#ภาวะผู้นำของญี่ปุ่นในวิกฤตโควิด OMICRON
ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. 2021 องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องเชื้อ SARS-CoV-2 ที่เป็นตัวก่อเชื้อ COVID-19 มีการกลายพันธุ์เกิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 หรือชื่อโอไมครอน (Omicron) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้มีการวิเคราะห์ว่าเชื้อกลายพันธุ์ตัวนี้น่ากังวล (Variant of Concern) เนื่องจากเกิดการกลายพันธุ์หลายตำแหน่ง ทำให้หลบหลีกภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ดี แพร่เชื้อได้ไว และวัคซีนโควิดทั้งหมดที่เคยมีมาอาจป้องกันการติดไม่ได้ ส่วนอาการที่เกิดจากสายพันธุ์นี้ยังไม่ค่อยมีข้อมูลมากนีก คาดว่าต้นกำเนิดของไวรัสสายพันธุ์นี้น่าจะมาจากประเทศในทวีปแอฟริกา ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อ Omicron กระจายไปในหลายประเทศ
>> นโยบายป้องกันการเข้ามาของไวรัส Omicron ที่ประเทศญี่ปุ่น
หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นได้รับรายงานเรื่องนี้ รัฐบาลและคณะทำงานรีบมีการประชุม นายฟูมิโอ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นออกแถลงการณ์นโยบายฉุกเฉินสั่งห้ามนักเดินทางต่างชาติเข้าประเทศชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2021 เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักเรียนต่างชาติ และนักศึกษาฝึกงานต่างชาติ ทั้งที่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาญี่ปุ่นเริ่มทะยอยเปิดประเทศให้นักเรียนต่างชาติ และผู้ที่ฝึกงานด้านเทคนิค เดินทางเข้าประเทศได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งปี เนื่องจากการที่มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อลดลง โดยประเทศญี่ปุ่นมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงสุดในบรรดาประเทศกลุ่ม G7 ทำให้รัฐบาลมีนโยบายเริ่มต้นฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งหนึ่งในนั้นรายได้มาจากคนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาด้วยปัจจุบัน (ปัจจุบันญี่ปุ่นมีผู้ป่วยโควิดสะสม 1.7 ล้านคน เสียชีวิต 18,358 ราย)
นายคิชิดะได้อธิบายเหตุผลถึงการตัดสินใจดังกล่าวอย่างชัดเจน มีการให้ข้อมูลเรื่องไวรัสตัวนี้อย่างตรงไปตรงมา เรื่องที่ยังไม่รู้ก็บอกประชาชนตามตรงว่าต้องรอข้อมูลเพิ่มเติม และแจ้งเรื่องมีผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อตัวนี้เดินทางมาจากนามิเบีย กำลังรอผลตรวจ ทางการขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่ในความสงบ สวมหน้ากาก และรักษาระยะห่าง
จากปรากฏการณ์การแสดงออกถึงการตัดสินใจและลงมือทำของนายกรัฐมนตรีประเทศญี่ปุ่นในภาวะฉุกเฉิน ทำให้หมอสนใจเรื่อง “ผู้นำที่ดี” ว่าควรมีคุณลักษณะอย่างไร เลยอยากเล่าให้ฟังค่ะ
>> คุณสมบัติที่ดีที่ผู้นำต้องมี
@ ความซื่อตรง (Integrity)
. เป็นสิ่งที่ทุกคนใน องค์กรจำเป็นต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารระดับสูงที่มีอำนาจในการสั่งการต่างๆและเป็นคนที่ตัดสินใจเรื่องสำคัญขององค์กร
@ การเลือกงานให้เหมาะกับแต่ละคน (Ability to delegate)
. การทำงานต้องทำกันเป็นทีม แต่ละคนมีความสามารถที่โดดเด่นไม่เหมือนกันไม่มีใครสามารถทำงานตามลำพังเพียงคนเดียวได้ เพราะโลกนี้ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ
. ผู้นำที่ดีต้องรู้ว่าคนในทีมเหมาะกับงานอะไร ไม่ใช่มอบหมายงานด้วยความรู้สึกว่าชอบ/ไม่ชอบคนนี้ หรือเลือกเพราะผลประโยชน์ส่วนตัว (conflict of interest)
. ให้คนทำงานมีสิทธิในการตัดสินใจวางแผนทำงานด้วยตัวเอง โดยผู้นำเป็นผู้ชี้แนะ ให้กำลังใจและการสนับสนุน
. สิ่งที่สำคัญ คือ ผู้นำต้องแสดงความเชื่อมั่นในตัวผู้ร่วมงานว่าเขามีความสามารถที่จะทำงานนั้นได้ แม้เขาจะทำผิดพลาดก็สามารถนำปัญหามาพูดคุยกันเพื่อหาวิธีการแก้ปัญหา (collaborative problem solving)
@ ทักษะการสื่อสารที่ดี (Good Communication skills)
. ผู้นำต้องมีทักษะในการสื่อสารให้คนทุกระดับที่ทำงานด้วยมีความเข้าใจตรงกัน เช่น เป้าหมายของการทำงานคืออะไร, วิธีการที่จะใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย, วิธีการแก้ปัญหาต่างๆ รู้ว่าคนไหนต้องใช้วิธีไหนในการบอกอธิบายถึงจะเข้าใจ
. พยายามให้เป็นการสื่อสารสองทาง (2 ways communication) คือ ผู้นำไม่ใช่มีหน้าที่แค่สั่งอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้ร่วมงานด้วย หากมีข้อสงสัยต้องเปิดโอกาสให้ซักถามและอธิบายจนเข้าใจตรงกัน
. เลือกใช้คำพูดที่ฟังแล้วรู้สึกดี พูดทางบวก สร้างแรงจูงใจและกำลังใจให้คนทำงาน
@ การตระหนักรู้ตัว (Self-awareness)
. ผู้นำต้องรู้และเข้าใจข้อดีข้อเสียของตัวเอง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมาก เพราะถ้าผู้นำยอมรับได้ว่ามีปัญหาอะไรและนำไปแก้ไข ทั้งตัวผู้นำเองและผู้ร่วมงานจะมีการพัฒนาที่ดีขึ้น เช่น ผู้นำเป็นคนขี้โมโห -> ต้องไปฝึกทักษะการจัดการความโกรธ (anger management) ครั้งต่อไปจะได้คุยกับผู้ร่วมงานดีๆ เพื่อไม่ให้เกิดความไม่พอใจ/ทะเลาะกัน
@ การแสดงความรู้สึกขอบคุณ (Gratitude)
. การที่งานจะสำเร็จได้ทุกคนล้วนแล้วแต่มีส่วนสำคัญ ผู้นำที่ดีควรพูดคำว่า “ขอบคุณ” แสดงความชื่นชมผู้ร่วมงาน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ทุกคนในทีมก้าวเดินไปสู่เป้าหมายด้วยกัน
@ มีความกระตือรือร้นในการที่จะเรียนรู้ (Learning agility)
. เป็นความสามารถที่จะรู้ว่า “เราไม่รู้หรือทำอะไรไม่ได้” แล้วหาวิธีที่จะเรียนรู้หรือฝึกฝนเพิ่มเติมด้วยความกระตือรือร้น
@ เป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับคนอื่น (Influence)
. ใช้คำพูด การกระทำ หรือวิธีต่างๆที่จะสร้างแรงบันดาลใจที่ดีในการทำงานให้กับผู้ร่วมงาน
เป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงาน
. การเป็นแรงบันดาลใจแตกต่างจากการไปพูดบังคับ เพราะแรงบันดาลใจทำให้ผู้ร่วมงานอยากทำงานด้วยความเต็มใจ โดยผู้ร่วมงานรู้สึกดีและมีคุณภาพของงานที่มีคุณภาพมากกว่า
@ ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy)
. ผู้นำต้องคิดถึงความรู้สึกนึกคิดของผู้ร่วมงานด้วย เพราะเมื่อเราเข้าใจเขาแล้วแสดงความเห็นอกเห็นใจ ผู้ร่วมงานจะรู้สึกว่าผู้นำพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างในวันที่มีปัญหา ทำให้เกิดความศรัทธาและความเชื่อมั่นในตัวผู้นำ ส่งผลให้เกิดความร่วมมือและมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
@ ความกล้าหาญ (Courage)
. เมื่อผู้นำต้องการนำเสนอไอเดียใหม่ๆหรือแจ้งเรื่องราวต่างๆทั้งที่เป็นเรื่องดีและไม่ดี ผู้นำต้องมีความกล้าที่จะพูดออกไป และรับฟังความคิดเห็นหรือยอมรับผลลัพธ์ที่ผู้ร่วมงานแสดงออกมา
@ การให้เกียรติคนอื่น (respect)
. ผู้นำต้องปฏิบัติกับผู้ร่วมงานคนอื่นอย่างให้เกียรติกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ร่วมงานเกิดความเชื่อมั่นและมีทัศนคติที่ดีต่อผู้นำ เมื่อบอกขอความร่วมมืออะไรไป ผู้ร่วมงานจะอยากทำงานให้ด้วยความเต็มใจ
การที่จะได้เป็นผู้นำไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากกว่า คือ “ทำอย่างไรให้เป็นผู้นำที่ดี” ไม่ใช่ว่าใครที่ได้รับเลือกให้มาเป็นผู้นำจะมีคุณสมบัติเหล่านี้ได้ แต่ต้องอาศัยการฝึกฝนพัฒนา รับฟังตำติชม เพื่อนำไปแก้ไข ไม่ทำตัวเป็นน้ำล้นแก้ว
ทักทายพูดคุยกับหมอแมวน้ำเล่าเรื่องได้ที่ www.facebook.com/sealpsychiatrist
เรื่องแนะนำ :
– “ลอยกระทงหลายเวอร์ชั่น: ไทย x ญี่ปุ่น”
– “ป๊อกกี้ช่วยชีวิตในยามจิตตก”
– “เห็ดมัตสึตาเกะไม่ใช่ทรัฟเฟิล แต่เรามีดี”
– “มันเผา เกาลัด ความสุขเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่”
– “ใบไม้ที่ร่วงโรยกับความรักที่จากไป”
คลินิก JOY OF MINDS
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะ
https://www.facebook.com/Joyofminds/
Tel: 090-959-9304
#ภาวะผู้นำของญี่ปุ่นในวิกฤตโควิด OMICRON