รีวิวหลักสูตรมังงะและอนิเมะศึกษาของมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทย
ผู้เขียนเคยได้เขียนคอลัมน์เรื่องการเรียนการสอนมังงะและอนิเมะศึกษาไปใน https://www.marumura.com/manga-games-anime-at-utcc/ และได้ให้สัมภาษณ์ใน https://www.thepeople.co/interview/lifestyle/51031 และ https://www.thepeople.co/read/28886 แต่เมื่อมาค้นข้อมูลเพิ่มเติม ก็พบว่ามีมหาวิทยาลัยในประเทศไทยหันมาสนใจศาสตร์ด้านมังงะและอนิเมะศึกษากันมากขึ้น วันนี้จึงจะรีวิวหลักสูตรมังงะและอนิเมะในแต่ละมหาวิทยาลัยอย่างคร่าว ๆ เอาไว้
เริ่มจากที่แรกสุดที่มีหลักสูตรนี้คือ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีชื่อวิชาว่า “ปรัชญากับการ์ตูน” สอนโดย ผศ. บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์ โดยเปิดวิชานี้ตั้งแต่ พ. ศ. 2558 โดยเป็นวิชาเลือกที่เปิดกว้างสำหรับนักศึกษาทั่วไป และเป็นวิชาที่เน้นการศึกษามังงะและอนิเมะผ่านมิติทางวิชาปรัชญาเป็นหลัก เรียกว่าเป็นการนำปรัชญามาสอนด้วยวิธีที่ย่อยง่ายมากขึ้นเพื่อให้นักศึกษาเข้าใจปรัชญาได้ดีขึ้นกว่าการใช้วิธีทางปรัชญาแบบเดิมในการสอน เรื่องที่นำมาสอนจึงเป็นเรื่องที่มีความเป็นปรัชญาชัดเจนอย่าง วิหคเพลิง หรือ Blackjack เป็นต้น
เครดิต: https://arts.su.ac.th/
ต่อมาคือสังกัดในปัจจุบันของผู้เขียนคือ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีชื่อวิชาว่า “มังงะ เกมส์ อนิเมะญี่ปุ่น” สอนโดยผู้เขียนเองคือ ดร. วีรยุทธ พจน์เสถียรกุล โดยเปิดวิชานี้ตั้งแต่เดือนธันวาคม พ. ศ. 2565 เป็นวิชาเลือกที่เปิดกว้างสำหรับนักศึกษาทั่วไปคล้ายกับที่ศิลปากร แต่จุดต่างคือที่มหาวิทยาลัยหอการค้าจะเป็นการศึกษาแบบสหวิทยาการคือไม่ได้เน้นไปที่ศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งโดยเฉพาะ แต่จะเน้นความเชื่อมโยงระหว่างแต่ละศาสตร์คือประวัติศาสตร์, สังคม, วัฒนธรรม, วรรณกรรม, จิตวิทยา, และธุรกิจ รวมทั้งมีการจัด Group Consultation ให้นักศึกษามาพูดคุยแลกเปลี่ยนทีละกลุ่มแบบ Tailor-made เฉพาะมังงะหรืออนิเมะที่กลุ่มตัวเองสนใจด้วย
อีกแห่งหนึ่งคือ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเพิ่งเปิดวิชานี้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ. ศ. 2566 มีชื่อวิชาว่า “วรรณกรรมกับชีวิต: มังงะและอนิเมะ” เนื่องจากแต่เดิมเป็นวิชาวรรณกรรมกับชีวิต ในสังกัดภาควิชาวรรณคดี แต่ภาคเรียนล่าสุดมีการปรับการเรียนการสอนโดยพิจารณามังงะและอนิเมะญี่ปุ่นในฐานะเป็นวรรณกรรมประเภทหนึ่ง จึงมีชื่อวิชาแบบในปัจจุบัน สอนเป็นทีมคือมี ผศ. ดร. ธงรบ รื่นบันเทิง คณบดีคนปัจจุบันของคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นผู้ให้คำแนะนำในด้านต่าง ๆ และมีอ. อรรถ บุนนาค ซึ่งเป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์ JLIT และเป็นผู้เชี่ยวชาญวัฒนธรรมญี่ปุ่น สอนร่วมกับผู้เขียนเองคือ ดร. วีรยุทธ พจน์เสถียรกุล โดยหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็เป็นวิชาเลือกที่เปิดกว้างสำหรับนิสิตทั่วไปเช่นกัน รายวิชาพูดถึงความเชื่อมโยงระหว่างแต่ละศาสตร์คือประวัติศาสตร์, สังคม, วัฒนธรรม, วรรณกรรม, จิตวิทยา แต่เน้นที่วรรณกรรมมากสักหน่อยเนื่องจากสังกัดภาควิชาวรรณคดีนั่นเอง
เครดิต: http://www.coop.ku.ac.th/x/www4/faculty/human.html
ต่อมาอีกแห่งที่กำลังจะเปิดอยู่เร็ว ๆ นี้คือ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะเปิดวิชานี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ. ศ. 2566 (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เปิดภาคเรียนแบบ “ก่อน ASEAN” ในขณะที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดภาคเรียนแบบ “หลัง ASEAN” จึงมีการเปิดภาคเรียนที่ไม่ตรงกัน) ที่จุฬาฯ มีชื่อวิชาว่า “มังงะ และ อนิเมะ” โดยลักษณะเด่นที่สุดของที่นี่คือใช้ภาษาญี่ปุ่น 100% ในการเรียนการสอน (ในขณะที่ ศิลปากร, หอการค้าไทย, เกษตรศาสตร์ ใช้ภาษาไทยในการสอน) วิชานี้จึงไม่ได้เปิดกว้างสำหรับนิสิตทั่วไป แต่ผู้จะเข้าเรียนวิชานี้ที่จุฬาฯ ได้ ต้องเป็นนิสิตวิชาเอกภาษาญี่ปุ่นที่คณะอักษรศาสตร์ซึ่งทุกคนเก่งภาษาญี่ปุ่นระดับที่ JLPT ได้ N1 กันตั้งแต่ยังไม่เข้าปี 1 ที่จุฬาฯ แล้ว หรือไม่ก็ต้องเป็นนิสิตวิชาโทภาษาญี่ปุ่นที่เก่งภาษาญี่ปุ่นมากพอ นั่นคือ การเรียนการสอนจะใช้ตำราและเอกสารเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน และสอนเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน นิสิตวิชาโทอาจจะไม่มี N1 ก็ได้แต่ก็ต้องมีความสามารถภาษาญี่ปุ่นสูงไม่แพ้ N1 ที่จะเรียนและอ่านด้วยภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดได้ รวมทั้งทำงานกลุ่มและนำเสนองานด้วยภาษาญี่ปุ่น และเขียนรายงานทั้งเล่มด้วยภาษาญี่ปุ่นได้ โดยรายวิชาที่นี่จะพูดถึงความเชื่อมโยงระหว่างแต่ละศาสตร์คือประวัติศาสตร์, สังคม, วัฒนธรรม, วรรณกรรม, จิตวิทยา เช่นกัน แต่จะเน้นหนักไปทางภาษาศาสตร์มากหน่อย เนื่องจากผู้สอนคือ ผศ. ดร. อัษฎายุทธ ชูศรี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์ภาษาญี่ปุ่น
เครดิต: https://www.arts.chula.ac.th/~asc/main/
แห่งสุดท้ายที่กำลังจะเปิดพร้อมกับจุฬาฯ คือ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งจะเปิดวิชานี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ. ศ. 2566 เช่นกัน ที่นี่จะมีชื่อวิชาว่า “จิตวิทยาการจัดการ” โดยแต่เดิมวิชานี้เป็นวิชาด้านจิตวิทยา เพียงแต่ภาคเรียนที่กำลังจะถึงนี้จะปรับเนื้อหาไปเป็นจิตวิทยาที่เกิดจากการผสมผสานจิตวิทยาเข้ากับมังงะและอนิเมะ เพื่อให้นักศึกษาเรียนรู้จิตวิทยาในการใช้ชีวิตและการทำงานในรูปแบบที่เข้าใจง่ายผ่านกรณีศึกษาด้วยมังงะและอนิเมะ โดยเป็นวิชาเลือกที่เปิดกว้างสำหรับนักศึกษาทั่วไปเช่นกัน (น่าจะมีจุฬาฯ ที่เดียวที่มีลักษณะเฉพาะ ส่วนมหาวิทยาลัยอื่นเป็นวิชาเลือกที่เปิดกว้างให้นิสิตหรือนักศึกษาทั่วไปลงเรียนได้) ที่ มจธ. นี้สอนโดย อ. เบญจรัตน์ จงจำรัสพันธ์ ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่นโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า การเรียนการสอนมังงะและอนิเมะที่ มจธ. นี้จะเน้นไปทางจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่นแน่นอน
เครดิต: https://www.wionews.com/world/japan-to-get-its-1st-high-school-manga-studies-department-to-start-classes-by-2023-412824
นอกจากทั้ง 5 หลักสูตรของมหาวิทยาลัย 5 แห่งที่กล่าวมานี้แล้ว ยังมีหลักสูตรอบรมระยะสั้น หรือ มีการสอดแทรกเนื้อหาด้านมังงะและอนิเมะลงไปในวิชาอื่น ๆ ตามมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานต่าง ๆ อีก เช่น มีการกล่าวถึงมังงะและอนิเมะญี่ปุ่นอยู่ในวิชา “Literature, Films, and Graphic Novels” ที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็มีการเปิดหลักสูตร “มังงะและอนิเมะสำหรับบุคคลทั่วไป” ที่เรียนทั้งหมด 9 ชั่วโมงในวันเสาร์, สมาคมญี่ปุ่นศึกษาแห่งประเทศไทย (JSAT) ก็เคยจัดเสวนาเรื่อง “การ์ตูนญี่ปุ่น x การวิจัย” เช่นกัน น่าจะมีหน่วยงานอีกมากมายที่จัดเสวนาหรือสัมมนา หรือจัด Workshop ด้านมังงะและอนิเมะญี่ปุ่นอีกมากมาย จนผู้เขียนไม่สามารถรวบรวมได้หมด
การเปิดหลักสูตรมังงะและอนิเมะลักษณะนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการขยายวิสัยทัศน์ของผู้เรียนเท่านั้น แต่สามารถนำผลการเรียนการสอนและการศึกษานั้นย้อนกลับมาคิดถึงการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยออกไปสู่ชาวโลก และการสร้างธุรกิจวัฒนธรรม หรือธุรกิจสื่อสร้างสรรค์ของไทยไปสู่นานาชาติได้อีกด้วย จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งเริ่มเปิดกว้างทางวิชาการในลักษณะสหวิทยาการเช่นนี้ หากผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมอื่น ๆ เรื่องหลักสูตรมังงะและอนิเมะญี่ปุ่น ก็หวังว่าสักวันหนึ่งผู้เขียนจะได้พบและได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกท่านในวาระต่าง ๆ ในอนาคต
ติดตามผลงานเขียนทั้งหมดของวีรยุทธได้ที่ >> https://www.facebook.com/Weerayuths-Ideas
เรื่องแนะนำ :
– Start-up สัญชาติญี่ปุ่นเตรียมผงาดหลังสถานการณ์ Covid-19 บรรเทาลง
– พุทธพาณิชย์แบบญี่ปุ่น
– ทำไมหลักสูตร MBA ถึงไม่ฮิตในญี่ปุ่น?
– ไทโด (躰道): ศิลปะการต่อสู้ชนิดใหม่ในญี่ปุ่นที่มาแรง
– หลักการบริหารงานแบบตระหนักถึง “มนได (問題)” และ “คะได (課題)” สไตล์ญี่ปุ่น
#รีวิวหลักสูตรมังงะและอนิเมะศึกษาของมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทย