บริษัทญี่ปุ่นมักให้ค่าตอบแทนค่อนข้างดี บางบริษัทอาจจะฐานเงินเดือนไม่สูงมากแต่โบนัสดี สมัยก่อนโอกาสที่คนไทยอย่างเราจะได้ทำงานในสถานะเดียวกับคนญี่ปุ่นนั้นมีน้อยเพราะมักมีฐานะเป็นเพียงผู้ช่วยงาน
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน วันนี้ฤกษ์งามยามดี มีคอลัมน์ใหม่ ก่อนอื่นขออนุญาตแนะนำตัวก่อนนะคะ ดิฉันชื่อ วิรุณรัช พจน์เสถียรกุล เรียนจบปริญญาโทจาก International University of Japan ที่เมืองนีงาตะค่ะ ปัจจุบันทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายส่งออกที่บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง จากประสบการณ์ทำงานประมาณ 10 ปีที่บริษัทญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง รวมถึงเคยทำงานทั้งที่บริษัทสัญชาติยุโรปและอเมริกา เลยคิดว่าอยากจะแบ่งปันประสบการณ์และความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำงานบริษัท ญี่ปุ่นในแง่มุมต่างๆ กับแฟนๆ Marumura ค่ะ
คุณผู้อ่านหลายคนที่อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นเพราะมุ่งมั่นฝันใฝ่ว่าอยากทำงานในบริษัท ญี่ปุ่น บางคนก็กำลังตัดสินใจที่จะเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่สามเพราะคิดว่า จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคตเนื่องจากในประเทศไทยมีบริษัทญี่ปุ่นอยู่ มากมาย หรือสำหรับบางคนที่อยากทำงานในบริษัทญี่ปุ่นแต่ก็ยังลังเลว่าการทำงานใน บริษัทญี่ปุ่นนั้นจะมีลักษณะเป็นอย่างไร ดิฉันเลยอยากเล่าประสบการณ์ตัวเองให้คุณผู้อ่านฟังค่ะ

ย้อนกลับไปวันแรกที่ได้เริ่มก้าวเข้าสู่การทำงานบริษัทญี่ปุ่น อารมณ์แรกที่ก้าวเท้าเข้าสู่ออฟฟิศคือ “ทำไมออฟฟิศมันเงียบขนาดนี้เนี่ย” เงียบจนได้ยินเสียงฝีเท้าตัวเอง และจากการที่เคยทำงานบริษัทชาติอื่นมาก่อนก็แอบอึ้งเล็กน้อยกับลักษณะออฟฟิศ แบบญี่ปุ่นคือ เป็นห้องโล่งกว้างที่ทุกคนนั่งรวมกันหมด แต่ละโต๊ะเชื่อมต่อกันโดยไม่มีสิ่งใดๆ กั้น เรียกได้ว่าใครเดินไปเดินมาอยู่ที่มุมใดของห้องก็จะเป็นจุดเด่นทันทีและ สามารถมองเห็นกันได้ทั้งออฟฟิศ ส่วนเจ้านายเหรอคะ เหอะๆ ไม่ได้มีห้องหรือโต๊ะพิเศษใดๆ นะคะ เป็นเพียงการได้นั่งที่หัวโต๊ะเท่านั้นค่ะ เรียกได้ว่าสามารถสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับลูกน้อง แต่ลูกน้องส่วนใหญ่ (รวมถึงดิฉันด้วย) คงไม่ชอบสักเท่าไร แหะๆ ลักษณะออฟฟิศแบบนี้ต่างจากบริษัทชาติตะวันตกเป็นอย่างมาก เพราะโดยมากโต๊ะจะมีที่กั้น ส่วนเจ้านายก็มีห้องเป็นสัดส่วน
บริษัทญี่ปุ่นในไทยจะมีชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งที่ถูกส่งมาจากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น ทำงานอยู่ การทำงานบริษัทญี่ปุ่นค่อนข้างมีระบบ มีขั้นมีตอน คนญี่ปุ่นส่วนมากจะจริงจังและตั้งใจทำงานมาก จึงมักจะไม่ค่อยพูดคุยและหน้าตาเคร่งขรึมในเวลางาน การลางานหรือมาสายนั้นแทบจะไม่มีเลย ทำให้คนไทยทำงานในบริษัทญี่ปุ่นก็ถูกคาดหวังเป็นอย่างยิ่งให้ปฏิบัติตามด้วย เป็นเรื่องปกติหากจะต้องทำงานล่วงเวลากันหลังเลิกงานจนถึงสี่ทุ่ม เที่ยงคืน ในทางกลับกัน คนญี่ปุ่นจะเห็นว่าเป็นเรื่องแปลกหรืออาจมองว่าไม่ตั้งใจทำงานหากเราลุกออก ไปทันทีหลังจากเลิกงาน จึงควรทำใจว่าต้องทำงานหนักและเหน็ดเหนื่อยหากต้องการทำงานบริษัทญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้น เราจะถูกมองในแง่ลบหากมาสาย ลางาน หรือกลับบ้านเร็วบ่อยๆ เพราะคนญี่ปุ่นจะมองความตั้งใจและกระบวนการทำงานมากกว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการ ทำงาน ดังนั้นหากเจ้านายคนญี่ปุ่นทราบว่าคุณตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่แล้ว ถึงแม้ว่าผลงานจะไม่ดีเท่าไรก็จะไม่ตำหนิคุณค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นความเคร่งครัดของระบบการทำงานหนักก็ขึ้นอยู่กับลักษณะความ เป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมค่ะ ถ้าบริษัททันสมัยหน่อยก็จะไม่เคร่งมาก

ระบบการทำงานของญี่ปุ่น แน่นอนว่ามีระบบอาวุโส ผู้ที่มีประสบการณ์น้อยกว่าควรจะให้ความเคารพต่อรุ่นพี่ ในขณะเดียวกันรุ่นพี่ก็จะให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำรุ่นน้อง ดังนั้นหากต้องการทำงานบริษัทญี่ปุ่นก็ควรปฏิบัติตามระบบอาวุโสนี้ด้วยค่ะ การทำงานสไตล์ญี่ปุ่นจะเน้นการทำงานเป็นทีม และความร่วมมือกันในกลุ่มมากกว่าการฉายเดี่ยวหรือการใช้ความสามารถเฉพาะ บุคคลเหมือนตะวันตก ดังนั้นจึงมีการประชุมกันบ่อยและเป็นเวลานานๆเพื่อถกเถียงปัญหาและหาข้อสรุปร่วมกัน ความสมานฉันท์ในกลุ่มคนทำงานจึงเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ดังนั้นในกลุ่มคนญี่ปุ่นจะนิยมไปทานข้าวสังสรรค์กันหลังเลิกงานซึ่งจะ เป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ภายในหน่วยงานและเพื่อสร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
นอกจากนี้หากอยากทำงานบริษัทญี่ปุ่นแล้ว ก็ต้องทำใจไว้ล่วงหน้านะคะ ว่าทุกๆ 2-3 ปีคุณอาจถูกย้ายแผนก เปลี่ยนหน้าที่ความรับผิดชอบค่ะ ถึงแม้ว่าคุณอาจรู้สึกไม่ชอบตำแหน่งหน้าที่ใหม่ที่ได้รับมอบหมายก็ตาม เพราะบริษัทญี่ปุ่นมองว่าการได้ทำงานหลายๆ ตำแหน่งเป็นการสร้างสมประสบการณ์และเป็นการพัฒนาความสามารถรอบด้าน มีรุ่นพี่ที่ดิฉันรู้จักโดนให้ย้ายจากงานเลขาไปเป็นฝ่ายพัฒนาธุรกิจ หรือถูกย้ายจากฝ่ายบุคคลไปทำบัญชีเป็นต้นค่ะ หลายๆ คนก็จะรู้สึกถูกกดดันเพราะไม่มีความรู้ในงานใหม่

บริษัทญี่ปุ่นมักให้ค่าตอบแทนค่อนข้างดี บางบริษัทอาจจะฐานเงินเดือนไม่สูงมากแต่โบนัสดี สมัยก่อนโอกาสที่คนไทยอย่างเราจะได้ทำงานในสถานะเดียวกับคนญี่ปุ่นนั้นมี น้อยเพราะมักมีฐานะเป็นเพียงผู้ช่วยงานเนื่องจากคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังนิยม ทำงานที่มีความสำคัญมากด้วยตัวเอง แต่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปมาก หลายๆบริษัทยอมรับคนไทยและคนไทยก็ได้ขึ้นตำแหน่งสูงเทียบเท่าคนญี่ปุ่นค่ะ
ในเรื่องภาษาถึงแม้ว่าคนญี่ปุ่นปัจจุบันจะพูดภาษาอังกฤษได้มากขึ้นแต่อาจไม่ มั่นใจในการใช้ภาษาเนื่องจากพูดไม่คล่องหรือสำเนียงการสื่อสารภาษาอังกฤษของ คนญี่ปุ่นจะฟังเข้าใจยากอยู่สักหน่อย ดังนั้นหากเราสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ก็จะเป็นประโยชน์มากและจะทำให้ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
คราวหน้าดิฉันจะมาเล่าให้ฟังนะคะว่าจะสัมภาษณ์ยังไงให้ได้งานที่บริษัทญี่ปุ่นค่ะ ตอนนี้ขอตัวไปทำงานต่อก่อนค่า
ทักทายพูดคุยกับพิชชารัศมิ์ ได้ที่ >>> Life Inspired by พิชชารัศมิ์
เรื่องแนะนำ :
– A-Dot Company ปรุงวัตถุดิบที่ไม่สมบูรณ์ให้เป็นอาหารแสนอร่อย
– เรียนรู้ทักษะการทำงานจากซีรีย์ญี่ปุ่น
– การตายของพนักงานบริษัทเดนสึที่เกิดจากการทำงานหนักเกินไป
– ผลิตอะไรให้สิ่งนั้นตอบแทนสังคม
– เทคนิคการปรับความคิดพิชิตสำเร็จตามแนวทางนักปรัชญาญี่ปุ่น Nakamura Tempu
– ธนาคารอาหารญี่ปุ่น เก็บของเหลือเพื่อคนยาก
#บริษัทญี่ปุ่น