วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (49) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): หนึ่ง บทนำ
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน เข้าสู่ปี พ.ศ. 2566 กันแล้วนะครับ จะขอเริ่มปีนี้ด้วยการขึ้นเนื้อหาของ “คัมภีร์แห่งเตโช” นะครับ ซึ่งเนื้อหาสาระจุดมุ่งหมายของคัมภีร์นี้จะเป็นอย่างไรขอเชิญอ่านกันได้เลยนะครับ
คำแปลข้อความต้นฉบับ
火の巻
คัมภีร์แห่งเตโช
一 序
หนึ่ง บทนำ
`二刀一流の兵法戦の事を火に思ひとつて戦勝負の事を `火の巻 `として此巻に書顕す也 `先世間の人毎に兵法の利をちひさく思ひなして或は指先にて手くび五寸三寸の利を知り或は扇を取てひぢより先の先後の勝を弁へ又はしないなどにてわつかのはやき利を覚え手をきかせ習ひ足をきかせ習ひ少の利の早き所を専とする事也 `我兵法に於て数度の勝負に一命をかけて打合生死二ツの理をわけ刀の道をおぼえ敵の打太刀の強弱を知り刀のはむねの道を弁へ敵を打果所の鍛錬を得るにちひさき事弱き事思ひよらざる所也 `殊に六具かためてなどか利にちひさき事思ひ出る事に非ず `更に命をばかりの打合に於て一人して五人十人共戦ひ其勝道を慥に知る事我道の兵法也 `然るによつて一人して十人に勝ち千人を以て万人に勝つ道理何の差別有んや `能々吟味有べし
(เมื่อได้) นึกเรื่องของการศึก พิชัยสงครามของสำนักนิโตอิจิริวว่าเป็นไฟแล้ว จึงเอาเรื่องของการแพ้ชนะการศึก มาเขียนสำแดงในหนังสือนี้เป็น “คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ)” ก่อนอื่น ผู้คนในโลกนี้ มักคำนึงถึงประโยชน์ของพิชัยสงครามเพียงแต่น้อย บ้างก็อาศัยปลายนิ้ว รู้ประโยชน์ของข้อมือห้าหุนสามหุน บ้างก็จับพัดโบก รู้ซึ้งซึ่งชัยชนะก่อนหลังของปลายจากข้อศอก (แผลงเป็น รู้แบบผิวเผิน) หรืออาศัยชิไน (ดาบไม้ไผ่) เป็นต้น จำได้หมายรู้แค่ประโยชน์เร็วไวอันน้อยนิด เรียนใช้มือให้ถนัด เรียนใช้เท้าให้ถนัด เอาที่เร็วไวของประโยชน์เล็กน้อยมาเป็นข้อใหญ่สำคัญ ในพิชัยสงครามของข้าฯ ได้เดิมพันหนึ่งชีวิตตีกันในการสู้เอาแพ้ชนะมาหลายหน จำแนกหลักทั้งสอง (คือ) เป็นกับตาย จำได้้หมายรู้ซึ่งวิถีแห่งดาบ รู้ความเข้มแข็งอ่อนแอของทะจิที่ตีของศัตรู รู้ซึ้งซึ่งวิถีของสันดาบ (แผลงเป็น ทางดาบ) ได้ซึ่งการฝึกฝนที่ซึ่งจะตีศัตรูให้เป็นผล ไม่คิดเถลไถลไปถึงเรื่องเล็กน้อยเรื่องอ่อนแอ โดยเฉพาะหาใช่ทำเครื่องป้องกันทั้งหก (โรคุกุ 六具) ให้แข็ง (ให้กระชับ) นึกออกเรื่องที่มีประโยชน์เล็กน้อยไม่ ยิ่งกว่านั้น ในการตีกันโดยมุ่งเอาชีวิตอย่างเดียว (นั้น) แม้ตัวคนเเดียวสู้ห้าคนสิบคน การรู้ทางชนะให้แม่นมั่น คือพิชัยสงครามของวิถีของข้าฯ ดังนั้น หลักการที่ตัวคนเดียวชนะสิบคน อาศัยพันคนชนะหมื่นคน (นั้น) ไม่มี่ที่ต่างอะไรกัน ควรคิดพินิจให้ดีๆ
`去ながら常々の稽古の時千人万人を集め此道し習ふ事成事に非ず `独太刀を取ても其敵々の智略をはかり敵の強弱手だてを知り兵法の智徳を以て万人に勝所を極め此道の達者となり我兵法の直道世界に於て `誰か得ん `又 `何れか極めん `と慥に思ひ取つて朝鍛夕錬して磨きおほせて後独自由を得自ら奇特を得通力不思議有所是兵として法をおこのふ息也
กระนั้น ยามฝึกเรียนตามปกติ (ถึง) จะรวมกันพันคนหมื่นคน การเรียนวิถีนี้จะสำเร็จก็หาไม่ แม้จับทะจิเดี่ยวๆ หยั่งปัญญากลยุทธ์ของศัตรูทั้งหลาย รู้มือที่เข้มแข็งอ่อนแอของศัตรู อาศัยปัญญาคุณความดีของพิชัยสงคราม ยังให้ถึงที่สุดซึ่งที่ชนะหมื่นคน เป็นผู้บรรลุซึ่งวิถีนี้ ในโลกของวิถีตรงของพิชัยสงครามของข้าฯ จงคิดเอาให้แม่นมั่นว่า “ใครหรือจักได้” “อันใดหรือจักยังให้ถึงที่สุดได้” เช้าฝึกเย็นฝน ขัดเกลาให้เกิดผลแล้ว จักได้อิสระเดี่ยวๆ ได้คุณวิเศษแก่ตน มีอภิญญาอัศจรรย์ นี้เป็นลมหายใจในการปฏิบัติซึ่งหลักในฐานะทหาร
การตีความและอภิปราย
…เอาจริงๆ นะครับ…
ทีแรก ผมมีความลังเลที่จะเขียนถึง “คัมภีร์แห่งเตโช” ด้วยซ้ำ เพราะเกรงว่า “ภูมิความรู้” ของตนเองจะ “ไม่เพียงพอ” กลัวว่าถ้าเขียนอะไรที่พรรณนาสิ่งที่มันเกินความรู้ความเข้าใจของตัวเองมากไป จะกลายเป็น “อวดอุตริมนุสธรรม” ไปเสียเปล่าๆ
…เพราะผมถือว่า “คัมภีร์แห่งเตโช” นั้นเป็นขั้นของ “สายม่วง” ในขณะที่ตัวผมยังอยู่ที่สายน้ำเงินเท่านั้น
แต่ผมก็คิดดูแล้ว ถ้าเราคิดจะมองไปข้างหน้า เราก็ควรศึกษาไว้ก่อน เรียนไปก่อนได้มากได้น้อยก็แล้วแต่ ดีกว่าไม่คิดเรียนเอาเสียเลย ฉะนั้นก็ให้ถือเสียว่าผมเองก็ยังคงเป็นผู้ศึกษาอยู่ (มิใช่อาจารย์) ผมอาจผิดตกก็ได้ ก็ขอโปรดให้อภัยด้วย
หลังจากการแข่งขันคราวล่าสุดที่ผ่านมา ผมให้ความสนใจกับเรื่อง จิตใจ ทัศนคติ มากขึ้น สำหรับคนหนุ่มสาว ที่เป็นสายขาว การพัฒนาเทคนิค (กระบวนท่า) นั้นมาจาก “กาย” ก่อน คือร่างกายได้ (มีความแข็งแรง ยืดหยุ่น คล่องแคล่ว) เทคนิคก็ได้ แต่สำหรับผมด้วยอายุและด้วยขั้นที่จะต้องปีนให้สูงขึ้นไป มันพบกับตัวเองแล้วว่า กายถึงจะพัฒนาไปเพียงใดมันก็มีขีดจำกัด “เพดาน” ของมันอยู่ ฉะนั้นจึงต้องเปลี่ยนมุมเข้าทำ จากการเอากายมาก่อน เป็น เอา “จิต” มาก่อน คือใจต้องได้ก่อนแล้วเทคนิคถึงจะตามมา ใจในที่นี้ก็มีได้หลายแง่ คือสติด้วย การสนใจใส่ใจในรายละเอียดด้วย การทำจิตใจให้โล่งและลื่นไหลด้วย ว่าแล้วผมจะขอยกข้อความจากบทความ เรื่อง The BJJ Belt System – The Mental Attitude For Each Belt มาอธิบายนะครับ
กล่าวโดยย่อสุด
สายขาว ไม่รู้ตัวว่าตัวเองไม่รู้ (อะไรบ้าง) เพราะ “ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง”
สายน้ำเงิน รู้ตัวว่าตัวเองไม่รู้ (อะไรบ้าง) เพราะ “รู้เป็นบางอย่างแล้ว” เลยเห็นส่วนที่ตัวเองไม่รู้
สายม่วง รู้ตัวว่าตัวเองรู้ (รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง)
สายน้ำตาล ไม่รู้ตัวว่าตัวเองรู้ (บางอย่างมันทำได้ของมันเอง แต่อธิบายไม่ได้)
สายดำ แค่รู้ตัว เท่านั้น
ผมอ่านถึงตรงนี้แล้ว ทำไมนึกถึงคำนี้ก็ไม่รู้
“อาจารย์เซนท่านหนึ่งบอกว่า เมื่อแรกก่อนปฏิบัติเซน เห็นภูเขาเป็นภูเขา เห็นแม่น้ำเป็นแม่น้ำ พอปฏิบัติเซน ก็เห็นภูเขาไม่ใช่ภูเขา แม่น้ำไม่ใช่แม่น้ำ แต่พอบรรลุธรรม ก็เห็นภูเขาเป็นภูเขา เห็นแม่น้ำเป็นแม่น้ำอีก”
จากเท่าที่อ่าน และเท่าที่ได้โรลกับสายม่วง สายม่วงมีความลื่นไหลมากกว่า มีความรู้ในกระบวนท่ามากกว่า สามารถดักจังหวะ สลายกระบวนท่าได้ดีกว่า และมีความลื่นไหลต่อเนื่องในการเปลี่ยนแปลงจากกระบวนท่าหนึ่งไปอีกกระบวนท่าหนึ่งได้ดีกว่า (smoothness) เพราะมีความรู้และทักษะในกระบวนท่า มากกว่าสายน้ำเงิน ฉะนั้น เมื่อผมรู้เช่นนี้แล้ว ผมก็ต้องฝึกเรียนกระบวนท่าให้หลากหลาย ลองทำสิ่งที่ยังทำไม่ได้ให้มันได้ ปัญหาของสายน้ำเงินคือบางอย่าง “รู้” แต่ทำไงจะ “ปฏิบัติได้”…บรูโน่ สายดำที่มาซ้อมกับยิมผม บอกว่า แกจากขาวไปน้ำเงิน สองปี แต่จากน้ำเงินไปม่วง สี่ปี เลยนะครับ มันก็มีเหตุผลของมันอยู่
ก่อนปิดท้ายวันนี้ ผมขอเสนอเกร็ดความรู้นิดนึงนะครับ คำว่า “เครื่องป้องกันทั้งหก” (โรคุกุ 六具) นั้น เป็นส่วนต่างๆ ในชุดเกราะแบบญี่ปุ่น อันประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้
โด 胴 คือเกราะปิดลำตัว
โคเทะ 籠手 คือเกราะป้องกันแขนถึงมือ
โซเดะ 袖 “แขนเสื้อ” คือเกราะกันตรงไหล่ เอาไว้กันธนู
วาอิดาเตะ 脇楯 “โล่สีข้าง” เป็นแผ่นปิดสีข้างขวา
ฮาอิดาเตะ 脛楯 “โล่ขาอ่อน”
สึเนะอาเตะ 脛当 “สนับแข้ง”
เครื่องป้องกันทั้งหก (ยกเว้น วาอิดาเตะ 脇楯) ที่มา antiques-store.com
วาอิดาเตะ 脇楯 “โล่สีข้าง” ที่มา touken-world.jp
ก่อนจะจากกันวันนี้ อดที่จะขอแทรกเรื่องนี้ไม่ได้ ผมดูคลิปนี้แล้ว…
นาทีผู้โดยสารโวย ถูกกระเป๋ารถเมล์ไล่ลงรถ เหตุไม่ใส่แมสก์ หวิดวางมวย
ผมทำไมนึกถึงคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุขึ้นมาก็ไม่รู้นะว่า…
ไอ้ความกลัว มันคือความโง่ กลัวอะไรที่มันไม่มีตัวมีตน กลัวผี กลัวความมืด กลัวอะไรที่ไม่มีตัวตนยิ่งคือความโง่มาก แต่ถึงกลัวสิ่งที่มีอยู่จริงที่เจอเฉพาะหน้านี้ มันก็ยังเป็นความโง่อยู่นั่นแหละ ลองคิดดูเฮอะ
พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– (เรื่องแทรก ส่งท้ายปี) SIAM CUP (2022 WINTER EDITION) สยามใจ เสร็จแล้วไป SIAMDOL CAFE!!
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (48) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบแปด ปัจฉิมลิขิต
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (47) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบเจ็ด สิ่งที่เรียกว่าตำแหน่งสื่อตรง
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (46) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบหก สิ่งที่เรียกว่าการตีอันหนึ่ง
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (45) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สามสิบห้า เรื่องของประโยชน์ของการตีประสาน
#มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (49) คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ): หนึ่ง บทนำ