โอซาก้าเมืองเก่าที่ข้าพเจ้าคิดถึง
ปราสาทโอซาก้า วันแดดจ้า และไคยูคัง 20 กุมภาพันธ์ 2004 (2)
ฟู่ว หลังจากที่หลุดออกมาจากปราสาทมีลิฟท์ เอ้ย ปราสาทโอซาก้า ออกมาได้ ผมก็ได้เดินชมสถานที่อื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณปราสาทโอซาก้า ซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้
อาคารพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้าเดิม อยู่ในเขตกำแพงชั้นในของปราสาทเลย ทีแรกถูกสร้างเพื่อเป็นอาคารกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 กองทัพบกแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่น ต่อมาใช้เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้า แล้วก็ปิดตึกไปเพราะพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้าย้ายไปอยู่อาคารใหม่ไฉไลกว่าเดิมอย่างที่ได้นำเสนอภาพไปเมื่อตอนที่แล้ว จากการค้นหาในกูเกิ้ล ข้อมูลในวิกิบอกว่าปัจจุบันกลายเป็น เอิ่ม กลายเป็นช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ไปแล้วจ้า (จริงดิ) ชื่อ MIRAIZA OSAKA-JO ใครสนใจดูรายละเอียดว่ามีร้านอาหารไหนน่ากินบ้างเชิญชมได้ที่ https://miraiza.jp/
เฮียก๊อบครับ กลายเป็นที่รวมภัตตาคารซะขนาดนี้ ผีคงอยู่ไม่ไหวแล้วล่ะครับ (ฮา)
ก่อนออกจากเขตกำแพงชั้นใน หันไปมองตัวปราสาทให้ชื่นใจหน่อย
แหม ใหม่กริ๊บเชียวนะ ปราสาทโอซาก้า (ฮึ่ม)
เจดีย์การศึกษา 教育塔 (เคียวอิคุโต) สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงดวงวิญญาณของบรรดาครูและเด็กๆ ที่ได้เสียชีวิตในเหตุวาตภัยไต้ฝุ่นมุโรโตะ 室戸台風 เมื่อปีโชวะที่เก้า (ปี 1934)
ศาลเจ้าโฮโคคุ 豊國神社 สร้างขึ้นเป็นเกียรติแด่โทโยโทมิ ฮิเดะโยชิ ไม่ต้องคิดมากครับ ตัวโฮ 豊 ตัวนี้ มันคือ โทโย 豊 ในนามสกุล โทโยโทมิ 豊臣 นั่นแล ไม่ใช่ของเก่าอะไรมาก สร้างขึ้นเมื่อปีเมจิที่สิบสอง (ปี 1879) นี่เอง
เข้าไปชมบรรยากาศในศาลเจ้านิดหนึ่ง
อืม ผมว่าเราไปยังที่หมายต่อไปดีกว่า
ที่หมายต่อไปของผมคือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้า ซึ่งอาคารปัจจุบันก็ไฉไลอย่างที่เห็น
อันนี้แหละครับ พิพิธภัณฑ์ ลืมภาพพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติของกรมศิลปากรไปได้เลย (ฮ่าๆๆๆ)
เมื่อเข้าไปในอาคารก็จะพบสิ่งนี้
มันคือ หลุมปักเสา น่าจะเป็นหลุมปักเสาตั้งแต่ยุคนานิวะโน่น (จริงดิ)
ต้องขออภัยท่านผู้อ่านอีกครั้งว่า เป็นที่รู้กันว่าพื้นที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์นั้นงดถ่ายรูป แต่ผมอยากบอกทุกท่านว่าถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงเกินไป มาเที่ยวปราสาทโอซาก้าทั้งที ควรแวะมาที่นี่ด้วยเพราะอย่างไรก็เป็นทางผ่านตอนจะขึ้นลงรถไฟอยู่แล้ว
การจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์มีความน่าสนใจมากในการนำเสนอ เริ่มจากขึ้นไปชั้นบนสุดค่อยไล่เดินลงมาข้างล่าง มีทั้งหุ่นจำลองบรรยากาศวังนานิวะ (จะเห็นได้ว่ายุคนั้นรับอิทธิพลจีนมาแบบเต็มๆ) แล้วไล่ไปดูประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุในยุคต่างๆ ไล่มาถึงเมืองจำลองให้เห็นสภาพบ้านเมืองยุคโชวะกันเลยทีเดียว ประทับใจตรงมีคำอธิบายว่า พอเมืองโอซาก้าแถบชายฝั่งมีอตุสาหกรรมมาก มลพิษเยอะ คนก็เริ่มหาที่อยู่ชานเมืองขึ้นไปทางเหนือๆ ก็คือขึ้นไปทางแถบเซ็นริ 千里 นี่หละ ผมชอบชื่อ เซ็นริ จังเลย แปลแบบจีนๆ กำลังภายในก็คือ “พันลี้” นั่นแหละ แสดงว่าสำหรับคนสมัยก่อนมันคงห่างไกลมากๆ เพื่อรองรับความต้องการตรงนี้ ทางรถไฟก็ต้องมาสิครับ มิน่า บริษัทรถไฟฟ้าฮันคิว ถึงได้รวยเอาๆ (ฮา) ที่ชอบมากๆ อีกอันก็คือวิดีโอโฆษณารถไฟเก่าๆ ที่มีแบบ “สถานีต่อไป อุเมะดะ 梅田” ผมนี่ชอบจัง
พอดูพิพิธภัณฑ์เสร็จนั่งรถไฟต่อไปไคยูคัง (โอซาก้าอควอเรียม) ต่อเลย
อื้อหือ แดดจ้า
หันไปมองทิวทัศน์ท่าเรือโอซาก้า 大阪港 สักนิด
หลังจากผ่านประตูไปแล้วจะพบร้านขายของที่ระลึกพวกตุ๊กตุ่นต่างๆ แล้วจะมีปลาฉลามวาฬจำลองตัวใหญ่ๆ ให้ถ่ายรูปด้วย เมื่อเดินผ่านไปจะพบกับทิวทัศน์จำลองแบบนี้
และเมื่อเดินเข้าไปอีกท่านจะได้พบกับพระเอกตัวชูโรงประจำไคยูคัง นั่นคือ รักโกะ 海獺 หรือนากทะเล นั่นเอง
ดูมันปล้ำกันก็สนุกดี
ต่อไปแมวน้ำ
ต่อไปปลาบู่?
ต่อไปเพนกวิน เพนกวินที่นี่สู้กล้องทุกตัวครับ
ที่นี่ตู้ปลาใหญ่ดีมากจริงๆ ดูเพนกวินดำน้ำ ดูปลาว่ายน้ำ สะใจมาก
ต่อไปโลมากับกระเบน
ภาพสำหรับการไปครั้งแรก ณ ปี พ.ศ. 2547 พวกภาพสัตว์น้ำมีเพียงแค่นี้ แต่จริงๆ อยากจะบอกว่า ทั้งปราสาทโอซาก้าและไคยูคัง ผมไปมาแล้ว 3 ครั้งในชีวิต เดี๋ยวจะได้นำเสนอภาพและคลิปวิดีโออีกในโอกาสต่อไป ซึ่งภาพต้องดีกว่าเดิมแน่นอนเพราะเวลาเปลี่ยนเทคโนโลยีก็เปลี่ยนครับ บอกอีกนิดว่าการจัดแสดงที่ไคยูคังนั้นเขามีธีมคือ Ring of fire คือสัตว์น้ำในแถบวงกลมแนวภูเขาไฟ ซึ่งก็น่าสนใจ ของแบบนี้ไปดูของจริงได้อารมณ์กว่าแบบที่ภาพหรือคลิปวิดีโอก็ถ่ายทอดไม่ได้ขนาดนั้น
การที่มาเที่ยวตรงนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะการมีโปรโมชั่นจำพวกตั๋ววันที่รวมตั๋วเข้าชมไคยูตังด้วย นั่นคือ โอซาก้าไคยูคิปปุ OSAKA 海遊きっぷ คุ้มจริงๆ สองพันเก้าร้อยเยน เป็นตั๋วนั่งรถเมล์รถไฟฟ้าขึ้นลงได้ไม่อั้น เป็นตั๋วผ่านประตูเข้าชมไคยูคัง แถมมีคูปองส่วนลดค่าผ่านประตูเข้าที่เที่ยวที่คนต้องไป อย่างปราสาทโอซาก้าหรือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้าอีก
เอารูปโอซาก้าไคยูคิปปุที่เคยใช้ ณ ตอนนั้นมาถ่ายรูปลงให้ดูกันเล่นๆ
ดูวันเดือนปีที่สแตมป์แล้วอย่าตกใจนะครับปี 18 ในที่นี้ ไม่ใช่ปี 2018 แต่หมายถึงปีเฮย์เซที่ 18 ซึ่งตรงกับปี 2006 ตั๋วนี้ใช้ตอนเที่ยวตอนปีสุดท้ายก่อนเรียบจบครับ (เป็นการไปครั้งที่ 2 ในชีวิต) ยังอุตส่าห์เก็บไว้เป็นที่ระลึกอยู่ ตั๋วนี้หาซื้อได้ตามเคาน์เตอร์บริการที่สถานีรถไฟครับ ดูในเว็บแล้วปัจจุบัน ณ ปี 2020 ราคาตั๋วชนิดนี้ “สายฮันคิว” ราคาขยับขึ้นเป็น 3,300 เยนละครับ
แถมต่ออีกนิดกับภาพพระเอกละครเกาหลี เปยองจุน (ตัวปลอม) ถ่ายคู่กับปลาปลอมที่ทางเข้าด้านในของไคยูคัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของไคยูคังเขาจะเอากล้องมาถ่าย อัดรูปใส่กรอบกระดาษให้เป็นที่ระลึกในราคาหนึ่งพันเยน เปยองจุน รู้สึกเสียดายสตางค์มากครับ หนึ่งพันเยนกินอะไรได้หลายอย่างในโรงอาหารและร้านข้าวกล่องนะครับ
ตอนหน้าเปยองจุน จะพาทุกท่านไปวัดชิเทนโนจิอีกรอบนะครับ และก็จะพาไปกินเนื้อย่างเกาหลี ย่านทสุรุฮาชิ “โคเรียนทาวน์” ด้วยนะครับ (พอเห๊อะ) สวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– ปราสาทโอซาก้า วันแดดจ้า และไคยูคัง 20 กุมภาพันธ์ 2004 (1)
– ไหว้พระธาตุ ชมตลาดนัด ที่วัดชิเทนโนจิ 21 มกราคม 2004
– คั่นรายการ : ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ร้องไห้หนักมาก
– คั่นรายการ : ไปเดินเที่ยวอุเมะดะ กับ Senri China Town กันสักนิดไหม
– ไปงาน International Day ที่ Hyogo High School (2) เปิดอกพูด
#ปราสาทโอซาก้า วันแดดจ้า และไคยูคัง 20 กุมภาพันธ์ 2004 (2)