ทริปนี้ มีอิสระทางเวลาและการเงินพอที่จะได้เลือกร้านอาหารที่ตัวเองอยากทาน จาก 16 ร้านที่เกตุวดีไปชิม ดิฉันขอโหวตให้ร้าน “Yebisu Bar” (อ่านว่า เอบิสึ บาร์) เป็นร้านอาหารที่ควรค่าแก่การชื่นชมมากที่สุด

ดิฉันเพิ่งกลับจากญี่ปุ่นสัปดาห์ที่แล้วค่ะ ไป “ทำงาน” ที่โกเบมา 1 สัปดาห์ ทริปนี้ มีอิสระทางเวลาและการเงินพอที่จะได้เลือกร้านอาหารที่ตัวเองอยากทาน จาก 16 ร้านที่เกตุวดีไปชิม ดิฉันขอโหวตให้ร้าน “Yebisu Bar” (อ่านว่า เอบิสึ บาร์) เป็นร้านอาหารที่ควรค่าแก่การชื่นชมมากที่สุด
เนื่องจากเกตุวดีไม่ใช่นักชิม และค่อนข้างค่อนไปทางลิ้นจระเข้ จึงไม่สามารถรีวิวรสชาติได้ถนัดนัก ดิฉันขอรีวิวในแง่นักการตลาด (อาชีพหลักข้าพเจ้า) ขอจัดอันดับโดยให้คะแนนร้านที่ใส่ใจทุกรายละเอียด และใส่ไอเดียเล็กๆ น้อยๆ แต่ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีมากๆ ได้ นะคะ รีวิวไว้เพื่อให้เห็นไอเดียเก๋ๆ เผื่อใครทำธุรกิจจะได้นำไปปรับใช้เล็กน้อย ไม่ได้รีวิวรสชาติอาหาร เพราะฉะนั้น ไม่ต้องพยายามสรรหาดิ้นรนไปทาน แค่ตามมาอ่านก็พอแล้วฮ่ะ
เพียงแค่ดิฉันก้าวเข้าไปในร้าน พนักงานสาวที่เพิ่งเสิร์ฟอาหารให้โต๊ะแถวๆ นั้นก็สบตา และรีบกล่าวต้อนรับดิฉัน เธอเดินเข้ามาหาทั้งๆ ที่มือยังถือถาดและถามดิฉันว่ามากี่คน ดิฉันก็บอกว่า “1 คน” นางดูหน้าจืดๆ ของเกตุวดี แล้วถามว่า “ที่นั่งไม่สูบบุหรี่นะคะ?” เซ้นส์ดีมากน้องหนู ดิฉันพยักหน้า นางจึงนำพาสาวเปลี่ยวอย่างดิฉันไปนั่งโต๊ะที่นั่งได้ 2 คน โต๊ะข้างๆ เป็นมนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่น 2 คน หน้าตาระดับธรรมดา (….ก็ไม่รู้จะเล่าให้ละเอียดขนาดนั้นไปทำไม)
4 วินาทีหลังจากน้องพาไปนั่งที่โต๊ะ นางเอาน้ำเปล่าและเมนูมาให้ ดีจังไม่โอ้เอ้ชอบมาก เวลาไปร้านอาหารที่ญี่ปุ่น ชอบการต้อนรับอันรวดเร็วและกระตือรือร้น เท่านั้นไม่พอพนักงานก็แต่งตัวเข้ากับธีมช่วงคริสต์มาส ใส่หมวกซานต้าบ้าง ที่คาดผมเขากวางบ้าง ฟรุ้งฟริ้งน่ารักดี

แต่นั่นยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ดิฉันจะรู้สึกประทับใจร้านเอบิสึหรอกนะ
สิ่งที่ประทับใจเกตุวดีจริงๆ คือ ความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของร้านนี้ต่างหากค่ะ ขอเริ่มจากการรีวิวซองตะเกียบ …
ปกติร้านอาหารญี่ปุ่น ซองตะเกียบจะเป็นชื่อร้าน เป็นซองกระดาษธรรมดาแบบนี้ใช่ไหมคะ



คือว่าถ้าไปทานร้านอาหารธรรมดาๆ หลายร้านจะไม่มีที่วางตะเกียบให้ เวลาเราจะพักหรือวางตะเกียบ ก็ต้องเอาไปวางพาดบนจานแทน มันอาจจะไม่ค่อยสวยงามเท่าไร หรือวางไม่ค่อยถนัด ทางร้านเอบิสึเลยให้แขกเอาซองนี่แหละ มาพับๆ เป็นที่วางตะเกียบได้ ลูกค้าก็แฮ้ปปี้ เพราะมีที่วางตะเกียบเป็นของตัวเอง แถมยังเอามาพับๆ ระหว่างรออาหาร สนุกสนานไปอีกแบบ
ส่วนทางร้านก็แฮ้ปปี้ เพราะไม่ต้องเสียเงินซื้อที่วางตะเกียบ ไม่ต้องเสียเวลาล้างที่วางตะเกียบด้วย แค่ประยุกต์เอาสิ่งที่มีอยู่แล้ว (นั่นคือ ซองตะเกียบ) มาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้พอดี

อีกสิ่งหนึ่งที่ดิฉันคิดว่าน่ารักมากๆ คือ วิธีการเตือนว่า “กระทะร้อน” ปกติเวลาเสิร์ฟอาหารพวกเทปปังยากิ (กระทะร้อน) หรือนาเบะ (หม้อไฟ) พนักงานญี่ปุ่นจะเตือนลูกค้าอยู่แล้วว่าร้อนนะคะ แต่บางทีเราก็เผลอหยิบ เผลอเอามือไปโดน เพื่อไม่ให้ลูกค้าเบ๊อะบ๊ะอย่างดิฉันเกิดอันตรายต่อมือและชีวิต ร้านเอบิสึเขาพันกระดาษสีแดงแจ๊ดตรงด้ามจับไว้เลยค่ะ มองเห็นง่ายมาก แถมถ้ามือบังเอิ๊ญบังเอิญไปโดน ก็ยังมีกระดาษกันไว้ 1 ชั้น

แค่อาหารห่วงใยใส่ใจผู้บริโภคยังไม่พอ ตัวเครื่องดื่มเองก็ยัง entertain ลูกค้าด้วย ปกติร้านอาหารญี่ปุ่นจะเสิร์ฟน้ำแข็งก้อนสี่เหลี่ยมธรรมดาๆ แต่ร้านนี้ น้ำแข็งกลมดิ๊กค่ะ ^^ ขนาดดิฉันไม่ได้สั่งพวกออนเดอะร็อค สั่งน้ำส้มนางเอ๊กนางเอกธรรมดา ทางร้านก็ยังจัดน้ำแข็งหรรษาให้ดิฉันเลย

สุดท้ายตอนเช็คบิล ทางร้านก็ยังทำให้ดิฉันประทับใจ… ปกติร้านญี่ปุ่นเขาจะมีฟลิปบอร์ดหรือกล่องเสียบบิล เวลาเราจะเช็คบิล ก็ต้องเอาเจ้าบอร์ดพลาสติกเล็กๆ หรือกำใบเสร็จไปให้พนักงาน เวลาเราสั่งอาหารอะไรเพิ่ม พนักงานก็จะเอาบิลใบใหม่มาเสียบ หรือมาเขียนเพิ่มในฟลิปบอร์ด (ใครนึกไม่ออกลองไปทานฮะจิบังราเม็งดู เค้าใช้ระบบนั้น)
แต่ร้านนี้พนักงานไม่ต้องวนเวียนมาที่โต๊ะเราบ่อยๆ ไม่ต้องกลัวว่าเราจะถือใบเสร็จไปให้ไม่ครบ พนักงานเขาดีลกับแคชเชียร์กันเอง เราแค่ถือเอากระดาษพลาสติกเขียนหมายเลขโต๊ะนี้ไปที่แคชเชียร์ก็พอ

โปรดสังเกตว่าด้านหลังแคชเชียร์ จะมีซองพลาสติกใสเขียนหมายเลขโต๊ะต่างๆ ซึ่งจะมีบิลเสียบอยู่ แคชเชียร์ก็นำบิลตรงนี้มาคิดเงินเรา ก็เสร็จเรียบร้อย แต่บางท่านที่กลัวเขาคิดเงินขาดหรือเกินอาจจะไม่ชอบ เพราะไม่ได้เช็คบิลอาหารก่อน อันนี้ก็นานาจิตตังจ้ะ
นอกจากระบบการคิดเงินที่ไม่จุ้นจ้านกับลูกค้าแล้ว ค่าอาหารถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีค่ะ ราคาคิดแบบรวมภาษี VAT แล้วจะออกมาตัวเลขสวยๆ อย่างมื้อนี้ ดิฉันเสียไป 800 เยน ควักแบงค์จ่ายหรือรับเงินทอนง่ายดี ไม่ต้องมีเศษเหรียญให้วุ่นวายใจเมื่อเปรียบเทียบร้านอาหารอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ จะตั้งราคาแบบพิลึกๆ หน่อย เช่น 758 เยน 976 เยน เป็นเพราะเดิมมันอาจราคาแบบ 7-800 เยน แต่พอรวม VAT 8% เข้าไป หน้าตามันเลยไม่ค่อยงาม

การใส่ใจรายละเอียดตั้งแต่ก้าวเข้าร้านยันชุดพนักงาน เมนูอาหาร จนถึงตอนคิดเงินนี้ ทำให้ดิฉันโหวตให้ร้าน Yebisu Bar เป็นร้านที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้ค่ะ (รสชาติก็อร่อยดีนะคะ)
สุดท้ายนี้วันพรุ่งนี้ก็คริสมาสต์อีฟแล้ว ขอ Merry Christmas ล่วงหน้าจากซานต้าญี่ปุ่นที่ไปดักถ่ายรูปมาจ้ะ โฮ่ๆๆๆ โฮะๆๆๆ

ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Facebook เกตุวดี
ผักกาด! ดิฉันเริ่มพอจะเล่นทวิตเตอร์เป็นแล้ว 555 ใครเล่นทวิตเตอร์ มาติดตามความเวิ่นเว้อของเกตุวดีกันได้ที่นี่เลยจร้า https://twitter.com/Gadewadee_Maru

เพื่อนๆ ทราบหรือยังว่า คอลัมน์ Japan Gossip ของพวกเราถูกรวมเล่มเป็นหนังสือแล้ว!!! ชื่อ “Japan Gossip: เม้าท์ญี่ปุ่นให้คุณยิ้ม” มีแทรกการ์ตูนและเกร็ดเรื่องเล่าญี่ปุ่นเพิ่มด้วย

การ์ตูนปกน่ารักมาก แต่ยืนยันว่า เกตุวดีตัวจริงสวยและเซ็กซี่กว่า

ใครสนใจ ลองหาไว้วางในห้องน้ำเพื่อนั่งอ่านให้ขำยามเช้าตอนประกอบภารกิจ หรือจะซื้อฝากคนที่จะไปเที่ยว/เรียนญี่ปุ่นก็ได้ เราไม่ว่ากัน หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป เช่น ซีเอ็ด นายอินทร์ เลยค่ะ เล่มละ 180 บาท