Komahime ชะตาชีวิตอันน่าเศร้าขององค์หญิงโฉมงามยุคสงคราม
ชีวิตจริงของเจ้าหญิง อาจมิได้สุขสมโรยด้วยกลิ่มกุหลาบดั่งเช่นนิยาย และยิ่งเป็นเจ้าหญิงที่ถือกำเนิดท่ามกลางไฟสงครามอย่างยุคเซ็นโกคุ กลียุคแห่งความวุ่นวายช่วงชิงความเป็นใหญ่ของเหล่าไดเมียวที่กินระยะเวลายาวนานกว่า 200 ปี ดังเช่นโคมะฮิเมะ ดรุณีโฉมงามอันดับหนึ่งแห่งโทโฮคุ ที่การแต่งงานนำพาความตายมาสู่ชีวิตนาง
โคมะฮิเมะ https://commons.wikimedia.org
โคมะฮิเมะ(駒姫)เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1581 เป็นธิดาของโมงะมิ โยชิอากิ(最上義光)ไดเมียวเจ้าเมืองเดวะ ดินแดนในเขตจังหวัดยะมะงะตะในปัจจุบัน ที่เกิดกับภรรยาหลวง และนางยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของดาเตะ มาซามุเนะ(伊達政宗)ไดเมียวแห่งแคว้นโอชู ผู้ก่อตั้งเมืองเซ็นไดอีกด้วย
ความงามที่เฉิดฉายโดดเด่นตั้งแต่วัยเยาว์ขององค์หญิงน้อยเป็นที่ร่ำลือกล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวางจนได้รับการขนานนามว่า “ดรุณีโฉมงามอันดับหนึ่งแห่งโทโฮคุ” ตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่วัยสาว ชีวิตของนางฟังดูสวยงามสมบูรณ์แบบดั่งเจ้าหญิงในนิยาย เพราะนางมิได้มีเพียงรูปโฉมที่งดงามเท่านั้น แต่ยังเพรียบพร้อมด้วยการศึกษา กริยามารยาทที่อ่อนโยนสง่างาม และการได้รับความรักจากทั้งท่านพ่อและท่านแม่อย่างหมดหัวใจของท่านทั้งสอง
แต่ความงามที่เป็นดั่งพรแห่งสวรรค์กลับกลายเป็นสิ่งที่นำพาชะตาอันเลวร้ายมาสู่นาง เมื่อความงดงามของนางเป็นที่ร่ำลือไปไกลถึงเมืองหลวงเกียวโต เข้าถึงหูโทโยโทมิ ฮิเดะซึกุ (豊臣秀次)ผู้ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนฯ ผู้ที่จะได้รับสืบทอดอำนาจปกครองญี่ปุ่นต่อจากโทโยโทมิ ฮิเดะโยชิ (豊臣秀吉)บิดาบุญธรรมผู้มีอำนาจปกครองแผ่นดินญี่ปุ่นในขณะนั้น
โทโยโทมิ ฮิเดะซึกุ https://ja.wikipedia.org
โทโยโทมิ ฮิเดะซึกุไม่รอช้าส่งคำขอแต่งงานโคมะฮิเมะไปยังโมงะมิ โยชิอากิ บิดาของนางในทันที บิดาของนางไม่ยินดีที่จะตอบรับการสมรสนี้นักเพราะโคมะฮิเมะต้องไปเป็นภรรยาน้อย ของโทโยโทมิ ฮิเดะซึกุผู้มีชื่อเสียงร่ำลือว่าเป็นผู้เจ้าชู้มากรัก มีสาวงามเป็นภรรยาอยู่แล้วมากมาย แต่คำขอแต่งงานก็ถูกส่งมาหลายต่อหลายครั้ง จนสุดท้ายบิดาของนางต้องยอมจำนนยกนางให้
ปีค.ศ. 1595 โคมะฮิเมะถูกส่งตัวเดินทางออกจากเมืองเดวะบ้านเกิดไปยังเกียวโตดินแดนอันห่างไกล แม้นางจะเดินทางมาถึงและพำนักอยู่ในเกียวโตในนามภรรยาน้อยของฮิเดะซึกุแล้ว แต่นางก็ไม่เคยได้พบหน้าสามีเลย เพราะเขายุ่งอยู่กับงานราชการของผู้สำเร็จราชการแทนฯ และใช้เวลาพักผ่อนกับสาวงามอื่นๆมากมาย โดยที่ไม่เคยมาหานางเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แล้วเหตุการณ์สำคัญที่สั่นคลอนทั้งแผ่นดินญี่ปุ่นและชะตาชีวิตของนางก็เกิดขึ้น เมื่อโทโยโทมิ ฮิเดะซึกุ ถูก โทโยโทมิ ฮิเดะโยชิ พ่อบุญธรรมของเขาสั่งให้ทำเซ็ปปุกุ(切腹)ปลิดชีพตนเองอย่างมีเกียรติด้วยการคว้านท้อง และผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับเขาจำนวนมากถูกยัดเยียดความผิดให้และบังคับให้ทำเซ็ปปุกุเหมือนเขาด้วยเช่นกัน
โทโยโทมิ ฮิเดะโยชิ https://www.news-postseven.com
แม้ในปัจจุบันยังคงหาคำตอบไม่ได้ว่าอะไรคือเหตุผลของคำสั่งและการลงโทษในผิดนั้น แต่ในเวลานั้น ด้วยความกดดันและอำนาจสิทธิ์ขาดของผู้ปกครองแผ่นดินญี่ปุ่น แม้ไม่ยอมปลิดชีพตัวเองในวันนี้ ก็ย่อมต้องถูกไล่ล่า ต้องหนีเอาชีวิตรอดไปจนกว่าจะถูกสังหารในวันหน้า เพราะบิดาบุญธรรมของเขาได้บุตรชายสืบทอดอำนาจสมใจแล้ว เขาไม่ใช่ทายาทผู้สืบสายเลือด เป็นเพียงหุ่นเชิดตัวหนึ่งที่ถูกว่าบนเก้าอี้ผู้สำเร็จราชการแทนฯ เพื่อจองมันไว้ รอจนกว่าบุตรชายโดยสายเลือดของผู้ปกครองใต้หล้าจะมาสืบทอดอำนาจ แล้ววันนั้นก็มาถึง
หุ่นเชิดอย่างเขาจะไปมีอำนาจอะไรมาขัดขืนผู้ปกครองแห่งใต้หล้าเล่า แค่บัญชาลงตราประทับของผู้ปกครองญี่ปุ่นก็พร้อมที่จะทำให้ไดเมียว ซามูไร และคนทั้งใต้หล้าออกไล่ล่าสังหารเขาและพวกพ้องผู้จงรักภักดี เพื่อแลกกับรางวัลและเกียรติยศชื่อเสียงแล้ว ครั้นจะหันไปพึ่งพาเหล่าไดเมียวที่กระด่างกระเดื่องรอคอยโอกาสประกาศตัวเป็นอิสระแยกจากบิดาบุญธรรมของเขา เขาก็มิได้มีความสามารถด้านการรบ มิได้มีกองทัพที่แข็งแกร่ง มีเพียงผู้ติดตามที่จงรักภักดีเพียงหยิบมือ เขาไม่มีสิ่งใดเพียงพอให้แลกกับความช่วยเหลือเลย เขาไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้วไม่ว่ากับผู้ใดทั้งนั้น เขาและผู้จงรักภักดีทุกคนจึงพร้อมใจกันทำเซ็ปปุกุปลิดชีพตนเองลงทั้งหมดในที่สุด
ภาพจำลองเหตุการณ์หลัง ฮิเดะซึกุ ได้รับจดหมายคำสั่งให้ทำเซ็ปปุกุจาก ฮิเดะโยชิ https://sengoku-his.com
ทว่าคำสั่งของ ฮิเดะโยชิ มิได้มีเพียงเท่านั้น เขาต้องการกำจัดอำนาจของ ฮิเดะซึกุ อย่างสิ้นซาก เขาสั่งให้สังหารเหล่าภรรยาและลูกทุกคนของฮิเดะซึกุ แม้โคมะฮิเมะจะยังไม่เคยได้พบกับฮิเดะซึกุเลย แต่นางก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาคนหนึ่งของเขาจึงต้องถูกกำจัดทิ้งด้วย แม้จะมีคำร้องจากบิดาของนางและผู้มีอำนาจหลายคนขอให้ละเว้นชีวิตนาง แต่ก็ไม่สามารถทำให้ผู้ปกครองญี่ปุ่นเปลี่ยนการตัดสินใจได้เลย
เหล่าภรรยาและลูกของฮิเดะซึกุและโคมะฮิเมะรวม 39 คน ถูกกวาดต้อนไปยังที่ราบริมแม่น้ำซันโจในเกียวโตเพื่อสังหาร โคมะฮิเมะในวัยเพียง 15 ปี ได้กล่าวคำพูดสุดท้ายด้วยท่าทีสงบสง่างาม มิได้หวาดกลัวหรือตื่นตกใจ ก่อนจะประนมมือสองข้าง โน้มตัวยื่นคอไปด้านหน้าให้เพชรฆาตตัดศีรษะเพื่อปลิดชีพ ร่างไร้วิญญาณของนางและภรรยาและลูกๆ ของสามีนางทั้ง 39 ชีวิตไม่ได้รับเกียรติให้ฝังในหลุมเดี่ยวตามประเพณี แต่ถูกโยนร่างฝังกลบลงหลุมเดียวกันทั้งหมดใต้ป้ายหินสลัก “ตระกูลเดรัจฉาน”
แม่น้ำซันโจในปัจจุบัน https://nekonezumi.exblog.jp
ชีวิตของนางที่ถูกพรากไปอย่างโหดร้ายและไม่สมเหตุสมผล ทำให้ท่านพ่อของนางตกอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจเป็นเวลานาน แต่ท่านแม่ขององค์หญิงมิได้เศร้าโศกเสียใจเป็นเวลานาน เพราะนางตรอมใจตายตามลูกสาวสุดที่รักไปหลังจากนั้นเพียง 2 สัปดาห์ แต่บ้างก็กล่าวกันว่านางปลิดชีพตัวเองให้ตายตามไป
การกำจัดเสี้ยนหนามอย่างถอนรากถอนโคน ฆ่าล้างโคตรทั้งตระกูล เป็นเรื่องปกติในหน้าประวัติศาสตร์ของทุกชนชาติ แต่มันสมเหตุสมผลแล้วหรือที่แค่เพราะเป็นภรรยา เป็นทายาท เป็นข้ารับใช้ของตระกูล หรือเป็นแค่ภรรยาน้อยที่ยังไม่เคยแม้แต่ได้พบหน้าสามีอย่างโคมะฮิเมะ จึงต้องพลอยถูกสังหารให้ตายตกไปตามกัน
ที่มา https://rinto.life/114025
ภาพหน้าปก http://www.jiroyowa.com
#Komahime ชะตาชีวิตอันน่าเศร้าขององค์หญิงโฉมงามยุคสงคราม