคติจากอดีตมาสู่ปัจจุบันกันนะครับ
เรื่องแนะนำ :
– ตามหาวิชาดาบอิไอ (4) เมื่อผมต้องสอบเลื่อนสาย
– ใบไม้เปลี่ยนสี ที่น้ำตกมิโน่
– จากไทเซน เดชิมารุ ถึงบากิ: ว่าด้วยปรัชญาชีวิตเรื่องชัยชนะและความพ่ายแพ้
– บทความสาระ วิชาการ (ตรงไหน?) : ว่าด้วย “อาหารจีน” ในญี่ปุ่น
– ชีวิตการซูชิและสุราของข้าพเจ้า (2) อยู่ญี่ปุ่นมีอะไรให้ดื่มได้บ้าง
#เมื่อผมได้พบกับอาจารย์ดี คำภีร์ล้ำเลิศ (?) วิชาหมัด “เซ็นปูเค็น” 旋風拳 ในสวนสาธารณะ