ช่วงนี้เพื่อนสาวดิฉันมาบ่นเรื่องหนุ่ม ญี่ปุ่นให้ฟังอีกแล้ว (รอบที่ 18 ของเดือนนี้) จากการรับฟังคำบ่นของเพื่อนๆ น้องๆ ลูกเพจต่างๆ นานา น้อยใจหนุ่มญี่ปุ่นอย่างงั้นอย่างงี้ ฟังไปก็ค่อยๆ อธิบายไปว่าคนญี่ปุ่นเขาคิดอย่างไร บางสิ่งอาจไม่ใช่อย่างที่สาวๆ กังวลหรือจินตนาการก็ได้
เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างคู่รักไทย-ญี่ปุ่น Japan Gossip ฉบับนี้จึงขอนำเสนอ 6 เรื่องน่าน้อยใจยอดฮิตที่หนุ่มญี่ปุ่นกับสาวไทยยังไม่เข้าใจกันเสียที
1. ทำไมไม่ให้โทร
แฟนหนุ่มญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ยอมให้เบอร์ที่ทำงาน หรือไม่ยอมให้แฟนสาวโทรไประหว่างช่วงเวลางาน สาวไทยบางคนก็เก่งกาจมาก ไปสืบเบอร์โทรศัพท์ที่ทำงานแฟนและโทรไปหาเขาได้ในที่สุด ตอนแรกเธอกะจะโทรไปเซอร์ไพรส์เพื่อบอกว่า “คิดถึง” แต่กลับโดนแฟนหนุ่มเซอร์ไพรส์แทนด้วยบทสวดเป็นกัณฑ์ๆ
ทำไม … โทรไปหาแฟนที่ทำงานมันผิดตรงไหน …
คนญี่ปุ่นแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานอย่างชัดเจนมากค่ะ โทรศัพท์ที่ทำงานมีไว้คุยเรื่องงานไม่ได้ให้คุยเรื่องส่วนตัว เกิดลูกค้าหรือเจ้านายโทรมาแล้วสายไม่ว่างจะทำอย่างไร นอกจากนี้คนญี่ปุ่นเป็นคนที่ไม่อยากพูดเรื่องส่วนตัวต่อหน้าคนนอก โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงาน จะให้มาพูดจ๊ะจ๋าสวีทวี้ดวิ้วกับแฟนท่ามกลางเพื่อนร่วมงานตาดำๆ อีกสิบราย คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคนญี่ปุ่นจริงๆ
สถานการณ์ที่ภรรยา หรือสมาชิกครอบครัวคนญี่ปุ่นโทรไปที่ทำงานได้นั้น ต้องเป็นเรื่องที่คอขาดบาดตายจริงๆ เช่น ภรรยาเจ็บท้องใกล้คลอด หรือที่บ้านมีใครป่วยหนักต้องเข้าโรงพยาบาล หรือมีใครมีอันเป็นไป นอกเหนือจาก 3 กรณีนี้แล้วคนญี่ปุ่นจะไม่โทรหากันที่ออฟฟิศเป็นอันขาดค่ะ
2. ทำไมโทรไปไม่รับ
แม้สาวไทยจะรับรู้ถึงกฎคว่ำบาตรการโทรเข้าออฟฟิศของหนุ่มญี่ปุ่น แต่พวกเธอคิดว่าถ้าโทรเข้าโทรศัพท์มือถือแฟน คงไม่เป็นไรมั้ง คิดถึงจัง … ลองโทรไปดีกว่า ในกรณีนั้นสาวไทยอาจเผชิญกับเสียงสาวสวยพูดตามสายว่า … “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก The number you dial X%#+@(ฟังไม่ออก)…” หรือไม่ก็เป็นเสียงกระเทยร้อง “ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด”
ทำไม … แฟนไม่รับโทรศัพท์มือถือ …
กลับเข้าประเด็นเดิม คนญี่ปุ่นถือว่าเวลางานก็ต้องตั้งใจทำงาน ไม่มีการแอบเล่นเฟสบุ๊ค แช็ทไลน์ ช้อปปิ้งออนไลน์ หรือนั่งอ่าน marumura (อุ๊บส์…) บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือส่วนตัวระหว่างช่วง ทำงานเสียด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น พนักงานส่วนใหญ่มักจะโยนโทรศัพท์มือถือเข้าล็อคเกอร์ส่วนตัว หากมีเวลาหน่อยก็เช็ค Line บ้างตอนพักเที่ยง แต่ส่วนมากไปดูเอาหลังเลิกงานโน่นเลย ตั้งใจทำงานกันจริงๆ …. (ปรบมือให้ชาวญี่ปุ่น)
3. ทำไมตอบ line ช้า
สาวไทยหลายคนมักจะหงุดหงิดว่าทำไมหนุ่มญี่ปุ่นตอบ Line ช้าจัง ฉันส่งข้อความไปตั้งแต่ 10 โมง นางตอบมาตอน 2 ทุ่ม ฉันส่งไป 5 ประโยคพร้อมสติ๊กเกอร์หัวใจเลิฟยูอลังการ ฮีตอบกลับมาคำเดียวว่า “Me too” พวกเธอก็จะเริ่มสงสัย ตกลงเขารักฉันจริงไหมนี่ ต้องหันไปพึ่งหมอช้าง หมอลักษณ์ ให้ช่วยสอนวิธีไหว้พระจันทร์เพื่อเพิ่มพลังความรักแท้ให้แก่คู่เรา
ทำไมผู้ชายญี่ปุ่นตอบ Line ช้ามาก …
ขอตอบด้วยเหตุผลเดียวกับข้อ 2. ค่ะ หนุ่มญี่ปุ่นไม่ค่อยเช็ค Line ระหว่างงาน เพราะฉะนั้นหากเราส่งข้อความไประหว่างช่วงเวลางาน หนุ่มก็ดูไม่ได้ตอบไม่ได้
“งั้นถ้าโทรไม่ได้ ฉันส่งเมลแทนละกัน ส่งเข้าเมลบริษัทนี่แหละ ฮีเห็นชัวร์”
ฮีเห็น …แถมเจ้านายฮีตลอดจนฝ่ายบุคคลของฮีอาจได้เห็นสาส์นรักระหว่างเราได้นะคะ บริษัทบางบริษัทชอบสุ่มเช็คเมลพนักงาน เพื่อดูว่าพนักงานแอบติดต่อกับศัตรู หรือทำพฤติกรรมอะไรไม่เหมาะสมหรือเปล่า อย่าเมลเข้าอีเมลบริษัทเลยค่ะ เดี๋ยวจะเป็นการสร้างพยานรักในออฟฟิศโดยไม่รู้ตัวไปเปล่าๆ
ทางที่ดีจงรอค่ะ หรือไม่ก็เร่งสปีดส่งข้อความรักในช่วงเวลา Prime time กล่าวคือ ช่วงเช้าก่อนที่แฟนหนุ่มจะตอกบัตรเข้างาน และหลังเลิกงานแล้วบางทีหนุ่มของเราอาจไปกินเลี้ยงต่อกับคนในแผนกหรือลูกค้า ได้ กว่าจะตอบ line อีกทีก็ปาไป 4-5 ทุ่ม … อันนี้สาวๆ ก็ต้องทำใจนะคะ
4. ทำไมไม่ยอมอัพรูปคู่บนเฟส
คู่รักชาวไทยมักอัพรูปคู่นุ้งนิ้งกินไอติม ถีบเรือเป็ด อะไรทำนองนี้เสมอๆ คู่ไหนสวีทจัด ก็ถึงขั้นเปลี่ยนรูป Profile ในเฟสให้เป็นรูปคู่สองเรา ให้ชาวโลกและมาร์ก ซักเกอร์เบิร์กเป็นสักขีพยาน สาวไทยบางคนอยากทำอย่างนั้น จึงไปอ้อนวอนแฟนหนุ่มญี่ปุ่นให้อัพรูปคู่บ้าง บางรายลำบากหน่อยต้องเริ่มตั้งแต่บังคับให้แฟนสมัคร Account Facebook (คนญี่ปุ่นไม่ค่อยเล่นเฟสเท่าไร หนักทวิตเตอร์มากกว่า) ถ้าหนุ่มคนไหนมีเฟส ฮีก็มักจะอิดออดต่างๆ นานา ไม่ยอมลงรูปคู่เด็ดขาด (จะว่าไป ….อย่าว่าแต่รูปคู่เล้ย รูป Profile ในเฟสมันยังเป็นรูปการ์ตูนหรือรูปคนสีเทาๆ ที่เป็น default เสียด้วยซ้ำ)
ทำไมเขาไม่ยอมอัพรูปคู่…หรือเขาแอบมีคนอื่น ? หรือเขาไม่รักเราจริง?
ใจเย็นๆ ค่ะ ผู้ชายญี่ปุ่นอายที่จะเปิดเผยเรื่องส่วนตัวกับคนที่ไม่สนิท ยิ่งคนบนเฟสบางทีเป็นลูกค้าหรือคนรู้จักกันผิวเผิน การจะโชว์รูปตัวเองกับแฟน จะดูเหมือนผู้ชายคนนั้นเป็นคนขี้เห่อแฟนและดูไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่ (อารมณ์เด็กม.ต้นที่เพิ่งคบสาว) ผู้ชายญี่ปุ่นชอบที่จะดูคูล ขรึม ลึกลับมากกว่า รูปคู่เอาไว้ส่งและดูกันใน Line ก็พอ ไม่กล้าถึงขั้นโชว์ขึ้นเฟส

จากประสบการณ์อันยาวนาน ดิฉันจะมีโอกาสได้เห็นเพื่อนคนญี่ปุ่นอัพรูปคู่แฟนหนุ่มแฟนสาวก็ตอนวันที่ฮี และชีแต่งงาน หรือไม่ก็ครบรอบวันเกิดลูกไปเลย
5. ทำไมไม่พาไปโชว์ตัว
เวลาหนุ่มญี่ปุ่นไปทานข้าวกับเพื่อนๆ สาวไทยมักแอบน้อยใจอยู่หลายครั้ง ทำไมเขาไม่ชวนฉันไปด้วย เขาไม่อยากแนะนำฉันให้เพื่อนๆ รู้จักเหรอ
คนญี่ปุ่นเป็นคนที่คิดเผื่อล่วงหน้ามากๆ และมักจะเกร็งมีพิธีรีตองเวลาเจอคนที่ไม่สนิทหรือคนที่เพิ่งรู้จักกัน เพราะฉะนั้นหนุ่มญี่ปุ่นคิดว่าเวลานัดเพื่อนผู้ชาย หากตัวเองพาแฟนสาวไปด้วยเพื่อนๆ ก็จะเกรงใจ คุยอะไรไม่สนุกเหมือนทุกครั้ง มุขใต้สะดือก็เล่นไม่ได้ ส่วนตัวผู้ชายเองก็จะกังวลว่าแฟนจะนั่งหงอยเหงาไหม ทำให้สนุกได้ไม่เต็มที่ คนญี่ปุ่นจึงมักไม่ค่อยพาแฟนไปตามงานสังสรรค์ต่างๆ สักเท่าไร แม้แต่งานเลี้ยงทางธุรกิจ เช่น งานฉลองยอดขายทะลุเป้า งานเปิดตัวสินค้าใหม่ ผู้ชายญี่ปุ่นก็ไม่ออกงานพร้อมภรรยา ผู้หญิงญี่ปุ่นต้องอยู่บ้าน เลี้ยงลูก เตรียมอาหารและทำงานบ้านรอสามีกลับบ้าน เว้นเสียแต่งานนั้นเป็นงานที่บริษัทจัดเพื่อให้พนักงานพาครอบครัวมาสนุกร่ว มกัน
6. ทำไมไม่บอกรัก
คู่รักไทย-ญี่ปุ่นคู่ไหนคุยกันเป็นภาษาอังกฤษจะไม่ค่อยเจอปัญหานี้ แฟนญี่ปุ่นสามารถพูด “I love you” “I miss you” ได้เป็นปรกติหลังจากโดนสาวไทยเทรนเล็กน้อย หนุ่มๆ จะไม่ค่อยเคอะเขินหากต้องบอกรักเป็นภาษาอังกฤษ เพราะมันเป็นภาษาต่างประเทศ
แต่ถ้าเกิดสาวไทยพูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่องแคล่วและปกติคุยด้วยภาษาญี่ปุ่นกันเป็น หลัก สาวๆ จ๋า …โปรดเตรียมทำใจไว้เลยว่าคำหวานๆ แทบจะไม่หลุดออกจากปากพ่อหนุ่มญี่ปุ่นแน่นอน (อย่างมากก็..อ่ะ ผมชอบคุณ)
หนุ่มญี่ปุ่นมักไม่ค่อยแสดงความรู้สึกทางคำพูด ทุกอย่างพิสูจน์ด้วยการกระทำมากกว่า เขาถือว่าการเลี้ยงข้าว ซื้อของให้ ก็เป็นการแสดงความรักแล้ว ถ้ารักกันจริงก็รับรู้กันได้เองทำไมต้องพูดด้วย ในทางกลับกันสาวญี่ปุ่นเองก็ชินกับการกระทำเช่นนั้นมากกว่า หากมีหนุ่มมาคอยบอกรักทุกวันทุกคืน สาวญี่ปุ่นกลับมองว่าผู้ชายคนนี้ปากหวาน กะล่อน ไม่น่าไว้ใจ (นั่นเป็นสาเหตุที่หนุ่มไทยที่เรทติ้งดี มาเสียคะแนนตอนไปจีบสาวญี่ปุ่น)
สาวไทยอาจต้องทำใจ ลองมองส่วนดีอย่างอื่นของเขาแทนคำพูด เช่น ความใส่ใจ ความขยัน ความซื่อสัตย์ หรือไม่ก็ยอมบอกรักฝ่ายเดียวโดยไม่คาดหวังให้เขาพูดคำหวานๆ กลับมา ถึงจะอยู่กันยืดค่ะ
+++++++++++++++++
ลองทำความเข้าใจวิธีคิดแบบคนญี่ปุ่น และค่อยๆ ปรับความเข้าใจเข้าหากันและกันนะคะ ☺
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura