วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (15) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): เรื่องของอาการถือทะจิ
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านนี้ด้วยความที่เป็นวันหยุดที่หาได้ยากจริงๆ ก็เลยอยากจะมีความสุขกับชีวิตวันพักผ่อนให้เต็มที่มากๆ แต่ก็ยังไม่วายติดนิสัยชอบทำสิ่งต่างๆ เป็นเวลาเหมือนเดิม เช่น 10:00 น ถึง 11:00 น เอาลูกชายมาซ้อมชกเตะ ฟุตเวิร์คพื้นฐานหน้าบ้าน ตกบ่ายผมก็นอนดู YouTube พยายามดาวน์โหลดวิชายูยิตสูเข้าสู่สมอง (ไม่ใช่นีโอนะ) หลังสงกรานต์มาจะได้เอาไปลอง (ฮา) อะไรแบบนี้ ใจจริงอยากไปนั่งจิบน้ำชากินซูชิที่ร้านประจำแถวบ้านแต่ว่าต้องรอวันที่ 16-17 ก่อน (13-15 เขาหยุดสงกรานต์) ตกเย็นก็นั่งดูลูกๆ เล่นน้ำแช่อ่างกันสนุกสนาน
ช่วงนี้พยายามรักษาร่างกายด้วยการนอนให้เร็วประมาณว่า 21:30 น ก็นอนเลยแล้วค่อยตื่นมาตอน 6:00 น อาจจะเป็นหนทางที่ทำให้ผมไม่ต้องกินยาความดันต่อไปแล้วก็ได้ ถึงพวกหมอหรือพยาบาลแผนปัจจุบันจะพยายามพูดกรอกหูว่าลองได้เป็นแล้วต้องกินยาตลอดชีวิตแต่ผมไม่ชอบความคิดแบบนี้เลย ผมไม่ได้คิดว่าผมต้องชนะเสมอแต่ผมคิดว่าการที่ยอมจำนนโดยไม่ดิ้นรนอะไรเลยมันไม่ใช่หนทาง ที่ผ่านมาผมก็ดิ้นรนมาตลอดและมันก็เห็นผลดีทั้งร่างกายและจิตใจมากขึ้นเรื่อยๆ ก็แสดงว่าความพยายามของเรายังไม่ได้สูญเปล่าเสียทีเดียว
บางครั้งผมยังอดคิดไม่ได้เลยว่าการเป็นคนดื้อรั้นหัวรั้นและไม่ยอมเชื่อฟังอะไรง่ายๆ นั่นแหละอาจจะเป็นทางรอดของมนุษยชาติก็ได้
พูดมากไปก็อาจจะฟังดูชักจะไปกันใหญ่ เข้าเนื้อหาหลักของวันนี้กันเลยดีกว่าครับ
คำแปลข้อความต้นฉบับ
水の巻
คัมภีร์แห่งอาโป
五 一 太刀の持様の事
ห้า เรื่องของอาการถือทะจิ
`太刀の取様は大指人さしを浮べる心に持 `たけ高指しめずゆるまず くすし指小指をしむる心にして持也 `手の内にはくつろぎの有事悪し `敵をきるものなり `と思ひて太刀を取るべし `敵をきる時も手の内に替りなく手のすくまざる様に持べし `もし敵の太刀をはる事 うくる事 あたる事 おさへる事有り共大指人さし指斗を少替る心にして兎にも角にも `きる `と思ひて太刀を取るべし `ためしものなどきる時の手の内も兵法にしてきる時の手の内も `人をきる `と云手の内に替る事なし
อาการจับทะจินั้น ให้ถือโดยใจ (รู้สึก) ว่าปล่อยนิ้วโป้ง นิ้วชี้ให้ลอย นิ้วยาว (แผลงเป็นนิ้วกลาง) ไม่รัดไม่หย่อน นิ้วนางนิ้วก้อย ถือให้ใจ (รู้สึก) ว่ากระชับแน่น ในอุ้งมือนั้นมีหลวมโพรกไม่ดี ควรจับทะจิโดยนึกว่า “จักฟันศัตรู” แม้เวลาฟันศัตรู ควรถือให้อย่าเปลี่ยนไปในมือ อย่าได้มือแข็งเกร็ง แม้มีการ (เอาดาบของเรา) ปัดดาบ รับดาบ ตีถูกดาบ กดดาบ ของศัตรู เฉพาะนิ้วโป้งนิ้วชี้ ให้ใจ (รู้สึก) ว่าเปลี่ยนเล็กน้อย จะอย่างไรก็ช่างต้องจับดาบโดยคิดว่า “จะฟัน” แม้อุ้งมือเวลาฟันของทดลอง หรืออุ้งมือเวลาฟันโดยถือเป็นพิชัยสงครามก็ดี ต้องเป็นอุ้งมือที่ว่า “จะฟันคน” ไม่มีเปลี่ยนแปลง
`総て太刀にても手にても `ゐつく `と云事を嫌ふ `ゐつく `はしぬる手也 `ゐつかざる `は生る手也 `能々心得べきもの也
โดยรวมแล้ว จะด้วยทะจิหรือด้วยมือก็ดี ย่อมชังการที่เรียกว่า “นั่งแช่อยู่อย่างนั้น” “นั่งแช่อยู่อย่างนั้น” นั้นย่อมเป็นมือที่ตาย “ไม่นั่งแช่อยู่อย่างนั้น” นั้นเป็นมือที่เป็น เป็นสิ่งที่สมควรเอามาใส่ใจให้ดีๆ
การตีความและอภิปราย
เรื่องของการกำดาบนั้น สิ่งที่มูซาชิพูดถึงนั้นก็เป็นพื้นฐานทั่วไปของวิธีการจับดาบซึ่งตัวผมเองในฐานะที่เคยเรียนดาบอิไอมาก่อน ก็ได้รับการสอนในข้อนี้เหมือนกัน แต่อย่างที่เคยเขียนถึงในตอนที่ว่าด้วยเรื่องผมเรียนดาบอิไอนั่นแหละครับว่ามันเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยาก คือต้องใช้เวลาฝึกหัดกันพอสมควรถึงจะทำได้
แล้วสำหรับคนที่ไม่ได้เรียนดาบล่ะ ข้อความตอนนี้มีประโยชน์อะไร?
ย่อมมีแน่นอนครับ อย่างหนึ่งก็คือ
`ためしもの (試し物) などきる (斬る) 時の手の内も兵法にしてきる時の手の内も `人をきる `と云手の内に替る事なし
ทาเมชิโมโนะ นาโดะ คิรุ โทคิ โนะ เทะ โนะ อุจิ โมะ เฮียวโฮ นิ ชิเตะ คิรุ โทคิ โนะ เทะ โนะ อุจิ โมะ “ฮิโตะ โวะ คิรุ” โตะ อิอุ เทะ โนะ อุจิ นิ คาวารุ โคโตะ นาชิ
แม้อุ้งมือเวลาฟันของทดลอง หรืออุ้งมือเวลาฟันโดยถือเป็นพิชัยสงครามก็ดี ต้องเป็นอุ้งมือที่ว่า “จะฟันคน” ไม่มีเปลี่ยนแปลง
“ฟันของทดลอง” สมัยก่อนเพื่อลองคมดาบ เขาจะเอาศพนักโทษประหารมาเป็น “ของทดลอง” (ทาเมชิโมโนะ) ลองว่าดาบมันคมหรือทื่อ สิ่งสำคัญที่มูซาชิต้องการจะสื่อก็คือไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามนั้นเราควรจะมีความระมัดระวังในการทำสิ่งต่างๆ ให้ถูกต้องเป็นนิสัยอยู่เสมอ โดยที่ไม่คิดแบ่งแยกว่าอันนี้มันเป็นแค่การทดลองทดสอบกันเป็นแค่อะไรที่บอกว่าลองเล่นๆ ซ้อมขำๆ นะ ไม่ใช่ของจริงนะอะไรแบบนี้ แล้วก็จะทำชุ่ยๆ ยังไงก็ได้ แบบนี้ไม่ดีไม่เอานะครับ
ก่อนจากกันวันนี้อยากจะบอกตรงๆเลยว่าช่วงสงกรานต์หยุดยาว 3 วันเนี่ยคิดถึงอาหารญี่ปุ่นมากมาย ขุดเอาภาพเก่าๆ ให้ดูกันดีกว่า ร้าน “ซูชิจิโร่” สันติธรรม หลังๆ มานี้ไม่ค่อยได้มีธุระแวะไปตรงนั้นก็เลยไม่ค่อยได้ไปแต่ก็เป็นร้านที่ชอบในบรรยากาศ ในรสชาติอาหารและราคา บางเมนูเป็นเมนูที่ได้อารมณ์กินอาหารญี่ปุ่นที่ญี่ปุ่นจริงๆ คือแบบว่ามันก็ไม่ใช่ของทำยากนะแต่ว่าร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทยกลับไม่ทำขายกัน เช่น ชิกเก้นคัตซึใส่โอโรชิพอนสึ (คือใส่ไชเท้าขูดกับน้ำส้มพอนสึ กินพวกของชุบเกล็ดขนมปังทอดแล้วใส่โอโรชิพอนสึเนี่ย คิดถึงตอนสมัยอยู่โอซาก้ามากๆ) คาคิฟุไร (หอยนางรมชุบเกล็ดขนมปังทอด) ข้าวห่อสาหร่ายไส้ทะคุอัน (ไชเท้าดองสีเหลืองๆ) แม้แต่สลัดไข่กุ้งปูอัดก็ยังอร่อยเลยครับเพราะว่าน้ำสลัดครีมเขาจะไม่ข้นกินได้แบบใสๆ สบายปาก
ผมนี่ชอบมากที่แบบว่ามีป้ายโฆษณาเมนูอาหารพร้อมราคาติดไว้ อารมณ์คล้ายร้านอาหารตามสั่งของญี่ปุ่นมาก 555
สลัดไข่กุ้งปูอัดครับ
อันนี้น่าจะเป็น หอยนางรมชุบเกล็ดขนมปังทอด
เดือนเมษายนหน้าร้อนนอน…เหงื่อตก ก็กำลังจะผ่านไปแล้วนะครับ อากาศแบบนี้ขอให้ทุกท่านดูแลสุขภาพให้ดีกันด้วย พบกันใหม่สัปดาห์หน้านะครับสวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (14) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): สิ่งที่เรียกว่าการจับตาดูแห่งพิชัยสงคราม
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (13) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): เรื่องของการแต่งกายแห่งพิชัยสงคราม
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (12) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): เรื่องของการถือใจพิชัยสงคราม
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (11) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): บทนำ
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (10) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): เรื่องของจังหวะแห่งพิชัยสงคราม
#มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (15) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): เรื่องของอาการถือทะจิ