ไม่อยากจะเม้าท์แตกหรอกว่าเจ้ารถไฟของบริษัทโอดะคิว (Odakyu) เนี่ย ทำมาเพื่อสายนี้แล้วรวยเลยหล่ะ เจ้ารูทฟูจิ โรปเวย์ฮาโกเน่ กินไข่ดำที่โอวาคุดานิ และนั่งเรือไวกิ้งเนี่ย พูดเลยเคยไปตั้งแต่สมัยละอ่อนมากๆ แต่ครั้งนี้ไม่รู้นึกยังไง เห็นว่ามันมีแพ็คเกจ 2 วันและ 3 วันแล้วราคามันถูกเว่อร์ไปหน่อย เลยต้องจัด นี่ทำเพื่อเพื่อนๆ เลยนะ 555
เคยไปกันมั๊ยฮาโกเน่ ถามว่าไปแล้วได้ขึ้นโรฟเวย์ เคเบิ้ลคาร์ อะไรพร้อมสรรพขนาดนี้มั๊ย ตอบได้เลยว่าถ้าไม่ได้ไปกับทัวร์คงยากสักนิดนึงนะ เพราะว่ามันแพงอ่ะ แต่ไปแบบนี้ ไปแบบไร้ไกด์ มีเพียงแค่แผนที่กับตั๋วที่ขึ้นได้ฟรี 8 ยานพาหนะ ก็เลิศดีนะ 😉
ปกติทัวร์ฮาโกเน่ครบรูท พูดเลยว่าน้อยค่ะ แล้วราคาไม่เคยต่ำกว่าหมื่นสองพันเยน ขนาดวันเดย์ทริปนะ …ถามว่าทำไม? คำตอบคือ การขึ้นอะไรแต่ละอย่างมันต้องใช้สตางค์ไง แต่แหม..มาทั้งที จัดไปเหอะ เชื่อมั๊ยตั๋วนี้คุ้มอ่ะ รักเลย!!!

ไม่อยากจะเม้าท์แตกหรอกว่าเจ้ารถไฟของบริษัทโอดะคิว (Odakyu) เนี่ย ทำมาเพื่อสายนี้แล้วรวยเลยหล่ะ เจ้ารูทฟูจิ โรปเวย์ฮาโกเน่ กินไข่ดำที่โอวาคุดานิ และนั่งเรือไวกิ้งเนี่ย พูดเลยเคยไปตั้งแต่สมัยละอ่อนมากๆ แต่ครั้งนี้ไม่รู้นึกยังไง เห็นว่ามันมีแพ็คเกจ 2 วันและ 3 วันแล้วราคามันถูกเว่อร์ไปหน่อย เลยต้องจัด นี่ทำเพื่อเพื่อนๆ เลยนะ 555
อ้างไปงั้นน่ะ อยากลองของแค่นั้นแหล่ะ แต่พวกเรามีเวลาไม่มากเลยไปได้แค่เช้าเย็นกลับ เสียดายก็เสียดายนะแต่ช่วยไม่ได้เวลาจำกัด
แล้วเดี๋ยวจะมาว่ากันว่าไอ้ทริปนี้มันดียังไงเหมาะกับใครบ้างนะจ๊ะ มากเตรียมตัวผจญภัยไปกับเราสามคนเลยคร้าาาาา

แรกเลยเราซื้อตั๋วนี้มาจาก เว็บไซด์ JAPANiCAN.com ที่นี่อ่ะ >>http://goo.gl/k9Onrk (เว็บเค้ามีภาษาไทยแล้ว) ซึ่งจริงๆ แล้วเพื่อนอาจจะหาซื้อจากที่อื่นได้นะวันนี้ตั๋วที่เราซื้อราคา 5,140 เยน รวมภาษีแล้วนะ เราเดินทางมาแลกตั๋วที่ชินจุกุก่อนเลย เพื่อนๆ สามารถแลกตั๋วล่วงหน้าโดยเอาเจ้าใบที่เราพริ้นท์มาตอนจองมาโชว์ให้เค้าดูที่เคาน์เตอร์ของโอดะคิว ซึ่งอยู่บริเวณ West Exit ตรงข้ามกับทางเข้าจะเป็นนี่เลย ตึกซูบารุที่เป็นรูปร่างเหมือนอาคารรังนกน่ะ





ถ้าใครอยากดูแผนที่เพิ่มเติมดูได้จากเว็บของโอดะคิวนะ มีเป็นภาษาอังกฤษ เข้าใจไม่ยาก (กรณีที่ซื้อแพ็กเกจเค้าจะแถมแผนที่ ถ้าไม่ได้ซื้อดูลิงค์นี้เลย)
:-http://www.odakyu.jp/english/deels/freepass/hakone/pdf/map-freepass_hakone-en.pdf
หากใครอยากจะนั่งโรมานซ์คาร์ก็ไม่ยากเพิ่มเงินเพียง 890 เยนต่อเที่ยว ซึ่งยังไงก็เรียกว่าคุ้มอยู่ดีนะ จุดนี้ไปถึง Odawara ใช้เวลา 75 นาที

ที่สำคัญวันนี้เราได้กิ๊ฟวอยซ์เชอร์มา 500 เยน คร้าาาา เป็นตั๋วเงินสดที่เอาไปซื้อของทานเล่นๆ ที่สถานีฮาโกเน่ ยุโมโตะ (Hakone Yumoto)








มามะ พวกเรา ขึ้นเราไปไปสถานี Gora กัน ถามว่าไปทำไม เราจะไปขึ้นตามรูทเค้าน่ะ ไปเพื่อจะไปขึ้นเคเบิ้ลคาร์ ซึ่งจริงๆ แล้วใครจะไปตรงข้ามย้อนเส้นทางกันก็ไม่ผิดนะ แต่เราค่อนข้างหิว เลยมาขอจัดขนมก่อนเลยต้องมาตามรูทน่ะ
เอาหล่ะ เราขึ้นรถไฟเล็กๆ ขบวนนี้แหล่ะ คนเยอะมากทุกเที่ยวทุกขบวน เราต้องใช้เวลาถึง 40 นาทีนะ รวมทั้งหมดที่เราใช้เวลาเดินทางก่อนขึ้นเคเบิ้ลคาร์ก็ประมาณ 135 นาทีนะ

การขึ้นรถในมุมสูงมันก็ดีนะ 5555 รู้สึกตื่นเต้นดี ดีๆ กว่าขึ้นรถไฟธรรมดาหน่อยนึง แต่ยอมรับเลยอากาศค่อนข้างเย็นกว่าด้านล่างจริงๆ

ก่อนนั่งไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเลย แต่พอกำลังจะขึ้นรถเท่านั้นแหล่ะ เห็นมันเหินๆ นิดๆ ก็ใจหวิวๆ อย่างว่าป้าแก่แล้วไรแล้ว 555


เราต้องลงที่โอวาคุดานิ เพื่อจะไปทานไข่ดำกัน ไหนๆ มาแล้วเราต้องขึ้นไปด้านบนหน่อย ซึ่งจริงๆ แล้วเวลาก็ไม่ค่อยมีเท่าไหร่นักหรอก แต่อ่ะ!! เพื่อให้เพื่อนๆ ได้รับรู้เราจัดให้


จัดไข่ดำค่ะ แต่สองสาวจัดซอท์ฟครีมกัน มีสองรส มีวาซาบิ กับรสกำมะถัน 555 มันเป็นสีดำอ่ะ ไม่รู้จะเรียกว่ารสอะไร แต่ลองละ ไม่ค่อยเวิร์คอ่ะ แต่ถ้าใครอยากลองก็โอนะ




เอาค่ะ เมื่อเราเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นโรฟเวย์ไปต่อเลยค่ะ จุดหมายเราจะไปขึ้นเรือไวกิ้ง โรฟเวย์จะจอดสองป้ายนะคะ เราลงป้ายที่สอง สุดสาย ขณะที่เรานั่งโรฟเว์นั้น เป็นเวลาที่ช่างลุ้นระทึกว่าเราจะขึ้นเรือเที่ยว 5 โมงเย็นทันไหม ซึ่งนั่งไปวิวก็สวยนะ เราก็ถ่ายรูปไปพลางๆ แต่ใจนี่ ค่อนข้างลุ้นระทึกทีเดียว 555
เมื่อถึงสถานี Togendai Ko ก็ดันเหลือเวลาอีก 3 นาทีเรือจะออกซึ่งเราทำได้ดีที่สุดคือการวิ่ง คือถ้าพลาดจะเจอเรือเที่ยวสุดท้ายเลย ตอนห้าโมงครึ่ง ซึ่งเราจะทำอะไรถึงครึ่งชั่วโมง เราวิ่งไปก็บอกกับคนดูแลท่าเรือซึ่งเค้าประกาศว่าเราจะออกในอีก 1 นาที ซึ่งดิฉันกำลังถึงจุดแสดงตั๋ว ก็บอกว่า “คุณคะฉันจะทันมั๊ย” เค้าตอบว่า “ทันๆ แต่อีกสองคนที่ไกลๆ นั่นเพื่อนคุณหรือเปล่า” คือเราต้องเอาตัวเข้าแลกค่ะ เพราะเราจะไวกว่าอีกสองคนที่มาจากไทยนิดนึง ก็ตอบไปว่าใช่ค่ะ บอกเรือรอด้วย เค้าก็วิทยุบอกให้ เชื่อไหมคะ พอขาสามคนก้าวพ้นท่าเรือนะ เรือออกเลย 555 พวกเราคือกระเหรี่ยงจริงๆ อะไรจริงๆ

แต่มันคุ้มมากอ่ะ เวลานี้เลยกำลังสวย แต่เสียดายตั้งแต่โรฟเวย์แล้วเราไม่เห็นภูเขาไฟฟูจิ เสียใจนิดนึง วันนี้นางบดบังตัวเองด้วยเมฆก้อนโต ก็เอาเหอะ แถมเรือที่เราขึ้นลำนี้ยังเห็นเสาโทริไกลๆ อีกด้วย แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราเลือกไม่ได้เพราะเราต้องรีบอ่ะ


เรือสามารถลงได้สองจุดเลยนะคะ มีรถบัสบริการทั้งคู่เลย ทั้ง Motohakone Ko และ Hakone Machi Ko โดยเมื่อขึ้นมาจากเรือแล้ว จากนี้ไปเราต้องต่อรถบัส ซึ่งเราสามารถเลือกไปได้สองสายคือสายสีม่วง KANKO SHISETSU MEGURI Bus และสายสีฟ้า Hakone Tozan Bus ที่จะเป็นสายที่ไปลงที่สถานี Hakone Yumoto ใช้ได้ทั้งคู่ เราสามารถเลือกไปได้ตามสะดวกเลย รถคันไหนว่างกว่าเราจัดเถอะค่ะ จุดนี้ไม่มีอะไรจะเสีย 555

จากนั้นเมื่อถึงแล้วเราก็มาลงที่ Hakone Yumoto เลยค่ะ สำหรับใครที่นอนค้างที่นั่นก็นั่งบัสสายต่างๆ ไปยังโรงแรมหรือเรียวกังได้ฟรีนะ
ตอนนี้เรารู้สึกว่าอยากขึ้นโรมานซ์คาร์สะอย่างงั้น เราเลยจัดค่ะ โดยเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเพิ่มเงิน 890 เยน เพราะเราจะถึงที่หมายสบายผิดกัน 555
คนเค้าก็เอาของไปทานบนรถไฟกันเยอะมากนะคะ การเดินทางก็หนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ค่ะ ไม่ได้เร็วกว่ากันมาก แต่เรียกว่าสบายๆ เหมือนนั่งรถเมล์ กับเปลี่ยนมานั่งเบนซ์ เอ..เราพูดเวอร์ไปป่ะ 555 บนรถจะโอ่อ่าแบบนี้แล้วยังปรับเบาะให้นั่งเข้าหากันสี่คนได้ด้วยนะ แต่เราไปช้า รถกำลังจะออกไม่ได้ถ่ายหน้าขบวนด้านนอกให้ดูวิ่งสิคะ ตอนนี้เลยได้แต่ด้านใน แต่ยอมรับทริปนี้ถึงจะเห็นวิ่งๆ กันแบบนี้สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบอกต่อเลย

เมื่อขึ้นรถได้ก็หลับไปสิคะ จุดหมายเรากลับไปที่เดิมเลย ชินจุกุ เมื่อถึงแล้วเค้าก็จะปั๊มให้เราว่าตั๋วเธอใช้ไม่ได้แล้วนะ จะมาพรุ่งนี้ไม่ได้แล้ว อะไรแล้ว ก็นับว่าพวกเราสนุกสนานกันมากๆ ค่ะ อากาศก็ดี๊ดี และได้ขึ้นยานพาหนะหลากหลายมากๆ ในราคาที่ไม่แพงมันคุ้มมากยิ่งถ้าใครมีเวลานอนที่นั่น สักคืนนะ จะคุ้มมากๆ กว่านี้อีก ถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากไปก็ลองดูนะคะ มันต้องใช้พลังในการเดินทางนิดนึง เหมาะสำหรับคนที่พร้อมจะเดินนะ อยากให้เพื่อนๆ ออกกำลังกายสักนิดนะ
วันนี้ก็ขอตัวไปแช่ออนเซ็นที่กุมมะก่อนนะ เพราะเพลียมา 1 วัน ต้องรีเฟรชตัวเองสักหน่อย บ๊าย บาย!!!
ทักทายพูดคุยกับ Nat Nana ได้ที่ >>> Facebook ไม่ใช่กรูรู แต่กรูรู้ ของถูกในโตเกียว