กระบองสองท่อน เป็นประวัติศาสตร์ของชาติใดกันแน่? จีน, ญี่ปุ่น, หรือฟิลิปปินส์?
ผู้เขียนค่อนข้างมั่นใจว่าประชากรทั่วโลกในยุคนี้ส่วนใหญ่รู้จัก “กระบองสองท่อน” แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นคอหนังบู๊ฮ่องกง, คอหนัง Action ของตะวันตก, หรือแม้จะไม่ใช่คนที่ดูหนังประเภทต่อสู้ ก็ยังน่าจะเคยเห็นหรือเคยรู้จักอาวุธชนิดนี้กัน ซึ่งอาวุธนี้ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์ลึกลับและน่าสนใจอย่างยิ่ง
หลังจาก Bruce Lee ประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดจากภาพยนตร์หลายเรื่อง ทำให้อาวุธชนิดนี้ได้ผ่านสายตาผู้ชมจำนวนมากทั่วโลก แต่เนื่องจากภาพยนตร์ของ Bruce Lee นั้นมีภาพลักษณ์ที่เป็นฮ่องกง-จีนผสมอยู่มาก ทำให้ชาวโลกจำนวนมากปักใจเชื่อว่าอาวุธชนิดนี้เป็นของจีน (ภาษาจีนแมนดารินเรียกสิ่งนี้ว่า shuāng jié gùn เขียนด้วยอักษรจีนตัวย่อว่า 双节棍) ส่วนชาวญี่ปุ่นก็เชื่อว่ากระบองสองท่อนนี้เป็นของญี่ปุ่นต่างหาก (ภาษาญี่ปุ่นเรียกสิ่งนี้ว่า Nunchaku ด้วยอักษรคะตะกะนะคือ ヌンチャク ไปเลย ไม่ใช้อักษรคันจิ) โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นจำนวนมากที่ฝึกคาราเต้ก็จะมีการใช้กระบองสองท่อนควบคู่ไปกับการฝึกคาราเต้ไปด้วย แต่ในขณะเดียวกัน หมู่เกาะฟิลิปปินส์ก็มีการใช้อาวุธประเภทนี้ในศิลปะการต่อสู้ประจำชาติฟิลิปปินส์ที่เรียกว่า “กาลี (Kali)” เช่นกัน (ชาวฟิลิปปินส์เรียกอาวุธชนิดนี้ว่า ตะบัก-โตโยก) จึงเป็นปริศนาอย่างยิ่งว่าอาวุธชนิดนี้จริง ๆ แล้วเป็นของชาติใดกันแน่?
ต้องมองย้อนกลับไปหลายร้อยปีก่อนหน้านี้ เคยพูดถึงไปแล้วว่าจังหวัด Okinawa นั้นได้ทิ้งมรดกล้ำค่าไว้ให้อารยธรรมญี่ปุ่นหลายอย่าง ทั้งเหล้าอะวะโมะริ ( https://www.marumura.com/awamori/ ) และ ศิลปะป้องกันตัวแบบคาราเต้ ( https://www.marumura.com/karate-in-tokyo-olympics-2020/ ) เดิมทีจังหวัด Okinawa ไม่ได้เป็นประเทศญี่ปุ่น แต่เคยเป็นประเทศเอกราชประเทศหนึ่งที่ชื่อว่า “ราชอาณาจักรริวกิว (琉球王国)” ทว่า แม้จะมีเอกราชเป็นของตัวเอง แต่ก็อยู่ในสถานะเป็นรัฐบรรณาการของจีนในยุคนั้น ราชอาณาจักรริวกิวนี้มีอายุตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 15 และสิ้นสุดลงในปี ค. ศ. 1879 เพราะถูกญี่ปุ่นผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น และถูกเปลี่ยนชื่อกลายเป็นจังหวัด Okinawa ไป
ในศิลปะการต่อสู้โบราณของริวกิวที่เรียกว่า “ที (ティー)” ก่อนที่จะวิวัฒนาการเป็นวิชาคาราเต้ในภายหลังนั้น มีการใช้กระบองสองท่อนเป็นอาวุธด้วย โดยพัฒนามาจากอุปกรณ์การเกษตรหรืออุปกรณ์สำหรับปศุสัตว์ ซึ่งทฤษฎีที่มีน้ำหนักที่สุดในปัจจุบันเท่าที่หลักฐานค้นพบมีอยู่ 2 แนว ทฤษฎีแรกคือเชื่อว่ากระบองสองท่อนพัฒนามาจากอุปกรณ์ปศุสัตว์ที่เรียกว่า “มูเง (ムーゲー)” ซึ่งในไทยเรียกสิ่งนี้ว่า “ไม้ขวางปากม้า”
(ไม้ขวางปากม้า)
ในขณะที่อีกทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่าเจ้ากระบองสองท่อนนี้พัฒนามาจากอุปกรณ์การเกษตรคือ ไม้ตีข้าว หรือไม้ฟาดข้าว ที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า คะระ-ซะโอะ (เขียนได้หลายแบบทั้ง 唐棹 หรือ 殻竿 ก็ได้)
(ไม้ตีข้าว หรือ ไม้ฟาดข้าว)
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ริวกิวเท่านั้น แต่ในศิลปะการต่อสู้ของหมู่เกาะฟิลิปปินส์โบราณก็พบว่ามีอาวุธประเภทเดียวกันที่เรียกว่า “ตะบัก-โตโยก (Tabak-Toyok)” ซึ่งฟิลิปปินส์เองมีลักษณะเป็นหมู่เกาะจำนวนมากมีการต่อสู้เกิดขึ้นทั้งระหว่างหมู่เกาะกันเอง และการต่อสู้กับผู้รุกรานจากภายนอกมาตลอดประวัติศาสตร์ของชาติ จึงมีการพัฒนาศิลปะป้องกันตัวมานับแต่โบราณ โดยเฉพาะศิลปะป้องกันตัวประเภทประยุกต์สิ่งของรอบตัวให้เป็นอาวุธ แต่จุดที่ต่างกันอย่างชัดเจนคือ Nunchaku ของริวกิวนั้นจะมีส่วนของมือจับที่ยาวและมีน้ำหนักมากกว่า รวมทั้งมีเชือกหรือโซ่ที่ผูกกระบองที่สั้นกว่า ในขณะที่ Tabak-Toyok ของฟิลิปปินส์นั้นมีส่วนของมือจับที่สั้นกว่าและมีน้ำหนักเบากว่า รวมทั้งเชือกหรือโซ่ที่ผูกไว้จะยาวกว่า Nunchaku ของริวกิว
ในความคิดของผู้เขียนเองจึงเห็นว่า เป็นไปได้สูงที่ Nunchaku ของริวกิวจะวิวัฒนาการมาจากทฤษฎีแรกคือมาจากไม้ขวางปากม้า เพราะกระบองสองท่อนแนวริวกิวจะมีแนวโน้มที่มือจับจะยาวและมีน้ำหนักมากกว่า เชือกหรือโซ่ที่ผูกกระบองก็มีแนวโน้มจะสั้นกว่า รวมทั้งกระบวนท่าเวลาฝึกจะมีการเหวี่ยงหรือควงเท่ ๆ น้อยกว่า คือเน้นตั้งท่าแล้วฟาดเป็นหลัก (ต่างจากของ Bruce Lee ในภาพยนตร์เลย) จึงมีลักษณะใกล้เคียงกับไม้ขวางปากม้า
(Nunchaku)
ส่วน Tabak-Toyok ของฟิลิปปินส์น่าจะวิวัฒนาการมาจากไม้ตีข้าวหรือไม้ฟาดข้าวมากกว่า เพราะมีส่วนของมือจับที่สั้นกว่าและมีน้ำหนักเบากว่า เชือกหรือโซ่ที่ผูกไว้จะยาวกว่าของ Nunchaku ริวกิว และในศิลปะแบบ Tabak-Toyok ก็จะมีกระบวนท่าเหวี่ยงหรือควงสว่านที่พลิ้ว ๆ มากกว่ากระบวนท่าของ Nunchaku แบบริวกิว จึงมีลักษณะใกล้เคียงกับไม้ตีไม้ฟาดข้าวมากกว่า
(Tabak-Toyok)
ในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าที่สุดเท่าที่พบในปัจจุบันจึงเป็นไปได้ 3 แนวทางคือ 1) ริวกิวคิดค้นขึ้นแล้วถ่ายทอดไปฟิลิปปินส์ หรือ 2) ฟิลิปปินส์คิดค้นขึ้นแล้วถ่ายทอดไปริวกิว หรือ 3) ต่างคนต่างคิดค้นแล้วบังเอิญออกมาเป็นอาวุธที่คล้ายกัน แต่ที่แน่ ๆ คือ “ไม่ใช่ทั้งของจีน และ ไม่ใช่ทั้งของญี่ปุ่น” นั่นเอง เพียงแต่จีนมองว่าริวกิวเคยเป็นรัฐบรรณาการ อีกทั้งหนัง Bruce Lee ก็ดังมาก เลยเนียนบอกว่าเป็นของจีนเสียเลย ส่วนญี่ปุ่นก็ยึดริวกิวให้กลายเป็น Okinawa ไปแล้ว ก็เนียนเคลมว่าของ ๆ ริวกิวก็คือของ ๆ ญี่ปุ่น เช่นกัน เนียนกันทั้งจีนทั้งญี่ปุ่นเลย
ตอนที่ Bruce Lee เริ่มฝึกกระบองสองท่อนนั้น ก็ได้เรียนวิชานี้จากอาจารย์ Dan Inosanto ซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายฟิลิปปินส์ เป็นทั้งอาจารย์ผู้สอนและทำวิจัยด้านศิลปะป้องกันตัวของเอเชีย ดังนั้นวิชากระบองสองท่อนที่ Bruce Lee เรียนนั้นก็ไม่ใช่วิชาแท้ ๆ ของศิลปะการต่อสู้เอเชียประเภทใดประเภทหนึ่ง เพราะ Bruce Lee เองเน้นผสมยำใหญ่หลาย ๆ วิชาอยู่แล้ว กระบองสองท่อนของ Bruce Lee จึงมีลักษณะผสม มีการออกแบบด้ามจับที่ยาวและมีน้ำหนักแบบ Nunchaku ริวกิว แต่ทว่ามีเชือกหรือโซ่ผูกที่ยาวแบบ Tabak-Toyok ฟิลิปปินส์ รวมทั้ง Bruce Lee ก็ใช้กระบองสองท่อนแบบควงมหาวินาศสไตล์ฟิลิปปินส์ชนิดที่ว่าผู้ฝึกคาราเต้ด่ากันเช็ดน้ำว่าคาราเต้เขาไม่เหวี่ยงกระบองสองท่อนกันแบบนั้น!!
ในภาพยนตร์เรื่อง Fist of Fury (ค. ศ. 1972) จึงเป็นสัญลักษณ์ที่เหมาะมากเมื่อ Bruce Lee เลือกใช้กระบองสองท่อนในการต่อต้านญี่ปุ่น เพราะในประวัติศาสตร์จริงนั้น นักคาราเต้ริวกิวเองก็เคยใช้อาวุธชนิดนี้สู้กับดาบซามูไรมาแล้วเมื่อครั้งที่ญี่ปุ่นมารุกรานก่อนจะยึดริวกิวไปเป็นประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน กระบองสองท่อนเองจริง ๆ จึงไม่น่าจะเป็นของจีนไปได้ แต่ความโด่งดังของเรื่อง Fist of Fury นี้ ทำให้ในภายหลังพระเอกดังอย่าง Donnie Yen เอาเรื่องนี้มารีเมคออกมาเป็น Fist of Fury (ค. ศ. 1995) เป็นซีรีส์ยาว และฉากที่พระเอกใช้กระบองสองท่อนไปตะลุยกับญี่ปุ่นนั้นมีบทพูดชัดเจนว่า “กระบองสองท่อนน่ะเป็นของคนจีน ฉันจะสอนพวกแก (พูดใส่ชาวญี่ปุ่นที่เป็นศัตรู) ให้รู้ซึ้งถึงวิธีใช้เอง!” คือเคลมเอาดื้อ ๆ ว่าเป็น “ของจีน” กันเลย
อย่างไรก็ตาม กระบองสองท่อนนั้นกลายเป็นอาวุธของผู้ฝึกศิลปะป้องกันตัวทั่วโลก รวมทั้งสื่อบันเทิงทั่วโลกไปแล้ว จึงมีการคิดค้นหรือผสมสไตล์ใหม่ ๆ ขึ้นมามากมายนับไม่ถ้วน แม้แต่ใช้ในการเต้นหรือ Performance ก็ยังมีเลยด้วยซ้ำ อาวุธชนิดนี้จึงชิงพื้นที่สื่อในภาพยนตร์ Action หรือต่อสู้ได้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จึงไม่จำเป็นแต่อย่างใดที่จะต้องไปนั่งแบ่งแยกหรือแยกแยะว่าใครเลียนแบบใคร ในฐานะผู้ชมเราก็มีความสุขความบันเทิงเมื่อรับชมฉากควงกระบองสองท่อนเท่ ๆ พร้อมบทภาพยนตร์ดี ๆ เราก็มีความสุขกับมันได้แล้ว
ติดตามผลงานเขียนทั้งหมดของวีรยุทธได้ที่ >> https://www.facebook.com/Weerayuths-Ideas
เรื่องแนะนำ :
– ทำไมญี่ปุ่นปัจจุบันในยุคเฮเซ (Heisei) และยุคเรวะ (Reiwa) จึงไม่สามารถรุ่งเรืองได้เหมือนยุคทองอย่างยุคโชวะ (Showa) ที่ผ่านมา
– การตั้งคำถามกับ “ครอบครัวร่วมสายเลือด” และ “ครอบครัวต่างสายเลือด” ในการ์ตูนญี่ปุ่น
– ประวัติศาสตร์สงคราม 3+1 ชาติที่อยู่เบื้องหลัง “บะหมี่ถ้วยนิสชิน”
– ทำไมพระโพธิสัตว์กวนอิมในประเทศญี่ปุ่นถึงมีทั้งปางบุรุษและปางสตรี?
– องค์กรญี่ปุ่นชั้นนำหลายแห่งเริ่มผละออกจาก PDCA แล้วหันไปใช้ O-PDCA และ R-PDCA แทน
#กระบองสองท่อน เป็นประวัติศาสตร์ของชาติใดกันแน่? จีน, ญี่ปุ่น, หรือฟิลิปปินส์?