เมืองซางะ (Saga) เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว มีสัญลักษณ์เป็นเมืองแห่งปราสาท แต่น่าเสียดายที่ไม่เหลือตัวปราสาทให้เห็นอยู่แล้ว กลางเมืองเป็นพิพิธภัณฑ์ปราสาทซางะ (Saga Castle History Museum) ที่เหมาะสำหรับการชมดอกซากุระ
จังหวัดซางะ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของภูมิภาคคิวชู ทางเหนือมีเมืองท่าคะระทสึ (Karatsu) หันหน้าออกสู่ทะเล ทางใต้มีซางะเป็นจังหวัดศูนย์กลาง หันสู่ทะเลอาริอาเกะ (Ariake Sea) ทางตะวันตกติดต่อกับจังหวัดนางาซากิ ทางตะวันออกติดต่อกับจังหวัดฟุคุโอคะ

เมืองซางะ (Saga) เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว มีสัญลักษณ์เป็นเมืองแห่งปราสาท แต่น่าเสียดายที่ไม่เหลือตัวปราสาทให้เห็นอยู่แล้ว กลางเมืองเป็นพิพิธภัณฑ์ปราสาทซางะ (Saga Castle History Museum) ที่เหมาะสำหรับการชมดอกซากุระ

ที่เมืองคันซาคิ (Kanzaki) ทางตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นที่ซึ่งเหมาะสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงกลางเดือนพฤศจิกายน มีการขุดค้นพบสุสานโบราณที่ใหญ่ที่สุดทางด้านเหนือ (North Tomb) ในพื้นที่ 2.5 ก. ม. ถูกล้อมไว้ด้วยคูน้ำ แล้วยังพบแหล่งโบราณสถานแห่งการสร้างรากฐานอย่างถาวรของญี่ปุ่นต้นยุคยาโยอิ (Yayoi Jidai) ช่วง 300 ปีก่อนคริสตกาลถึงศตวรรษที่ 3 ด้วย มีทั้งบ้านหลุม และหอคอยเฝ้าศัตรู ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ปัจจุบันถูกจัดเป็นสวนประวัติศาสตร์โยชิโนะงาริ (Yoshinogari Historical Park) เพื่อเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ เกิดความเข้าใจในประวัติศาสตร์ยุคต้นของญี่ปุ่น และของโลกด้วย
การเดินทาง จากสถานี JR Hakata โดยสายรถไฟสาย JR Nagasaki ลงที่สถานี JR Saga ใช้เวลา 40 นาที แล้วต่อไปยังสถานี JR Kanzaki อีก 10 นาที เดิน 15 นาทีไปยังสวนประวัติศาสตร์

เมืองท่าโยบุโคะ (Yobuko) ตั้งอยู่ทางเหนือบนคาบสมุทรมัตสึอุระ (Matsuura Hanto) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซางะ เคยเป็นเมืองท่าจับปลาวาฬ ปัจจุบันเป็นตลาดเช้าที่ขายอาหารทะเล ปลาสด ปลาแห้ง อย่างคึกคักสำหรับนักชิม

เมืองท่าคะรัทสึ (Karatsu) ตั้งอยู่ทางตะวันออกบนคาบสมุทรมัตสึอุระ (Matsuura Hanto) ในเขตอุทยานเกนไค ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซางะ มีชายทะเลที่สวยแปลกด้วยหินผารูปทรงต่างๆ ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของคลื่นจากทะเล ในอดีตเคยเจริญในฐานะเมืองท่าแลกเปลี่ยนทางการค้ากับประเทศเกาหลี และจีนแผ่นดินใหญ่
ในเมืองมี ปราสาทคะรัทสึ (Karatsu Castle) ที่ถูกสร้างโดยเจ้าเมือง Terazawa Hirokata เมื่อปี ค.ศ.1602 เป็นศูนย์รวมอำนาจของซามุไร เมื่อ ค.ศ. 1966 ได้รับการบูรณะใหม่ให้เป็นปราสาทสูง 5 ชั้น ชั้นล่างมีห้องแสดงศิลปะทางประวัติศาสตร์ เมืองนี้ยังมีชื่อเสียง ในการผลิตเครื่องปั้นดินเผา (Karatsu Yaki) โดยเฉพาะชุดชงชา มีสถานที่แสดงเครื่องปั้นดินเผาคะรัทสึยาคิ ประมาณ 60 แห่ง บางที่นักท่องเที่ยวสามารถร่วมสาธิตและลงมือทำการปั้นเองได้
การเดินทาง จากสถานี JR Saga นั่งสาย JR Karatsu ลงที่สถานี JR Karatsu ใช้เวลา 1 ช.ม. ถ้าจะไปชมปราสาท นักท่องเที่ยวสามารถต่อรถบัสอีก 10 นาที ลงที่ป้าย หน้าปราสาท Karatsujyo-Iriguchi

เมืองทาเคโอะ (Takeo) อยู่ทางตะวันตกของเมืองซางะ ใกล้เชิงเขาโฮไรอิ (Mt. Horaisan) เป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ (Takeo Onsen) ที่เก่าแก่กว่า 1,600 ปี เคยรุ่งเรืองมาตั้งแต่ยุคเอโดะ
ถัดลงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ยังมีแหล่งน้ำแร่ที่ อุเรชิโนะ (Ureshino) คุณภาพน้ำแร่มีชื่อด้านบำรุงผิวพรรณให้นุ่มลื่นดุจแพรไหม และเมืองนี้มีชื่อในการปลูกชาเขียวตามไหล่เขาด้วย
การเดินทาง จากสถานี JR Saga โดยรถไฟสาย JR Nagasaki Sasebo ลงที่สถานี JRTakeo Onsen ใช้เวลา 1 ช.ม. ถ้าจะต่อไปที่ Ureshino Onsen โดยรถบัส อีก 30 นาที

เมืองท่าอิมะริ (Imari) อยู่ทางตะวันตกตอนบน ตั้งอยู่ริมอ่าวอิมะริจึงมีการติดต่อการค้ากับจีนและประเทศทางตะวันตก ระหว่างศตวรรษที่ 17 – 18 เคยเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นชั้นดีหรูเลิศให้ราชสำนัก และ ภาชนะต่างๆ ที่ในชีวิตประจำวัน ปัจจุบันยังคงเหลือหมู่บ้านโอคะวะจิยะมะ (Okawachiyama) ที่ถูกสร้างกำแพงจากอิฐดินเผา และยังมีเตาเผาเก่าแก่หลายแห่งที่เคยถูกใช้ผลิตผลงานชิ้นเอก เช่น เตาเผา Ironabeshima เตา Nabeshima Sometsuke และเตา NabeshimaSeiji เป็นแหล่งรวมเตาเผาต้นกำเนิดที่สร้างและผลิตโดยช่างชาวเกาหลี

เมืองอะริตะ (Arita) ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุด ในทำเลที่อยู่ใกล้ภูเขาอะริตะอิซึมิยะมะ (Mt.Arita Izumi) ที่ซึ่งช่างปั้นชาวเกาหลีผู้มีชื่อว่า Ri Sampei ได้พบแร่หินขาว จึงได้ใช้เป็นวัตถุดิบในการปั้นภาชนะถ้วยชามผลิตและพัฒนาเครื่องปั้นดินเผาจนเป็นที่รู้จักลือชื่อว่า Arita Yaki ส่งขายจีนและประเทศทางยุโรป ตั้งแต่ต้นยุคเอโดะ เมืองนี้จึงกลายเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาอะริตะยะคิต้นแบบแห่งแรกของญี่ปุ่นโดยช่างชาวเกาหลี เขาจึงได้รับการยกย่องด้วยการสร้างอนุสาวรีย์รูปยืนอยู่ที่ ศาลเจ้าโทซัน (Tozan Shrine) ศาลนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 16 รูปปั้นสุนัขและประตูศาลหน้าศาลเจ้าทำด้วยอิฐดินเผา สร้างโดยฝีมือช่างชาวเกาหลีที่ เมืองคามิอะริตะ (Kami Arita) ในเมืองยัง มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะเซรามิค (Arita Ceramic Art Museum) เป็นอาคาร 2 ชั้นที่จัดแสดงเครื่องปั้นดินเผาอะริตะ นอกเมืองยังเห็นเขาหินที่ถูกกระเบิดเพื่อใช้หินเป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องปั้นด้วย

ส่วนในเมืองอะริตะมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะเครื่องปั้นดินเผาแห่งภูมิภาคคิวชู (Kyushu Ceramic Art Museum) จัดแสดงผลงานเครื่องปั้นทั่วภูมิภาคคิวชู ในวันที่ 29 เม.ย. – 5 พ.ค. ของทุกปีก็จะมีการจัดตลาดนัดเครื่องปั้นดินงเผาอะริตะยะคิด้วย
การเดินทาง จากสถานีฮะคะตะโดยรถไฟสาย JR Nagasaki Sasebo ลงที่สถานี JR Arita ขากลับแวะลงที่สถานี JR Kami Arita ก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 1.30 ช.ม.

เมืองคะชิมะ(Kashima City) เป็นเมืองท่าทางใต้ของเมืองซางะ ใกล้อ่าวอาริอาเกะ เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดเป็น 1 ใน 3 ศาลที่มีชื่อว่า ศาลเจ้ายุโทคุ อินะริ (Yutoku Inari Shrine) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1687เพื่อเป็นที่ประทับแห่งเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ผู้ประทานผลเก็บเกี่ยวอันอุดมสมบูรณ์ คล้ายศาลเจ้าฟุชิมะอินะริในเกียวโต ปัจจุบันมีผู้ศรัทธาไปสักการะขอความสำเร็จด้านธุรกิจการค้า และความปลอดภัยในอุบัติเหตุทั้งปวง
การเดินทาง จากสถานี JR Saga โดยสารรถไฟ JR Nagasaki ลงที่สถานี JR Hizen Kashima ใช้เวลา 20นาที แล้วต่อรถบัสอีก 10 นาที ลงที่หน้าศาลเจ้า Yutoku Inari Jinja แล้วเดินต่อไปอีก 5 นาที
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.asobo-saga.jp/lang/english/about.html
http://www.city.karatsu.lg.jp/foreign/english/index.html
http://www.travel-around-japan.com/k92-00-saga-pref.html
http://jin.jcic.or.jp/en/travel/kyushu/saga/yuutokuinarijinjya_kasima/
http://www.tisapporo.com/blog/gblog.php?blogid=2&archive=2012-05
http://www.roarfish.com/2006/03/japans_four_sea.html
http://sagajou.jp/english/index.html