สุดสัปดาห์นี้ดิฉันจะไปปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ค่ะ เมื่อบอกเพื่อนคนไทย ส่วนใหญ่จะมีแต่เสียง “อนุโมทนานะ” (เคยได้ยินมาว่า แค่เราอนุโมทนา ร่วมยินดีกับคนอื่น เราก็จะได้บุญ 10% ของบุญที่คนนั้นจะได้!) แต่พอบอกคนญี่ปุ่น ….ร้อยละร้อย จะหันมามองหน้าดิฉันแบบงง ๆ ว่า .. ยูจะไปไหนนะ?
สุดสัปดาห์นี้ดิฉันจะไปปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ค่ะ เมื่อบอกเพื่อนคนไทย ส่วนใหญ่จะมีแต่เสียง “อนุโมทนานะ” (เคยได้ยินมาว่า แค่เราอนุโมทนา ร่วมยินดีกับคนอื่น เราก็จะได้บุญ 10% ของบุญที่คนนั้นจะได้!) แต่พอบอกคนญี่ปุ่น ….ร้อยละร้อย จะหันมามองหน้าดิฉันแบบงง ๆ ว่า .. ยูจะไปไหนนะ?
“ไปปฏิบัติธรรม”
และนี่…คือ บทสนทนาต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตฉันช่วงสัปดาห์นี้ค่ะ
1. ไม่เข้าใจว่าศีลคืออะไร
เวลาไปปฏิบัติธรรม เราก็ต้องรักษาศีลใช่ไหมคะ ศีล 5 บ้าง ศีล 8 บ้าง บ้านเราโรงเรียนสอนให้อาราธนาศีล 5 กันตั้งแต่อ้อนแต่เอาะ เรียกว่าหลับตาท่องก็ได้ว่าห้ามทำอะไรกันบ้าง (ทำได้ไม่ได้นั้นค่อยว่ากัน) ใคร advance หน่อยอาจท่องศีล 8 ได้
แต่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่มีศาสนาที่นับถือเป็นพิเศษ ไม่มีการสวดมนต์ก่อนนอน ไม่มีการตื่นมาตักบาตรตอนเช้า (พระญี่ปุ่นมีรายได้จากเงินทำบุญเวลาญาติโยมนิมนต์ไปประกอบกิจต่าง ๆ) ไม่มีการเรียนประวัติพระพุทธเจ้า แค่เรื่องศีลก็อธิบายกันนานแล้วค่ะ บทสนทนามักจะอารมณ์ประมาณนี้
เกตุวดี: เดี๋ยวไปปฏิบัติธรรมนะ ต้องถือศีล 8 เลย ลำบากหน่อย
A ซัง: ศีลคืออะไร
เกตุวดี: ภาษาญี่ปุ่นเรียก 戒律 (Kairitsu) เป็นข้อห้ามต่างๆ
A ซัง: ห้ามไปทำไมล่ะ?
เกตุวดี: ก็ … จิตใจจะได้สงบมั้ง
A ซัง:เขาห้ามอะไรกันบ้าง?
เกตุวดี: ห้ามกินเหล้า
A ซัง: ห้ามกินเหล้า!!??? ตายแล้ว! (A ซังเป็นสาวประเภทซดเหล้าบ๊วยก่อนนอนทุกคืน)
เกตุวดี: ห้ามโกหก
A ซัง: อืม…. ลำบากหน่อย…แต่ฉันอาจพอทำได้ก็ได้
เกตุวดี: ถ้าเป็นศีล 8 ก็ห้ามแต่งหน้าด้วยล่ะ
A ซัง: (ส่ายหน้าช้าๆ) ชีวิตนี้…ฉันคงไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้แล้วล่ะ โชคดีนะ เกตุวดีซัง (โบกผ้าเช็ดหน้าอำลา)
อารมณ์ประมาณนี้ค่ะ…
2. ไม่เข้าใจว่าทำอะไรบ้าง
เมื่อพูดถึงการปฏิบัติธรรม คนญี่ปุ่นหลายคนจะแอบนึกถึงการนั่งหน้าไฟ หรือฝึกสมาธิใต้น้ำตกตามที่เห็นในการ์ตูน ส่วนการปฏิบัติธรรมสำหรับคนญี่ปุ่นธรรมดา ที่ไม่ได้ประสงค์จะบวชหรือฝึกอะไรนั้น มักจะเป็นการไปนั่งสมาธิเงียบ ๆ ที่วัดสักชั่วโมงสองชั่วโมงค่ะ ไม่นานเป็นวัน ๆ แบบเมืองไทย
เขาจะไม่ค่อยฝึกการเดินจงกรม หรือสวดมนต์เหมือนบ้านเราสักเท่าไร ส่วนใหญ่แค่นั่งสมาธิอย่างเดียว ใครตัวโงนเงนก็จะมีพระถือไม้มาตีไหล่ ป้าบ ให้มีสติ … เร้าใจ (ดิฉันเคยไปฝึกที่วัดเกียวโต โชคดีไม่โดนป้าบ)
3. ไม่เข้าใจว่า (จริงจัง) ปฏิบัติไปทำไม
ที่ญี่ปุ่นไม่ค่อยมีใครเน้นเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ไม่รู้ว่าทำบุญไปได้อะไร กินเหล้าหรือทำไม่ดีแล้วจะตกนรก ตีพ่อแม่แล้วมือจะใหญ่เป็นใบตาล อะไรหยั่งงี้ ไม่มีค่ะ เขาก็เลยไม่ค่อยเข้าใจแนวคิดการทำบุญทำทานเพื่อชาติหน้าของพวกเรากันสักเท่าไร
ยิ่งการปฏิบัติธรรม ซึ่งสำหรับพุทธศาสนิกชนไทยนั้นเป็นการทำบุญขั้นสูง ภาวนาบารมี… โอ…อิ่มเอิบบุญ
แต่คนญี่ปุ่นไม่ได้คิดอย่างนั้นค่ะ คนทั่วไปที่จะไปปฏิบัติธรรม เช่น นั่งสมาธิที่วัดเซ็นนั้นโดยมากต้องการเพียงแค่ความสงบทางจิตใจแค่นั้นเอง เพราะวัดญี่ปุ่นจะเงียบสงบเหมาะกับการพักใจจากความเครียดและความกดดันต่าง ๆ ทางสังคม
ทว่าการไปปฏิบัติธรรมก็ยังไม่ได้เป็นที่นิยมสักเท่าไร โดยมากแค่อยาก “ลอง” อารมณ์ไปเที่ยวเกียวโตแล้วลองแวะไปนั่งสมาธิหน่อยก็ได้ ไหน ๆ มาวัดแล้ว อะไรแบบนี้คล้าย ๆ เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวหนึ่งค่ะ
+++++
ไว้สัปดาห์หน้าดิฉันจะกลับมาเล่านะคะว่าถ้าคนญี่ปุ่นไม่มีศาสนา ไม่มีที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจเหมือนเรา เขาอยู่กันอย่างไร หรือทำไมบ้านเมืองเขาถึงสงบไม่ค่อยมีอาชญากรรมสูงนัก รออ่านต่ออังคารหน้านะคะ
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> เกตุวดี Marumura
อ่าน Japan Gossip ทั้งหมด CLICK HERE
เรื่องแนะนำ :
– Do and Don’t กับแฟชั่นหน้าร้อนญี่ปุ่น…
– มาแอบเงี่ยหูฟังเสียงอาหารญี่ปุ่นกระซิบเย้ายวน
– งานแต่งไทย vs ญี่ปุ่น ความเหมือนที่แตกต่าง
– ชามใครก็ชามมัน…วิถีการทานของครอบครัวญี่ปุ่น
– ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว… โลกใหม่หลังจากบางสิ่งสูญหายไป