เช้าวันนี้เราเริ่มต้นกันด้วยมิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์ใกล้เคียงกับวัดโพธิ์ ก่อนพาชมวัดอะไรก็พามาปูพื้นฐานประวัติศาสตร์ให้แน่นก่อน ชักไม่แน่ใจว่าเป็นทริปเที่ยวหรือทัศนศึกษา แหะๆ
ตารางพาชิสุกะเที่ยวอัดแน่นทุกวันค่ะ ถัดจากอยุธยาก็พาเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ต่อ เช้าวันนี้เราเริ่มต้นกันด้วยมิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์ใกล้เคียงกับวัดโพธิ์ ก่อนพาชมวัดอะไรก็พามาปูพื้นฐานประวัติศาสตร์ให้แน่นก่อน ชักไม่แน่ใจว่าเป็นทริปเที่ยวหรือทัศนศึกษา แหะๆ
แต่ AME.dama คิดว่าถ้าชมแบบมีความเข้าใจสักหน่อยน่าจะสนุกมากกว่านะคะ อย่างไรก็ตามมิวเซียมสยามมีอะไรให้เรียนรู้ไปพร้อมกับเล่นสนุกเยอะค่ะ ใครยังไม่เคยมา ลองหาเวลามาเดินเล่นดูนะคะ ^^
หลังจากชมหนังสั้นเกริ่นภาพรวมการเดินชมในพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว เราก็เดินเข้าไปชมด้านในที่มีโซนให้ถ่ายรูปสวยๆ งานนี้ชิสุกะแปลงร่างเป็นคนขับตุ๊กตุ๊กกับแม่ค้าขายส้มตำไปเลย
แต่ละห้องก็นำเสนอความเป็นมาของประวัติศาสตร์ชาติไทยได้อย่างน่าสนใจเชียวค่ะ ที่ถูกใจมากคือมีเกมให้เล่นด้วย อย่างเช่นภาพด้านซ้ายเป็นเกมแลกเปลี่ยนสินค้ากับพ่อค้าชาติต่างๆ ที่มาค้าขายกับคนไทยในสมัยอยุธยา ในภาพเป็นพ่อค้าจากริวกิว เกาะโอกินาว่าค่ะ สินค้าที่นำมาแลกเปลี่ยนกับคนไทยก็มีไข่มุก ขนนก เปลือกหอย ปะการัง สาหร่าย และในภาพด้านขวาเป็นเกมการจัดกระบวนรูปแบบทัพตามตำราพิชัยสงครามค่ะ มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษค่ะ เล่นแล้วเพลินดี ^^
แล้วก็มีให้ใส่ชุดไทยประยุกต์สมัยรัชกาลที่ ๕ ด้วยค่ะ สำหรับผู้ชายก็มีชุดราชประแตนพร้อมหมวกเตรียมไว้ให้ด้วยค่ะ ในภาพเป็นตัวอย่างการใส่ที่ผิดค่ะ เฉิ่มเบ๊อะมาก ซิปหรือกระดุมที่ติดต้องอยู่ด้านหลังนะคะ ใส่ผิดกันทั้งคนไทยคนญี่ปุ่น จนพี่พนักงานคงทนดูต่อไปไม่ไหวเดินเข้ามาบอกว่าใส่ผิดด้านนะคะ งานนี้เลยฮาเลย
เดินเอ้อระเหยกันในมิวเซียมสยามกันไปหลายชั่วโมง เราก็ย้ายกันไปชมวัดโพธิ์ที่อยู่ข้างๆ ชมพระพุทธไสยาสน์องค์ประธานที่ชิสุกะเห็นในสมุดนำเที่ยวมาตลอดและวันนี้ก็ได้มาเห็นของจริงแล้ว ดีที่ AME.dama ลงเรียนวิชาการท่องเที่ยวไทยเป็นภาษาญี่ปุ่นเอาไว้ตอนปี 4 ถึงตอนนั้นจะต้องจำศัพท์ยากๆ เยอะแยะ แต่ตอนนี้เราสามารถนำสิ่งที่เรียนมาใช้ประโยชน์ได้จริง สามารถสื่อสารถ่ายทอดให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นเข้าใจได้ รู้สึกประทับใจกว่าได้เกรดดีหรืออะไรซะอีก
แต่ผลจากการเดินกันสบายๆ ทำให้พวกเราเข้าชมวัดพระแก้วไม่ทัน เลยต้องเปลี่ยนแผนมาวัดพระแก้ววันพรุ่งนี้แทน ด้วยเหตุนั้นเราเลยไปเดินโลหะปราสาทในวัดราชนัดดารามวรวิหารกันแทน พูดไปก็อายแต่ต้องขอยอมรับว่า AME.dama ก็เพิ่งจะเคยเข้ามาชมเป็นครั้งแรกนี่แหละค่ะ ปกติจะนั่งรถผ่านตลอด หารู้ไม่เลยว่าโลหะปราสาทนี้มีเพียงแค่ 3 แห่งในโลก ที่แรกคืออินเดีย แห่งที่สองคือศรีลังกา และแห่งที่สามคือประเทศไทย ซึ่งโลหะปราสาทในประเทศไทยนี้เป็นที่เดียวในโลกที่ยังคงสมบูรณ์ที่สุด พอได้เข้าไปอ่านประวัติเรื่องราวข้างในแล้วถึงเพิ่งจะรู้ว่ามีของดีขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งเดียวในโลกอย่างนี้ด้วย ทำไมที่ผ่านมาเราไม่เคยรู้ นักท่องเที่ยวก็ไม่เห็นมีใครมา เงียบมาก เลยรู้สึกเสียดายมากที่การประชาสัมพันธ์ตรงนี้ยังไม่มีพลังเท่าที่ควร ขอเป็นเสียงเล็กๆ สนับสนุนให้โลหะปราสาทเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นทั้งในหมู่คนไทยและคนต่างชาติค่ะ
ขณะนี้ที่กำลังจะออกจากวัดนั่นเอง ชิสุกะก็หยุดยืนมองหลวงพี่องค์หนึ่งที่กำลังถือถุงอาหารแมวมา แล้วกระซิบบอกว่าอยากขอถ่ายรูปด้วยจัง AME.dama เลยลองถามหลวงพี่ให้ ซึ่งท่านใจดีมากบอกได้เลย ขอวางถุงอาหารก่อนนะ ชิสุกะบอกว่าท่านน่ารักมาก มีซื้ออาหารแมวเลี้ยงแมวในวัดด้วย วัดนี้แมวเยอะมากจริงค่ะ ใครชอบแมวคงเพลิน
เย็นแล้วเราเข้าไปชมนิทรรศน์รัตนโกสินทร์รอบสุดท้ายทันพอดี มีสองเส้นทางให้เลือก แต่ละเส้นทางใช้เวลา 2 ชั่วโมง พวกเราเลยเลือกเส้นทางที่ 2 เพราะได้ยินว่ามีนั่งเรือ นั่งรถรางมีแสงสี น่าสนุก (วันนี้เน้นสนุกทั้งวัน)
เส้นทางนี้ก็จะมีไกด์พาเราชมประเทศไทยย้อนอดีตตั้งแต่สมัยนั่งเรือ เปลี่ยนมานั่งรถรางยันนั่งรถไฟฟ้าและ ประวัติศาสตร์พระมหากษัตริย์ไทยแต่ละพระองค์ ระหว่างทางมีจุดให้ถ่ายรูปช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เด็กหนุ่มนักศึกษาคนหนึ่งเอาหมวกทหารมาใส่ ชิสุกะเลยขอถ่ายรูปด้วย กลุ่มเพื่อนๆ ก็แซวกันใหญ่ว่า “โกโบริ อังศุมาลินมาขอถ่ายรูปด้วยน่ะ” ชิสุกะไม่เก็ท แต่ AME.dama ถ่ายรูปไปอมยิ้มไป
โซนย่านการค้าก็น่าสนใจค่ะ มีห้องเสื้อ และร้านตัดผมสมัยก่อนด้วย ตอนแรกพีไกด์บอกว่ามาลองตัดผม ลองชุดได้นะ เราก็คิดว่าเอาจริงเหรอนี่!? พอเข้าไปลองดูเท่านั้นแหละค่ะ
มันเปลี่ยนชุดเปลี่ยนทรงผมได้จริงด้วย!! โอ้ว โฮ เริ่ดจริง! ฮ่าๆ ถ้าชอบใจก็สามารถสั่งพิมพ์รูปในราคาใบละ 20 บาทเอากลับบ้านเป็นที่ระลึกได้ค่ะ
ระหว่างที่ยืนรอรถกลับไปหาคุณพ่อแถวอนุสาวรีย์ ชิสุกะก็สะดุดใจกับสัญลักษณ์ที่ทางเท้าในรูปด้านบนนี้ค่ะ นางก็ถามว่านี่คืออะไรเหรอ? AME.dama ก็นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วถึงบางอ้อว่ามันคือ “ทางจักรยานวิ่ง” ถึงแม้จะเป็นจักรยานล้อเดียวไปซะแล้วก็เถอะ….
ถึงจะเหนื่อยกันขนาดไหน พอมาถึงอนุสาวรีย์ชิสุกะก็หามุมถ่ายรูปป้ายโฆษณานิชคุณป้ายเบ้อเริ่มอย่างกระตือรือร้นจนได้ พลังแห่งความติ่งนี่สุดยอดจริงๆ
ทักทายพูดคุยกับ AME.dama ได้ที่ >>> Facebook AME.dama