วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (16) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): เรื่องของการใช้เท้า
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน พ้นจากสงกรานต์มาในที่สุดผมก็ได้กลับไปซ้อม bjj แล้วเป็นครั้งแรกในสองสัปดาห์ ช่วงนี้พยายามเล่นแบบ safe mode มากเพราะอุตส่าห์ซ่อมร่างแล้วไม่อยากต้องกลับไปซ่อมอีก (โค้ชบอกว่าการจัดกระดูกไม่ใช่ของที่จะทำบ่อยๆ ได้) เลยต้องถนอมร่างนิดนึง
ช่วงนี้เริ่มคิดถึงเรื่องสุขภาพแบบองค์รวมมากขึ้น ทั้งเรื่องกินและนอน สิ่งแรกคือพยายามลดน้ำหนักให้กลับไป 78-79 ได้ (คือต้องต่ำกว่า 80) ท่านผู้อ่านครับ ผมจริงๆ ลึกๆ กลัวโรคภัยไข้เจ็บที่มากับความแก่ ความเสื่อมของร่างกายนะครับ นี่ไม่รู้ว่าต่อมลูกหมากจะโตเมื่อไหร่ 555 เหมือนจากนี้ไป “การต่อสู้” กับร่างกายตัวเองมันคงจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ มันคงเหมือนเกม Temple Run ที่ลูกผมเล่นนั่นแหละ “จะไปได้ไกลแค่ไหนก่อนที่จะเกมโอเวอร์” แต่ตราบใดที่เรายังเป็นมนุษย์อยู่ก็ต้องสู้ต่อไปเพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องทำในฐานะสิ่งมีชีวิต ตอนนี้เริ่มพยายามจะแบบ มีอะไรที่พอจะสอนจะถ่ายทอดให้ลูกๆ ได้ (ความรู้ ความคิด) ก็สอนให้เขาเสียตอนนี้เลย ถ้าสิ่งที่เราศึกษามาลูกเรารับช่วงต่อไป ชีวิตที่เหลือจากนี้ก็ไม่มีอะไรต้องเสียดาย เรียนรู้ขัดเกลาจิตใจตัวเองผ่านการฝึกวิชา หวังว่าวันหนึ่งจะเข้าถึงสิ่งที่เรียกว่า “โลกอิสระ จิตวิญญาณอิสระ” บ้างเท่านั้นเอง
(เพราะผมคิดว่า สิ่งที่มันทำร้ายร่างกายจิตใจผมที่สุดมาตลอดชีวิตก็คือความเครียดอันเกิดจากภาวะสังคมที่เรียกร้องจริยธรรมศีลธรรม มากไปโดยไม่คำนึงถึงความเป็นมนุษย์ ความเป็นคนที่แท้ๆ เดิมๆ นี่แหละ ที่มันมาบีบกายบังคับใจเรา ฉะนั้นชั่วขณะจิตหนึ่งสภาวะจิตหนึ่งเวลาที่ผมกำลัง “อยู่บนเบาะ” นี่แหละที่เป็น “สภาวะแห่งการปลดปล่อย” อันหาได้ยาก)
เรามาเข้าเนื้อหาหลักของวันนี้ดีกว่านะครับ
คำแปลข้อความต้นฉบับ
水の巻
คัมภีร์แห่งอาโป
六 一 足つかひの事
หก เรื่องของการใช้เท้า
`足の運び様の事 `つま先を少うけてきびすを強く踏べし `足遣ひはことによりて大小遅速は有共常にあゆむが如し `足に飛足 浮足 ふみすゆる足とて是三ツ嫌ふ足也 `此道の大事にいはく `陰陽の足 `と云是肝心也 `陰陽の足とは片足斗動かさぬもの也 `きる時 ひく時 うくる時迄も `陰 `陽 `とて右左右左踏む足也 `返す返す片足踏事有べからず `能々吟味すべきもの也
เรื่องของอาการยกเท้า ปลายนิ้วเท้าลอยเล็กน้อย ส้นเท้าควรย่ำพื้นให้แข็งแรง การใช้เท้านั้น แม้จะมีใหญ่เล็กช้าเร็วไปตามเรื่องราว แต่ต้องเป็นดั่งการย่างเท้าอันเป็นนิตย์ เท้านั้นมี เท้าเหิน เท้าลอย เท้าย่ำกับที่ สามอย่างนี้คือเท้าที่ชัง จะกล่าวถึงเรื่องใหญ่ของวิถีนี้ สิ่งที่เรียกว่า “เท้าหยินหยาง” นั้นเป็นข้อใหญ่ใจสำคัญ “เท้าหยินหยาง” ก็คือไม่ขยับเพียงเท้าเดียว เวลาฟัน เวลาถอย แม้จนถึงเวลารับ เท้าต้องย่ำ ขวา ซ้าย ขวา ซ้าย ดัง “หยินหยาง” ขอย้ำขอย้ำ อย่าได้มีการย่ำเท้าเดียว ขอจงคิดพินิจให้ดีๆ
การตีความและอภิปราย
ก่อนอื่นเพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ผมขออธิบายเรื่องของ “การสืบเท้า” ในวิทยายุทธ์ญี่ปุ่นก่อนนะครับ
ที่มา blog.jp
ผมไปหารูปนี้มาได้คิดว่าน่าจะเข้าใจง่ายสุด ขออธิบายตามลำดับดังนี้นะครับ
อย่างแรก “โอคุริอะชิ” (เท้าส่ง 送り足) คือถ้าเรายืนเอาเท้าขวานำหน้า เราก็ก้าว ขวา-ซ้าย-ขวา-ซ้าย “เท้าส่ง” นี้ เป็นการใช้เท้าปกติในวิชาดาบ คือคงเท้าหน้าเป็นเท้าขวาก็รักษาตำแหน่งให้เท้าขวาเป็นเท้าหน้าตลอด ดาบอิไอพวกท่ายืนเวลาจะก้าวเข้าไปฟัน (ตีหัว) ก็ก้าวอย่างนี้
ส่วน “อะยุมิอะชิ” (เท้าย่าง 歩み足) นั้นก็คือ ถ้าเรายืนเอาเท้าขวานำหน้า เราก็ก้าว ซ้ายนำขวา-ขวานำซ้าย คือเดินสลับเท้าหน้าไปเรื่อยๆ การเดินแบบนี้ถ้าในไอคิโดจะใช้เปลี่ยนเท้าหลังเป็นเท้าหน้าก่อนหมุนตัวหลบ (เท็นคัง 転換)
ภาพนี้คือ อิริมิ เท็นคัง 入り身転換 คือศัตรูพุ่งมาตรง เราก็ ① แทรกตัว (อิริมิ) ก้าวเปลี่ยนเท้าจากซ้ายนำขวาเป็นขวานำซ้าย แล้วก็ ② ปัดเท้าซ้ายที่กลายเป็นเท้าหลัง หมุนเบนตัวกลายเป็นมาอยู่ข้างหลังศัตรูแทนโดยที่เท้าขวานำ (ที่มา Wikipedia)
อันสุดท้าย “ทสึงิอะงิ” (เท้าสืบ 継ぎ足) คือถ้าเรายืนเอาเท้าขวานำหน้า เราก็ก้าว ซ้ายชิดขวา-ขวาก้าวออก-ซ้ายชิดขวา-ขวาก้าวออก ใน bjj เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า shuffle การก้าวแบบนี้เหมาะกับการก้าวสั้นๆ ที่ต้องการความเร็วในการย่นระยะเข้าประชิดโดยรักษาตำแหน่งเท้าหน้าไว้เป็นเท้าขวาเหมือนเดิม เช่น เรายืนเอาเท้าขวานำหน้า ยึดเสื้อคู่ต่อสู้ได้แล้ว ก็ก้าวเท้าซ้ายชิดเท้าขวา เท้าขวาพอได้ระยะก็ก้าวออกไปเอาขาขวานี่แหละเกี่ยวเข้าทำ โออุจิการิ (เกี่ยวในใหญ่ 大内刈) หรือ โคะอุจิการิ (เกี่ยวในเล็ก 小内刈) เอาตามที่ขาไหนของคู่ต่อสู้จะว่างให้เราไปเกี่ยว อย่างนี้เป็นต้น
หลักการใช้เท้าเคลื่อนที่ในวิทยายุทธ์ญี่ปุ่นก็ประมาณนี้ครับ ใดๆ ก็ดี ไม่ว่าจะก้าวแบบไหน ต้องก้าวออกไปครบทั้งสองเท้าจึงจะเรียกว่าเป็นการก้าวเดินหนึ่งครั้ง (ก้าวแค่เท้าเดียวเท้าอีกข้างไม่ก้าวไม่นับเป็นการก้าวเดิน) และก็อย่ายกฝ่าเท้าสูงจากพื้นให้มากไป เพราะจะทำให้ล้มง่าย
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นคำสอนให้ฝึกให้เรียนนั้น จงหาให้เจอซึ่งเหตุผลที่มาของมัน (ทำไมต้องทำอย่างนั้น) แล้วจึงจะเอามันมาหัดมาใช้ได้ อย่าสักแต่ว่าเรียนๆ ท่องๆ จำๆ ไปลอยๆ ไม่รู้ที่มาที่ไปแล้วก็ลืมเสีย อันนี้สำหรับคนเป็นนักเรียน ส่วนคนเป็นครูก็ต้องรู้จักชี้ช่องให้นักเรียนได้เห็นถึงเหตุผลที่มาของสิ่งต่างๆ ให้เข้าใจลึกซึ้งเช่นกัน ครูที่สอนให้นักเรียนแค่เรียนๆ ท่องๆ จำๆ ไปลอยๆ นั้นเรียกว่าครูเฮงซวย ครับ
ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานี้ ผมสอนพื้นฐานการย่างก้าวพวกนี้ให้กับลูกชายพอดี (ออกกำลังกายวันหยุดช่วงสงกรานต์) เพราะว่าถึงแม้ตอนนี้้จะให้เรียนเทควันโดเป็นหลัก เรียน bjj เป็นตัวเสริม (ซึ่งหลังสงกรานต์ก็ได้พาเขาไปหัดครั้งแรกละ) ผมก็ตัดสินใจสอนพื้นฐานของไอคิโด (ซึ่งผมก็สอนได้แค่นั้นตามประสาสายส้มสอง 555) ให้เพราะคิดว่าต้องปลูกฝังจิตนิสัยเรื่องของการหลบเลี่ยงเพื่อป้องกันบ้าง
เพราะถ้าให้ลูกฝึกแต่วิชา “สายแข็ง” สายปะทะเตะต่อย (จำพวกมวยไทย คาราเต้ เทควันโด) อยู่เพียงอย่างเดียว ก็เหมือนกับให้ลูกกินแต่เนื้อสัตว์แต่ไม่ยอมกินผักเลย (เกี่ยวไหมนั่น) คือมันจะหล่อหลอมอุปนิสัย “สายแข็ง” จำพวก ตั้งท่าพร้อมปะทะ พร้อมบวก มากจนเกินไป ในการเป็นคนที่สมบูรณ์นั้น คนเราควรจะเรียนรู้อุปนิสัยอย่าง “สายอ่อน” คือรู้จักหลบเลี่ยง หลีกหนีการปะทะ รู้จักวิธีการเซฟตัวเอง (จากการล้มและอื่นๆ) เข้าไปด้วย เรารับสิ่งไหนเข้าตัวเรามา เราก็จะกลายเป็นแบบเดียวกับสิ่งที่รับเข้าไปนั้น ฉะนั้นถ้าเราจะปลูกฝังจิตนิสัยอย่างสายอ่อน ก็ต้องให้ลูกเรียนวิชาสายอ่อนด้วย (กินผักบ้างนะลูก) เมื่อถึงตอนโต ประสบการณ์ที่สั่งสมมาพอให้จิตสามารถตัดสินได้เองว่าเวลาไหนควร “แข็ง” เวลาไหนควร “อ่อน” ถ้าคนเรามีวิจารณญาณได้อย่างนั้นก็ถือว่าดีพอแล้วในความเป็นคน
ก่อนจากกันวันนี้ขอฝากภาพการบริโภคบุฟเฟต์ช่วงหยุดวันสงกรานต์มาให้ดูนะครับ ที่ร้าน G&M ไส้กรอกเยอรมันสาขาหลังบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า ก็บอกแล้วไงว่าอย่ากินเนื้อสัตว์อย่างเดียว กินผักเสียบ้าง 555 เลยสั่งสลัดสั่งเครื่องเคียงพวกมันฝรั่งมาเยอะและจานเนื้อเอาแค่ไก่กอดองเบลอ (รู้ครับมันไม่เหมาะกับคนที่ต้องคุมน้ำหนัก) กับสเต็กไก่ แค่นั้นเองจริงๆ นะ 555
อิ่มอ้วนอืดกันไปแล้วก็ขอลาแต่เพียงเท่านี้ไปก่อนดื้อๆ พบกันใหม่สัปดาห์หน้าสวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (15) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): เรื่องของอาการถือทะจิ
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (14) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สิ่งที่เรียกว่าการจับตาดูแห่งพิชัยสงคราม
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (13) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): เรื่องของการแต่งกายแห่งพิชัยสงคราม
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (12) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): เรื่องของการถือใจพิชัยสงคราม
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (11) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): บทนำ
#มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (16) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): เรื่องของการใช้เท้า