สาวญี่ปุ่น เวลาคุยกับคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่สนิทมาก ชีมักจะเก็บอาการ ทำสีหน้าเรียบร้อยตั้งใจฟัง เอิ่ม … ไม่ใช่ว่าสาวไทยไม่เรียบร้อยนะคะ แต่สาวญี่ปุ่นเค้าจะใช้ความพยายามมากกว่าในการสื่อสารทางสีหน้าและแววตามากกว่า
วันก่อน เกตุวดีไปทานข้าวกับรุ่นน้องที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบสิบปี เราก็กินไปเม้าท์แตกไปอย่างสนุกสนาน สักพัก คุณน้องก็ทำสีหน้าจริงจังและพูดว่า “เออ…จะว่าไป พี่เกตุ ท่าทางเหมือนคนญี่ปุ่นเลยอ่ะ”
ดิฉันก็รำพึงในใจ “เห็นชั้น (สวย) หมวยขาวหน่อย ก็เลยทักว่าเหมือนญี่ปุ่นอีกแระ เฮ้อ….” ก็ยิ้มๆตอบขอบคุณไป เรื่องคงจะจบแบบแฮ้ปปี้เอนดิ้ง ถ้า (ไอ้) คุณน้องไม่เสริมว่า …
“คือ…ไม่ใช่หน้าตาเหมือนครับพี่ แต่ท่าทาง…”
“ท่าทางยังไง (ยะ)” ดิฉันเริ่มขึ้นน้ำเสียง….
“ก็… พี่ชอบเอียงคอ พูดช้าๆ … ไม่รู้ดิ่”
ดิฉันกลับมานั่งคิดดู จะว่าไป ดิฉันอาจติด “ท่า” สาวญี่ปุ่นเหล่านี้มาก็ได้ค่ะ ….
1. ท่าฟัง
สาวญี่ปุ่น เวลาคุยกับคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่สนิทมาก ชีมักจะเก็บอาการ ทำสีหน้าเรียบร้อยตั้งใจฟัง เอิ่ม … ไม่ใช่ว่าสาวไทยไม่เรียบร้อยนะคะ แต่สาวญี่ปุ่นเค้าจะใช้ความพยายามมากกว่าในการสื่อสารทางสีหน้าและแววตาว่า “ดิฉันฟังคุณอยู่จริงๆนะ” หล่อนจะคอยพยักหน้าเป็นจังหวะ และให้กำลังใจคุณ … ลองมาฝึกกันดีกว่าค่ะ

วิธีแอ๊บ (ขั้นพื้นฐาน):
เม้มปากตามภาพด้านบน ทำตาโตๆ ฝ่ายตรงข้ามพูดจบประโยคที ให้พยักหน้า 1-2 ครั้ง ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ฟังจริงไม่ฟังจริงอีกเรื่องหนึ่ง
วิธีแอ๊บ (ขั้นสูง):
เมื่อฝึกทำตาโตและพยักหน้าจนชินแล้ว ให้พูดคำว่า “เห…ซุโค่ย … เห ….. ซุโค่ย” สลับกันไปเรื่อยๆ อย่าหลุดคำว่า “อืม” “หรอ” หรือ “เออ” ออกมาเชียว
วิธีแอ๊บ (ขั้นสูงมาก):

ประสานมือไว้ที่หน้าอก ทำตาโต ขมวดคิ้วเล็กน้อย (ไม่ต้องถึงขั้นร้องไห้อย่างในภาพก็ได้ แต่กะว่าให้ภาพตัวเองออกมาสวยประมาณนี้) ทีนี้ เวลาออกเสียง ให้ลากเสียง “เห/ซุโค่ย” ให้ยาวขึ้นไปอีก เช่น“เหหหหหหหหหห” สื่อสารทั้งหน้าตา ท่าทางและน้ำเสียงว่าเราประทับใจเรื่องราวเขาขนาดไหน
2. ท่าคิด
สมมติว่าคุณเป็นผู้ฟังที่ดีมาก ฝ่ายตรงข้ามเลยเล่าๆๆ จนหมดเรื่องพูด เปลี่ยนมาถามคำถามคุณบ้าง
ใจเย็นเข้าไว้ค่ะ อย่าโพล่งตอบหรือเล่าฉอดๆๆไป มันจะดูเป็นสาวมั่นเกิน หนุ่มญี่ปุ่นเขาชอบสาวหัวอ่อนนิดๆ ถึงอ่อนมาก เพราะฉะนั้น ขอให้คุณเอาหลักธรรมะเข้ามาช่วย คิดก่อนพูด มีสติกับทุกคำพูด คิดหนอ… พูดคำที่หนึ่งหนอ … พูดคำที่สองหนอ … แรกๆอาจจะยังไม่ชินนะคะ
วิธีแอ๊บ (ท่าที่ 1)

ทำสีหน้าครุ่นคิด เม้มปากนิดๆ เหมือนท่า “ฟัง” เพียงแต่คุณไม่ต้องพยักหน้าถี่ ถ้านึกไม่ออก ให้ลองจินตนาการว่ากำลังจะเดาตัวเลือกในข้อสอบว่า ข้อ ก. หรือ ข้อ ข. หรือ ข้อ ค. ดี นั่นแหละค่ะ สีหน้างงๆ นิ่งๆ ประมาณนั้น


ท่านี้จะดูน่ารักขึ้นอีกนิดหนึ่งและเหมาะกับท่านที่หมอนรองกระดูกคอเสื่อม ไม่สะดวกในการขยับศีรษะไป-มาแบบท่าที่ 1
สำหรับท่านี้ ให้ท่านใช้มือที่ถนัดจับคางตัวเองหรือเท้าคางนิดๆ ก้มหน้าสายตามองพื้นแล้วทำสีหน้าครุ่นคิด
สาวญี่ปุ่นจะใช้ท่านี้บ่อยเวลาไปทานข้าวกับแฟน ตอนที่แฟนถามว่า “จะสั่ง/กินอะไรดี” คุณสามารถแอ๊บท่านี้ทันที ทำปากจู๋หน่อยๆ พร้อมกับพูดว่า “อืม….เอาอะไรดีน้า ♪” ในสายตาแฟน คุณจะดูแบบว่า …. น่ารักอ่ะ
ขอเตือนว่า อย่าได้พูดทำนองว่า “พี่คะ ขอข้าวแกงกะหรี่จาน โปะท้อปปิ้งไข่ต้มกับชีสด้วย ไม่เอาเผ็ดนะ ขอเร็วๆ หน่อย หิวแล้ว” ไม่งามๆ นึกถึงสติเข้าไว้ค่ะคุณ คิดหนอ ตัดสินใจเลือกเมนูหนอ ปริปากสั่งหนอ
ตัวอย่างที่ถูกต้อง “เอิ่ม…เอ๊ …. เอาอะไรดีน้า…อืม…ทำไงดี …. เอ๊ๆๆ (แอ๊บท่าเท้าคาง หรือเอียงคอซ้าย-ขวา) …. เอา … เอา…เอาข้าวแกงกะหรี่ละกันค่ะ ฮิๆ” แล้วก็ยิ้มให้แฟนหวานๆ ไปหนึ่งที
นอกจากสีหน้าครุ่นคิดแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ การเอียงคอ ลองปฏิบัติตามนะคะ เอียงคอของคุณไปด้านขวานิดๆ เงยขึ้นมา แล้วก็เอียงไปด้านซ้าย ทำสลับไปเรื่อยๆ คล้ายๆ เครื่องหมายอินฟินิตี้ “∞” ชมตัวอย่างจากภาพด้านล่างเลยค่ะ

เกตุวดีตัดเทปสัมภาษณ์ของดาราสาว “อาโออิ ยู” ตัดมาทุก 2 วินาที เห็นสีหน้าเธอมั้ยคะ เริ่มจากภาพซ้ายสุด ทำสีหน้าครุ่นคิดเข้าไว้ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ พูด เอียงซ้ายเสร็จ กลับมาที่เซ็นเตอร์ แล้วเอียงขวาต่อ สบตาผู้ฟังน้อยบ้างมากบ้าง ไม่ต้องจ้องหน้าตลอดเวลาค่ะ
3. ท่ายิ้ม
จริงๆ ท่านี้เป็นท่าที่สาวไทยถนัดที่สุด และเป็นหนึ่งในกระบวนท่าไม้ตายพิฆาตหัวใจหนุ่มญี่ปุ่นเลยทีเดียว เกตุวดีขอพูดผ่านไปไวๆ เลยนะคะ ฉบับนี้เอามาฝากทั้งหมด 4 ท่า แล้วแต่ความถนัดหรือความชอบของแต่ละท่านค่ะ จะนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ก็ได้ ไม่ว่ากัน



แบบที่ 3:ยิ้มแบบเด็ก ดาราสาวญี่ปุ่นชอบใช้ เบิ่งตาให้กว้างๆ ทำสีหน้าตื่นเต้นเข้าไว้ ยิ้มให้ปากฉีกถึงรูหูหรือคิ้วไปเลย กระพริบตาบ่อยๆ สำหรับสุภาพสตรีที่ใส่บิ๊กอาย กรุณาใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง หากถลึงตามากไป บิ๊กอายอาจกระเด็นหลุดจากลูกตาและสร้างความตื่นตระหนกแก่สุดที่รักของคุณได้

แบบที่ 4:ยิ้มแบบฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัท ยิ้มกว้างๆ ตาใสๆ ไม่ต้องเบิ่งเท่าแบบที่ 3 จากประสบการณ์ รู้สึกว่าสาวไทยจะถนัดแบบนี้กันมากที่สุดค่ะ ดูเป็นธรรมชาติดี
4. ท่านางอาย
แอ๊บต่อจากท่าที่ 3 กันนะคะ ถ้าฝ่ายตรงข้ามเกิดเป็นคนตลกถึงตลกมาก เวลาไปเดท รู้สึกเหมือนไปดูเดี่ยวไมโครโฟน ทีนี้สิ่งที่คุณต้องระวังคือ อย่าไปหัวเราะฮ่าฮ่าฮ่าก้องฟ้า แม้มันจะดูเป็นสาวห้าวจริงใจ แต่มันผิดหลักปณิธานในการแอ๊บสาวญี่ปุ่นของพวกเราค่ะ กุลสตรีญี่ปุ่นต้องหัวเราะแบบอายๆ นิดๆ พองาม
ท่านี้ง่ายมาก ให้เอามือข้างที่ถนัด (หรือข้างที่ไม่ถนัดก็ได้) ขึ้นมาปิดบริเวณริมฝีปากหรือจมูก อย่าปิดตา เพราะจะดูเหมือนผู้ต้องหาหรือไม่ก็กำลังเล่นซ่อนแอบ ดูภาพแล้วทำตามเลยค่ะ






ฮิ-ฮุ-โฮะ นักแสดงสาวคนนี้ (อายาเสะ ฮารุกะ) เธอใช้ 3 กระบวนท่าจู่โจมหัวใจคู่ต่อสู้ภายในเวลาแค่ 3 วินาทีค่ะ…Professional มากๆ

ส่วนท่านี้ เราเรียกว่าท่า “นางอายมาก” แทนที่จะใช้มือเดียว ให้เอา 2 มือมาปิดปากแทน ย้ำอีกครั้ง ปิดบริเวณริมฝีปากถึงจมูกก็พอนะคะ ไม่ต้องปิดหู หรือปิดหน้าทั้งหน้า
จบแล้ว 4 ท่า หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านที่รักชอบสาวญี่ปุ่น หรืออยากเป็นสาวญี่ปุ่นนะคะ
สำหรับสาวๆ เริ่มเมื่อยมือ เมื่อยตา เมื่อยแก้มกันหรือยังคะ ลองฝึกกันดูนะคะ คุณจะได้น่ารัก คิกขุแบบสาวญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับหนุ่มๆ ที่หลวมตัวอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ หวังว่าบทความนี้จะทำให้ท่านเข้าใจตัวเองดีขึ้นว่า ทำไมเราถึงรู้สึกว่าสาวญี่ปุ่นน่ารัก คิกขุ น่าปกป้องทะนุถนอมตลอดเวลา
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura