พิกัดต่อไปใครเป็นศพ : 3 ศพ 3 สถานที่กลางกรุงโตเกียว ตัวเลขปริศนาถูกทิ้งไว้ท้าทายตำรวจ มันคือคำบอกใบ้พิกัดของการลงมือสังหาร เป้าหมายถัดไปคือโรงแรมหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง
แค่เห็นชื่อเรื่องและหน้าปก ก็พอจะทราบแล้วใช่มั้ยคะ ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนคดีฆาตรกรรม ยิ่งพอได้อ่านคำโปรยหลังปกก็ยิ่งน่าสนใจมากขึ้น
3 ศพ 3 สถานที่กลางกรุงโตเกียว ตัวเลขปริศนาถูกทิ้งไว้ท้าทายตำรวจ มันคือคำบอกใบ้พิกัดของการลงมือสังหาร เป้าหมายถัดไปคือโรงแรมหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง
รองสารวัตรนิตตะ โคสุเกะ ตำรวจสืบสวนได้รับคำสั่งให้ปลอมตัวเข้าไปเป็นพนักงานของโรงแรม 10 วันก่อนที่คนร้ายจะลงมือครั้งถัดไป…
นอกจากความสนุกสนานของเนื้อเรื่องในการตามหาตัวผู้กระทำผิดแล้ว ประเด็นที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่สอดแทรกอยู่ในหนังสือตลอดเล่ม ซึ่งก็เริ่มจากการปลอมตัวเข้าไปเป็นพนักงานโรงแรมของตัวเอกนี่ล่ะค่ะ
“โรงแรมเป็นสถานที่ที่มีลูกค้าหลากหลายประเภทแวะเวียนเข้ามา”
เมื่อตำรวจต้องมาเป็นพนักงานโรงแรม
ในหนังสือสอบสวนส่วนใหญ่ที่มักจะมีตัวละครเอกเป็นตำรวจนั้น เราก็มักจะได้เห็นและเคยชินกับการทำงาน รวมไปถึงระบบระเบียบที่เกิดขึ้นภายในองค์กรของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่เมื่อตำรวจอย่างนิตตะ โคสุเกะต้องมากลายเป็นพนักงานโรงแรม ท่าทีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะก็ทำให้มองเห็นตำรวจในแบบที่ต่างออกไป
“คงต้องพูดว่าคนที่เป็นตำรวจจะมองคนอื่นด้วยสายตาสงสัยอย่างเดียว เขาคอยสอดส่องว่าจะมีใครทำความผิดอะไรหรือเปล่า ไม่ก็วางแผนร้ายอะไรไหม…เขาจ้องมองลูกค้าที่มาเช็กอินเกินจำเป็น แววตาเฉียบคมดูไม่เหมือนพนักงานโรงแรมเอาเสียเลย”
พี่เลี้ยงของพนักงานโรงแรมจำเป็นคือพนักงานโรงแรมผู้มุ่งมั่นและทุ่มเท
นอกเหนือไปจากความโอ่อ่า ความสะดวกสบายและความสะอาดของที่พักแล้ว งานบริการก็ถือเป็นหัวใจสำคัญที่เปรียบเสมือนหน้าด่านซึ่งต้องคอยแก้ไขปัญหาและรักษาภาพลักษณ์ที่ดีให้กับโรงแรม และตัวแทนของพนักงานโรงแรมที่มีใจรักงานบริการก็คือ ยามางิชิ นาโอมิ
“ห้ามลืมความรู้สึกขอบคุณเด็ดขาด เพราะถ้าเรารู้สึกขอบคุณลูกค้า เราก็จะปฏิบัติตัวและพูดคุยกับลูกค้าได้อย่างเหมาะสมรวมทั้งแสดงมารยาทและยิ้มแย้มแจ่มใสโดยไม่ต้องฝึกฝนอะไรเป็นพิเศษค่ะ”
“พวกเราปรารถนาให้ลูกค้ามีความสุขค่ะ แต่เกรงว่าเราจะมีความสามารถจำกัด ดังนั้นเราจึงพูดกับลูกค้าที่จะออกจากโรงแรมว่าขอให้เดินทางปลอดภัยนะคะ
เราจะปกป้องลูกค้าอย่างสุดกำลัง ตราบใดที่เขายังอยู่ในโรงแรม…นิตตะได้ยินเช่นนั้น”
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัด
เมื่อมองเผินๆ แล้ว ทั้งสองอาชีพมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในแง่ของความคิดและมุมมอง
“แล้วทำไมไม่บอกให้ลูกค้าคนเมื่อกี้ปฏิบัติตามกฎล่ะ ตัวเองมาช้าเองก็ต้องทำตามกฎ ต้องรอจนกว่าจะถึงคิวตัวเองสิ”
“ตำรวจตัดสินถูกผิดจากการดูว่าปฏิบัติตามกฎหรือเปล่า…พนักงานโรงแรมอย่างเราก็ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบเหมือนกัน….ลูกค้าคือผู้คุมกฎจึงเป็นไปไม่ได้ที่ลูกค้าจะทำผิดกฎ และพวกเราก็ต้องปฏิบัติตามกฎของลูกค้าอย่างเคร่งครัดด้วย”
“การจัดการกับปัญหาเหล่านั้นคืองานของพวกเราค่ะ ถ้าลูกค้าทุกคนมีมารยาทดี มีเหตุผล และมีความอดทนสูง คงไม่มีงานไหนจะสบายเท่ากับงานของพนักงานโรงแรมแล้ว”
แต่ในความต่างก็ยังมีความเหมือน
การปลอมตัวเข้ามาเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรม ทำให้เกิดสองมุมมองจากอาชีพบริการ ซึ่งแม้ว่าฝ่ายหนึ่งเป็นตำรวจสืบสวน ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งเป็นพนักงานโรงแรม แต่ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีความเหมือนในเรื่องของการบริการ นั่นก็คือ งานของตำรวจคืองานบริการที่ต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชนและความเรียบร้อยของสังคม ส่วนพนักงานโรงแรมก็มีหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลลูกค้าที่มาใช้บริการ
“การทำงานโรงแรมก็ต้องเจอกับคนแปลกๆ ไม่ต่างกับตำรวจเลย”
“ตำรวจเป็นอาชีพที่มีโอกาสสร้างความแค้นให้กับคนอื่นโดยไม่รู้ตัว พนักงานโรงแรมก็เหมือนกัน แม้จะให้บริการด้วยใจก็อาจกลายเป็นการทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ดีได้”
การเปิดใจยอมรับในความต่าง
แต่เมื่อตัวเอกอย่างรองสารวัตรนิตตะได้เข้ามาซึบซับความเป็นพนักงานโรงแรม ได้เห็นการทำงานและการแก้ไขสถานการณ์ ทำให้เริ่มปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่ต้องเจอลูกค้าที่หลากหลายได้ดียิ่งขึ้น จนได้รับการยอมรับ
“ฉันคิดว่าคุณนิตตะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างยอดเยี่ยมค่ะ คนที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานโรงแรมมาก่อนสามารถทำได้ถึงขนาดนั้นนับเป็นเรื่องน่าทึ่งมาก”
“เขารับมือกับลูกค้าด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีคนช่วย…เขาปฏิบัติงานได้อย่างราบรื่น พูดจาสุภาพเรียบร้อย ท่าทางก็ดูอ่อนโยนขึ้น”
การแก้ปัญหาในแบบฉบับคนโรงแรม
นอกจากเรื่องของความทุ่มเทในการทำงาน และปรับตัวแล้ว สิ่งที่สอดแทรกอยู่ในหนังสือเล่มนี้ก็คือรูปแบบการทำงาน การจัดการของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการเช็กอิน การส่งมอบงาน การเปลี่ยนกะ การเปลี่ยนห้อง จัดการกับลูกค้าและสถานการณ์หลากหลายรูปแบบ
“ลูกค้าไม่ได้เป็นพระเจ้าเสมอไปหรอกค่ะ บางครั้งก็มีปีศาจปะปนเข้ามา การมองให้ออกว่าพวกเขาเป็นคนประเภทไหนคืองานของเรา”
หนังสือเล่มนี้จึงเป็นเหมือนกระจกสะท้อนให้เห็นมุมมองและการทำงานของ “พนักงานโรงแรม” ในประเทศญี่ปุ่นในอีกรูปแบบหนึ่ง และไม่เพียงแค่ตัวละครเอกในเรื่องจะมีการเปิดใจยอมรับมุมมองของพนักงานโรงแรมเท่านั้น ในฐานะผู้อ่านเองก็เกิดความเข้าใจสายอาชีพนี้มากยิ่งขึ้นเหมือนกันค่ะ
“ถ้าเขาหมายชีวืตคนอื่นเราก็มีหน้าที่หยุดยั้งเขาไว้ให้ได้
รวมถึงต้องปกป้องชีวิตลูกค้าคนสำคัญของเราด้วย”
เรื่องแนะนำ :
– ชวนอ่านหนังสือ How to หลากหลาย…สไตล์ญี่ปุ่น
– ชวนส่องงานศิลป์ย่อส่วนที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ
– ชวนอ่าน : ด้วยรักและความตาย 6 เรื่องสั้นที่เกิดจากความรักและนำไปสู่ความตาย
– Taiyaki ขนมปังรูปปลาแสนอร่อย
– meganenoo งานอดิเรกยามว่าง เริ่มเมื่อไหร่ก็ไม่มีคำว่าสาย
#พิกัดต่อไปใครเป็นศพ #Masquerade Hotel