เรื่องตั้งชื่อ เรื่องง่ายๆ ของพายุญี่ปุ่น … ไม่ทราบจริงๆ ว่าประเทศญี่ปุ่น ปีนี้ไปทำบุญด้วยอะไรมา ถึงมีข่าวพายุเข้าเยอะมากและแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีเลย แต่ประเด็นที่น่าสนใจในครั้งนี้ก็คือ คนญี่ปุ่นเขาตั้งชื่อพายุกันยังไงกันนะ ???
ฝนที่ตกทางนู้น หนาวถึงคนทางนี้
เพราะตอนนี้ ไม่ทราบจริงๆ ว่าประเทศญี่ปุ่นปีนี้ ไปทำบุญด้วยอะไร ถึงมีข่าวพายุเข้าเยอะมากและแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีเลย
แต่ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ไม่นานมานี้ ผมและเพื่อนไปกินข้าวกับคนญี่ปุ่น และก็บอกว่าไทยก็มีพายุนะ เยอะอยู่พอตัว อย่างล่าสุดก็มี พายุที่ชื่อ “มังคุด” เข้ามา ชื่อน่ากินมาก
เพื่อนคนไทยที่นั่งโต๊ะเดียวกัน ก็เลยสงสัยว่า คนญี่ปุ่นเขาตั้งชื่อพายุกันยังไง? เพราะหากเราเคยติดตามข่าว อย่างฝั่งอเมริกา ก็มักจะตั้งชื่อพายุเป็นชื่อผู้หญิง เช่น แคทธารีน่า แซนดี้ เป็นต้นๆ
(ผมทราบมาว่า มีที่มาของการตั้งชื่อพายุเป็นชื่อผู้หญิงเพราะ กรมอุตุฯ บอกว่าถือเคล็ด ว่าใส่ชื่อเป็นผู้หญิงทุกอย่างจะได้ดูซอฟท์ลง… แต่เคยได้ยินอีกที่มาว่า เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่อารมณ์แปรปรวนง่าย คล้ายๆ กับพายุ เลยเอามาตั้งเป็นชื่อซะเลย)
ชิซูกะ?
ซูชิ? ยาโยอิ? ยากินิคุ? (พอเห็นคนไทยตั้งชื่อ มังคุด เราเลยคิดได้ว่า ญี่ปุ่นอาจจะตั้งเป็นของกินเหมือนกัน)
โอนิกิริ? (อันนี้ นี่สงสัยคนตั้งคง เป็นแนวโอตาคุนิดๆ)
[/quote]
ผมแอบชอบโมเมนต์ตอนที่คนไทยพยายามเดาชื่อพายุญี่ปุ่นนะ… ฮา (นามิ) มาก
เอาล่ะเฉลยเลยดีกว่า… คนญี่ปุ่นเขาตั้งชื่อพายุเลียนแบบเหมือนการตั้งชื่อมนุษย์หุ่นยนต์ดัดแปลงในเรื่องดราก้อนบอล
พายุหมายเลข 1 พายุหมายเลข2 …
อย่างพายุอันล่าสุดที่เพิ่งซัดโอกินาว่า และจะพาดผ่านเกือบทั้งเกาะญี่ปุ่นก็คือ พายุหมายเลข 24
ความเจ๋งของวิธีการตั้งชื่อแบบนี้ก็คือ พอจบหนึ่งปี ทุกคนก็ทราบอย่างง่ายดายว่าปีนี้ญี่ปุ่นมีพายุเข้ามากี่ลูก ไม่ต้องไปนับให้เสียเวลา
และไม่ต้องมาตั้งใหม่ทุกปี (อย่างที่อเมริกา มีการลิสต์รายชื่อ เตรียมทุกปีว่าจะตั้งชื่อพายุแต่ละลูกว่าอะไร จริงอยู่อาจเสียเวลา แต่คงสนุก)
และธรรมเนียมการตั้งชื่อแบบนี้ ก็ยังมีในเรื่องอื่นๆ อีก เช่น หากใครเรียนภาษาญี่ปุ่นก็จะรู้ว่า คนญี่ปุ่นเรียกเดือนง่ายมาก เดือนหนึ่ง เดือนสอง เดือนสาม ไปจนถึงเดือนสิบสอง มันง่ายต่อการจำดี ข้อเสียอย่างเดียวคือ คนญี่ปุ่นจะช้ากว่าเราเวลาถามว่า เดือนหก มี 30 หรือ 31 วัน
หรืออีกอย่างที่ผมสังเกตคือ ชื่อห้องประชุมของบริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ก็จะเล่นง่ายๆ “ห้องประชุมชั้น 16 ปีกขวา ปีกซ้าย” หรือไม่ก็ มีชื่อห้องไปเลยเช่น C7, B101 ซึ่งจะค่อนข้างต่างกับตอนที่ผู้เขียนมาอยู่ที่ไทย เราจะมีชื่อห้องประชุมเป็นชื่อคน หรือบางทีผมก็เห็นคือตั้งเป็นชื่อดอกไม้ เคยไปบริษัทนึง “คุณเวธิต กรุณาไปรอที่ห้องประชุมลีลาวดีนะคะ” (คือเอาตามตรง ผมชอบกว่าของญี่ปุ่นนะ มันดูมีชีวิตชีวากว่า ถึงแม้มันจะทำให้เราไม่รู้ และเดาไม่ถูกว่า ไอ้ห้องประชุมนั่น มันอยู่แถวไหน ชั้นไหนก็ตาม)
ในโลกที่แสนจะวุ่นวายและอลหม่าน ผู้เขียนหวังเป็นอย่างมากเลย ว่าโลกของเราน่าจะมีการตั้งชื่อ ทุกสรรพสิ่งให้ง่าย จำสะดวก
แต่ท้ายสุด แม้แต่ญี่ปุ่นเอง ชนชาติที่อุตส่าห์สร้างระบบที่แสนทรงประสิทธิภาพมากมายให้แก่พื้นพิภพของเรา…. แต่เมื่อเราหันไปดูสินค้า เช่น กล้อง รถยนต์ หรือรุ่นเครื่องปรินท์เตอร์ของญี่ปุ่น ก็ไม่ได้จำง่ายเล้ย….
เอาล่ะครับ บทความ 73 ขอจบแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันในบทความหน้า ณ บทความที่ 74.14285 นะครับ
เรื่องแนะนำ :
– ทดสอบความคิด…. ญี่ปุ่นกับทักษะการ [กะ]
– Tokyo Marathon กับทฤษฎีรูหนอน
– “Fukugyou 副業” แล้วซักวันฉันจะได้ไม่ต้องเป็นซาลารี่แมน
– [ทดความคิด] ฝันโง่ๆ ของซามูไรสีน้ำเงิน บอกอะไรกับเรา…
– [ทดความคิด] เพราะวิถีญี่ปุ่น ปกติอาจไม่ใช่ปกติ?!