อุโมงค์คิโยทากิ อุโมงค์ผีที่น่ากลัวที่สุดในเกียวโต
อุโมงค์คิโยทากิ (清滝トンネル) เป็นอุโมงค์ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านคิโยทากิ ภูเขาอาทาโกะ จ.เกียวโต จากสถานีเกียวโตขับรถราว 30 นาที อยู่ทางเหนือของอาราชิยามะ อุโมงค์แห่งนี้มีประวัติยาวนานเชื่อมโยงกับความศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณคนตายหลายยุคหลายสมัย จนกลายเป็นสถานที่ผีสิงที่มีเรื่องเล่าหลอนๆ มากมาย
โดยเฉพาะสัญญาณไฟจราจรหน้าอุโมงค์ “หากเห็นว่าเป็นสีเขียว อย่าเพิ่งขับเข้าไป ให้รอเป็นสีแดงและเปลี่ยนเป็นสีเขียวอีกรอบ จึงเข้าไปได้” เพราะอะไรกันนะ?
จุดเริ่มต้นอุโมงค์คิโยทากิ
ในช่วง ค.ศ. 701-704 มีการสร้างศาลเจ้าอาทาโกะขึ้นเพื่อการแสวงบุญของนักบวชบนภูเขาที่เรียกว่า “ชูเกนโด” โดยเป็นศาลเจ้าหลักในบรรดาศาลเจ้าอาทาโกะทั้งหมดทั่วญี่ปุ่น (ศาลเจ้าอาทาโกะเป็นศาลเจ้าที่ปกป้องบ้านเมืองจากอัคคีภัยและภัยพิบัติ ซึ่งมีอยู่ราว 900 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น)
ต่อมาในปี ค.ศ. 1922 วัดโอทากิ เนนบุตสึ ก็ย้ายมาอยู่ที่นี่
วัดโอทากิ เนนบุตสึ เป็นวัดที่เก่าแก่มาก สร้างเมื่อปี ค.ศ. 766 ที่ฮิกาชิยามะ ก่อนจะย้ายมาที่นี่ และได้กลายเป็นจุดหมายแรกในเส้นทางแสวงบุญของภูเขาอาทาโกะ
และปี ค.ศ. 1929 จึงมีการสร้างสถานีเพื่อให้คนมาสักการะศาลเจ้าอาทาโกะ โดยเจาะภูเขาสร้างอุโมงค์รถไฟขึ้น ซึ่งก็คือ “อุโมงค์คิโยทากิ”
ตำแหน่งของอุโมงค์อยู่ระหว่างวัดกับศาลเจ้า
ด้านหน้าอุโมงค์คือ วัดโอทากิ เนนบุตสึ พอลอดผ่านอุโมงค์ออกมาก็เจอหมู่บ้านคิโยทากิ ซึ่งมีศาลเจ้าอาทาโกะอยู่
เมื่อมีสถานีรถไฟ หมู่บ้านคิโยทากิก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวคึกคัก มีโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย
เส้นทางแสวงบุญกลายเป็นสถานที่หลอน
หมู่บ้านคิโยทากิเป็นแหล่งท่องเที่ยวคึกคักอยู่ได้ไม่นาน ก็เกิดสงครามขึ้น รถไฟจึงหยุดให้บริการในปี ค.ศ. 1944 ทำให้อุโมงค์คิโยทากิถูกใช้เป็นโรงงานผลิตยุทโธปกรณ์ และผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินสงคราม ซึ่งก็น่าจะมีคนงานจำนวนไม่น้อยเสียชีวิตอยู่ในอุโมงค์
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 อุโมงค์คิโยทากิก็กลายเป็นอุโมงค์สำหรับรถยนต์ผ่าน มาจนถึงปัจจุบัน บริเวณโดยรอบยังมีซากปรักหักพังของสถานที่ท่องเที่ยวในอดีตอยู่
หลังจากเปลี่ยนเป็นอุโมงค์ให้รถผ่าน ผู้คนที่ขับผ่านก็ได้เจอเรื่องราวหลอนๆ มากมายในอุโมงค์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเส้นทางสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จนขึ้นชื่อว่ามีวิญญาณวนเวียนอยู่ในอุโมงค์แห่งนี้
กฎการเข้าอุโมงค์คิโยทากิ
อุโมงค์คิโยทากิยาวประมาณ 500 เมตร แต่เมื่อเข้าไปแล้วจะมองไม่เห็นปลายอุโมงค์ เพราะอุโมงค์โค้ง ทำให้ดูเหมือนอุโมงค์ตันและมืด ทางในอุโมงค์มีเพียงเลนเดียว แคบพอดีขนาดของรถหนึ่งคัน
ด้วยความแคบนี้ทำให้มีการติดตั้งสัญญาณไฟจราจรเพื่อให้ขับเข้าไปได้ทีละเลน แต่ก็มีคำบอกเล่าว่า ถึงจะเห็นว่าไฟสีเขียวก็ “ห้ามเข้าไป”
กฎการเข้าอุโมงค์คือ ถ้าสัญญาณไฟเป็นสีเขียว ห้ามเข้า
ต้องหยุดรอให้เห็นว่าไฟเปลี่ยนเป็นสีแดง แล้วพอไฟเขียว จึงเข้าไปได้
ว่ากันว่า ไฟเขียวในตอนแรกอาจเป็นวิญญาณที่เชิญชวนเราไปสู่โลกวิญญาณ หากเข้าไปจะเจอปรากฏการณ์แปลกๆ
จึงต้องรอให้แน่ใจว่าไฟเปลี่ยนเป็นสีแดง
แต่จริงๆ เรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยด้วย เพราะถ้าเข้าไปทันทีเลย ระหว่างอยู่ในอุโมงค์ สัญญาณไฟอาจจะเปลี่ยน ออกจากอุโมงค์ไม่ทัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
กระจกจราจรสุดหลอน
นอกจากนี้ ใกล้ๆ อุโมงค์ก็มีกระจกจราจรที่เป็นกระจกลักษณะโค้ง ที่ไว้ใช้สำหรับมองรถในมุมที่มองไม่เห็น
กระจกโค้งจราจรโดยปกติจะตั้งฉากกับพื้น แต่กระจกนี้ติดที่กำแพง แล้วขนานไปกับพื้น เวลามองกระจกจึงต้องเงยหน้าขึ้นฟ้า
ความหลอนคือ หากเงยหน้าขึ้นมองกระจก แล้วไม่เห็นเงาตัวเอง หมายถึงว่าเรากำลังจะตายเร็วๆ นี้
บางคนก็บอกว่าอาจจะเห็นวิญญาณเด็กหรือวิญญาณคนแก่ในกระจก แปลว่าเรากำลังจะตายเช่นเดียวกัน
ส่วนสาเหตุที่ติดกระจกโค้งจราจร ให้ขนานไปกับพื้น ก็เพราะถนนตรงนั้นสูงชัน รถที่อยู่บนเขาเมื่อมองกระจกก็จะเห็นว่าถนนด้านล่างมีรถกำลังขึ้นมาหรือไม่
ปรากฏการณ์ในอุโมงค์คิโยทากิ
ปรากฏการณ์หลอนๆ ระหว่างขับอยู่ในอุโมงค์ที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ วิญญาณของผู้หญิงชุดขาว เธอจะตกลงมากระแทกใส่ฝากระโปรงรถอย่างน่าสะพรึง หรืออาจยืนอยู่กลางอุโมงค์จ้องมองเขม็ง
ซึ่งเมื่อราว 30 ปีก่อน เธอได้ฆ่าตัวตายในป่าใกล้ๆ อุโมงค์
ระหว่างอยู่ในอุโมงค์อาจได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิง และเมื่อออกจากอุโมงค์ก็อาจพบว่า กระจกรถมีรอยมือคนเต็มไปหมด…
สำหรับใครที่จะไปพิสูจน์ความหลอน ก่อนเข้าอุโมงค์ก็แวะเที่ยววัดโอทากิ เนนบุตสึ กันได้ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง “การปลอบประโลมจิตใจ”
ส่วนศาลเจ้าอาทาโกะ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ขึ้นชื่อในอดีต ลอดอุโมงค์แล้วต้องเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร
ก่อนลอดอุโมงค์ อย่าลืมรอให้สัญญาณไฟเป็นสีแดงก่อนนะ!
เรื่องแนะนำ :
– “คาโกเมะ คาโกเมะ” การละเล่นปริศนาที่สุดของญี่ปุ่น
– 4 เรื่องเล่าหลอนเหตุแผ่นดินไหวโทโฮคุ
– สนามซ้อมรบที่เปื้อนเลือดผู้บริสุทธิ์ สู่ทุ่งดอกไม้สีคราม
– ดอกซากุระเป็นสีชมพูเพราะเลือด?
– “ทะเลสาบผีสิง” 1 ในทะเลสาบฟูจิทั้ง 5
ที่มาและรูปภาพ :
https://traveroom.jp/kiyotakitunnel
http://atagojinjya.jp/
https://www.otagiji.com/story-jp
https://shiori-tabi.jp/posts/16221
https://kyo-soku.com/2018/05/15/shinrei/
#อุโมงค์คิโยทากิ อุโมงค์ผีที่น่ากลัวที่สุดในเกียวโต #Kiyotaki Tunnel #เที่ยวเกียวโต #Kyoto #เรื่องเล่าผีญี่ปุ่น